posttoday

มติ8พรรคเสนอชื่อพิธาโหวตนายกฯรอบ2 ถ้าเสียงไม่พอต้องถอยให้เพื่อไทย

17 กรกฎาคม 2566

8พรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาล เสนอชื่อพิธา ชิงนายกฯ ในการโหวตรอบ2 หลังไม่ผ่านรอบแรก ภายใต้เงื่อนไข หากได้รับเสียงสนับสนุนไม่พอ ก้าวไกล ต้องเปิดโอกาสให้เพื่อไทย เสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในการโหวตรอบ3

มติ8พรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาล เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในการประชุมร่วมรัฐสภา วันที่ 19ก.ค.2566

เมื่อเวลา 18.30 น.นายพิธา แถลงหลังการประชุมว่า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล มีมติยืนยันจะเสนอชื่อตนเพียงคนเดียว แต่ถ้าการโหวตฯครั้งที่ 2 ไม่ได้มีคะแนนเสียงเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญประมาณ 10% จากครั้งก่อน หรือ 340-350 เสียง ก้าวไกล จะเปิดทางให้พรรคอันดับ 2 คือพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ในโหวตนายก ครั้งที่ 3 

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่ามีการยกหูโทรศัพท์ไปทาบทามให้พรรคขั้วรัฐบาลเดิม มายกมือสนับหนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี นายพิธา ยอมรับว่า ได้โทรหาแกนนำพรรคข้้วรัฐบาลเดิมหลายพรรคจริง ยกเว้นพรรคลุงที่ไม่ได้โทรแต่ไม่ได้ร้องขอเสียงให้มาสนับสนุน เพียงแต่เป็นการพูดคุยถึงสถานการณ์การเมืองเฉยๆและส่วนตัวไม่ได้กังวลที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดพิจารณาคุณสมบัติสถานะสมาชิกภาพส.ส.กรณีถือหุ้นไอทีวี วันที่ 19 ก.ค.นี้ เพราะไม่ว่าผลออกมาเป็นอย่างไรก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 
 

นายภูมิธรรม เวชยชัย  รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นึ่งในคณะเจรจาที่ได้ไปหารือกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล กล่าวว่า  ข้อสรุปในที่ประชุมเป็นไปด้วยดี มีความชัดเจนมากขึ้น โดยภาพรวมเป็นไปตามอย่างที่หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้แถลง รวมถึงการเคลียร์ประเด็นที่ตนได้สงสัยให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น 

ส่วนการตีความเรื่องญัตติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาที่ 41 เราก็ยังเห็นว่ายังคงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ส่วนพรุ่งนี้ (18ก.ค.66)ก็จะมีตัวแทนพรรคเพื่อไทยไปประชุมวิป 3 ฝ่ายที่สภา ก็หวังว่าจะให้เป็นไปตามกระบวนการ รวมถึงในเรื่องที่จะเสนอชื่อนายพิธาอีกครั้งหนึ่ง 

"ก็ให้โอกาสที่จะทำงานกันต่อทำให้เต็มที่หากไหวก็ไปกันต่อ ถ้าไม่ไหวก็ให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่เหมาะสม ส่วนการขอเสียงสนับสนุนจากส.ว.ทุกพรรคต้องช่วยกัน ต้องใช้ความพยายามในการทำความเข้าใจ ไม่อาจคาดเดาได้ว่าผลจะออกมาเป็นแบบไหน ส่วนแผน 2 พรรคเพื่อไทยยังไม่มีแต่ยังมีเวลาในการพูดคุยหารือกันต่อ ส่วนจะต้องมีการพักประชุมรัฐสภา หรือจะต้องกลับมาพูดคุยกันต่อนั้น ก็ต้องดูกรอบเวลา และจะมีการถกเถียงกันมากน้อยแค่ไหน โดยวาระนั้นจะจบภายในวันเดียว หลังจากนั้นก็จะมีโอกาสได้ดำเนินการต่อ" นายภูมิธรรม กล่าว