posttoday

ปลุกม็อบส้ม สุ่มเสี่ยง ทำผิดเงื่อนไขประกันตัว เปิดช่อง เช็กบิลย้อนหลัง

17 กรกฎาคม 2566

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พ่ายแพ้ เสียงโหวตในรอบแรก ไปไม่ถึงเก้าอี้นายกฯ เกิดกระแสความไม่พอใจกลุ่มสว. ทนายอานนท์ นำภา ชักชวนผู้สนับสนุน พรรคก้าวไกล ออกมาแสดงพลัง โดยที่ตัวเขา ติดเงื่อนไขการประกันตัว มีความสุ่มเสี่ยงต่อข้อกฎหมาย อาจเปิดช่องให้โดนเล่นงานย้อนกลับก็เป็นได้

ผลโหวตเลือก นายกรัฐมนตรี รอบแรก เมื่อ13ก.ค.66 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ไปไม่ถึง ฝั่งฝัน เสียงจากที่ประชุมร่วมรัฐสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) สมาชิกวุฒิสภา(สว.) รวมกันได้เพียง 324 เสียง ห่างจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ ต้องได้ 376 เสียง ขณะเดียวกัน สว. พรรคก้าวไกล เฝ้าออดอ้อน ขอคะแนน หวังจะให้เป็น ปัจจัยตัวแปรเปลี่ยน สมการทางการเมือง ได้รับเสียงสนับสนุนเพียง 13 เสียง จาก250เสียงเท่านั้น 


ภายหลังจาก ผลการลงคะแนนออกมา ส.ส.ก้าวไกล เข้าชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เกี่ยวกับ อำนาจหน้าที่สว. ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ทันที


บรรดากองเชียร์ ผู้สนับสนุน พิธา พรรคก้าวไกล ในนาม 'ด้อมส้ม' เปิดปฏิบัติการณ์ทั้ง ในโลกออนไลน์ ในโลกออฟไลน์ พุ่งเป้าไปยัง กลุ่มสว. แม้หลายคน จะใช้สิทธิ์ 'งดออกเสียง' หรือ ไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุม หนีไม่พ้น ตกเป็น เป้าการโจมตี 

 

ในโลกออนไลน์ 
นอกจาก ตัดพ้อ โจมตี ด่าทออย่างสาดเสียเทเสียแล้ว ยังขยายขอบเขต ขุดคุ้ย รากเหง้า เครือข่ายธุรกิจสว. เครือญาติ คนใกล้ชิด ลุกลามไปถึง การเปิดประเด็นเรื่อง ส่วนตัว ระบายความแค้น 


ท่ามกลาง เสียงท้วงติง ไม่เห็นด้วย ต่อการกระทำดังกล่าว แต่ดูเหมือน จะหยุดปฏิกิริยา กองเชียร์ ด้อมส้ม ที่ลุกลาม ไปไกลไม่ได้แล้ว

 

ในโลกออฟไลน์
 

วันที่12ก.ค. 
อานนท์ นำภา ทนายความ และ แกนนำกลุ่มราษฎร จับทิศทางลม ผลลงคะแนนคงไม่ได้เป็นดังหวัง โพสต์ข้อความลง ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ค ชักชวนให้ กลุ่มผู้คนสนับสนุน พิธา พรรคก้าวไกล ไปแสดงพลัง ลานสกายวอล์ค หน้าหอศิลป์กทม. ก่อนวันโหวตเลือกนายกฯ 

วันที่13ก.ค.
ผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล จำนวนหนึ่ง รวมตัวติดตาม การประชุมร่วมรัฐสภาฯ เลือกนายกรัฐมนตรีคนที่30 บริเวณหน้ารัฐสภาฯ 


วันที่14ก.ค.
กลุ่มผู้สนับสนุน เริ่มผุดแคมเปญต่างๆ พุ่งเป้าไปยัง กลุ่มสว. เปิดปฏิบัติการณ์ Cyber war  

วันที่15ก.ค.
นายอานนท์ นำภา โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ค จัดคาร์ม็อบเอาใบลาออกไปยื่นให้ ส.ว. นัดหมายกันในวันรุ่งขึ้น ขับเคลื่อนไปตามถนนเส้นทางต่างๆ

วันที่16ก.ค.
กลุ่มผู้สนับสนุน พรรคก้าวไกล พิธา ในนาม car Mob ที่มี อานนท์ เป็นแกนนำ เคลื่อนขบวนไปตามจุดต่างๆ ทำกิจกรรม ส่งสัญญาณไปถึง สว.

วันที่18ก.ค. กลุ่มของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อีกหนึ่งแนวร่วมกลุ่มราษฎร เตรียมยื่นหนังสือ คัดค้านการตัดสิทธิ์ส.ส.ของ พิธา และ คัดค้านการรับคำร้องของศาล หลังจากรับกรณี พรรคก้าวไกลเสนอแก้ไขมาตรา112 ที่นำมาใช้เป็นนโยบายหาเสียง เข้าสู่สารบบศาล 
 

19ก.ค.
 กลุ่มผู้สนับสนุน พิธา พรรคก้าวไกล เตรียมนัดหมายรวมตัวเพื่อมาให้กำลังใจ ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่สองกันอีกครั้ง

 

จากปฏิกิริยาการแสดงออกทางการเมือง ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นจาก ส่วนกลาง กทม. หรือ ต่างจังหวัด ดูเหมือนจะได้รับเสียงตอบรับ ไม่ได้เท่าที่ควร พลังแนวร่วม ส่วนใหญ่ จับทิศ อ่านกระแสเกมการเมืองออก โอกาส พิธา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่30 ภายใต้การนำ รัฐบาลก้าวไกล คงเป็นเรื่องยาก


ขณะเดียวกัน ก่อนหน้า ทนายอานนท์ นำภา เคยได้รับการประกันตัว 2 คดี ได้แก่ คดีประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์ ที่ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และคดีฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉินฯ การชุมนุม 18 พ.ย. ที่แยกราชประสงค์ โดยให้วางเงินสดเป็นหลักประกัน 200,000 บาท และ 100,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข 8 ข้อ ห้ามฝ่าฝืน


โดยหนึ่งในนั้นระบุว่า

'ห้ามโพสต์ข้อความที่เป็นการปลุกปั่นให้มวลชนเข้าร่วมกิจกรรมชุมนุมในสื่อโซเชียล หรือเข้าร่วมชุมนุมที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวาย'

 

แพนกวิ้น-'พริษฐ์ ชิวารักษ์' รุ้ง-'ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล'  ไผ่ดาวดิน-'จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา' เป็นต้น ผู้มีอิทธิพลทางความคิด การกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหว เป็นหัวเรือหลัก ในการขับเคลื่อนกิจกรรม นัดแนะชุมนุม แสดงออกทางการเมือง หลังจากได้รับการปล่อยตัว ต่างลดบทบาท การเคลื่อนไหวทางการเมืองลงเป็นอย่างมาก 

ปฏิกิริยา กลุ่มแฟล็ชม็อบ ที่เคยสร้างปรากฎการณ์การชุมนุมของ นิสิต นักศึกษา สนับสนุนแนวทาง นโยบายพรรคก้าวไกล แต่ในวันนี้ กลับไม่เหมือนในอดีต พลังกดดัน จากกระแสสังคม ไม่อาจนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจ กลุ่มสว. และ พรรคฝ่ายตรงข้ามได้ ยิ่งการกดดัน การกำหนดเป้าหมาย ไปในเรื่อง ส่วนตัวของบุคคล ยิ่งไม่เกิดผลดีต่อฝ่ายเคลื่อนไหว 

'สมชาย แสวงการ' สว. ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) เตรียมหารือ วิป 3 ฝ่าย ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 ระบุ ญัตติเสนอซ้ำไม่ได้ โดยเฉพาะการ เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นถ้าวันที่ 19 ก.ค. เสนอมา คงต้องมีการอภิปรายกันว่า ดำเนินการไม่ได้ เพราะเกรงว่ารัฐสภาจะดำเนินการขัดต่อกฎหมาย ถ้าโหวตนายพิธา ผ่านก็จะถูกร้องว่าการกระทำนั้นไม่ชอบ 


นอกจากนี้ สว.หลายคน ได้ใช้ช่องทางทางกฎหมาย ต่อผู้ที่แสดงความคิดเห็น ละเมิด ฝ่าฝืนกฎหมาย ก็ถูกสว. โต้กลับ ใช้ช่องทางกฎหมายดำเนินคดี ทั้งทางแพ่ง อาญา โดยเป็นการดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดอีกด้วย 


'ภูมิธรรม เวชยชัย' หนึ่งในแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาแสดงความคิดเห็นรายวัน พุ่งตรงไปยัง พรรคก้าวไกล ทั้งประเด็น การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา272  การเสนอชื่อโหวตพิธา อีกครั้ง พร้อมกับ ส่งสัญญาณหากโอกาส พรรคก้าวไกล โหวตไม่ผ่านในสภาฯ ต้องเป็นโอกาสให้ พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลบ้าง 


ทนายอานนท์ ผู้นำทางความคิดของ กลุ่มแฟนคลับ ด้อมส้ม ก้าวไกล พิธา ก็ยังติดเงื่อนไขของศาล เป็นชนักติดหลัง ในทุกบริบท การขยับขับเคลื่อน ทุกคำพูด ทุกคำปราศรัย ทุกการเคลื่อนไหว สุ่มเสี่ยงต่อ การทำผิดเงื่อนไขศาล  ที่อาจเปิดช่องให้ผู้ได้รับผลกระทบ หรือ ฝ่ายตรงข้าม นำไปเป็นข้อร้องเรียน นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ศาลได้พิจารณา ได้เช่นกัน


หันมองไปทางไหน แนวรบในสภา นอกสภา ยิ่งเคลื่อนไหวยิ่งติดล็อก ยิ่งเข้าทาง ทุกอย่างสิ่งล้วนไม่เป็นใจ ให้ ก้าวไกล เอาเสียเลย 

ข่าวล่าสุด

นายกฯอนุทินหาทางช่วยคนไทยตกค้างกัมพูชากลับประเทศปลอดภัย