posttoday

เปิดโผกลุ่มหุ้นได้-เสียประโยชน์ เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 4.5 ปี

23 ธันวาคม 2568

ส่องหุ้นได้ประโยชน์ และได้รับผลกระทบเงินบาทจ่อหลุด 31 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่ามากสุดในรอบ 4.5 ปี นับตั้งแต่กลาง มิ.ย.64

KEY

POINTS

  • เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 4.5 ปี ส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มที่มีหนี้ต่างประเทศ เช่น โรงไฟฟ้าและสายการบิน และกลุ่มผู้นำเข้าวัตถุดิบ เนื่องจากต้นทุนลดลง
  • กลุ่มที่ได้รับผลกระทบเชิงลบคือภาคการส่งออก เนื่องจากราคาสินค้าในรูปดอลลาร์จะสูงขึ้น ทำให้ความสามารถในการแข่งขันลดลง
  • หุ้นขนาดใหญ่อาจเป็นเป้าหมายของ Fund Flow จากต่างชาติที่กลับเข้ามาลงทุน หากเงินบาทยังคงแข็งค่า

ค่าเงินบาทวันนี้ (23 ธ.ค.2568) เปิดช่วงเช้าที่ระดับ  31.12 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดของวันก่อนหน้า (22 ธ.ค.2568) ที่ระดับ  31.18 บาทต่อดอลลาร์ ล่าสุด เวลา 15.38 น. อยู่ที่ระดับ 31.11 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่ามากสุดนับตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย.2564 หรือในรอบ 4.5 ปี 

USD/THB ล่าสุด ณ วันที่ 23 ธ.ค.2568 เวลา 15.38 น.

“พูน พานิชพิบูลย์” นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB ประเมินว่า กรอบเงินบาทวันนี้จะอยู่ที่ระดับ 31.05-31.20 บาทต่อดอลลาร์ 

เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น หนุนโดยการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และการปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ของราคาทองคำ ที่ได้อานิสงส์จากทั้งธีม Japanese Yen Debasement ในช่วงนี้ รวมทั้งสถานการณ์ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ที่กลับมาร้อนแรงขึ้น หลังทางการสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้ายึดเรือน้ำมันของเวเนซุเอลา ประกอบกับสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ก็ยังคงร้อนแรงอยู่ แม้ว่าจะมีการพยายามเจรจาเพื่อยุติสงคราม

จากการแข็ค่าของเงินบาทดังกล่าว ทำให้ตั้งแต่ต้นเดือน ธ.ค.2568 (MTD) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงกว่า 3.26% และตั้งแต่ต้นปี 2568 (YTD) แข็งค่าเร็วและแรง 9%  

ทั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้น เป็นปัจจัยที่หลายภาคส่วนจับตามองว่าส่งผลต่อเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นห่วงและไม่ได้นิ่งนอนใจในประเด็นนี้ ได้มีการสั่งการให้ธนาคารพาณิชย์ตรวจสอบเอกสารในธุรกรรมการขายเงินตราต่างประเทศเพื่อแลกซื้อเงินบาทของธุรกิจทองคำอย่างเข้มงวด 

นอกจากนี้ อยู่ระหว่างการขอให้ออกประกาศกระทรวงการคลังเพื่อให้อำนาจ ธปท. ในการเรียกข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายเงินตราต่างประเทศจากผู้ค้าทองคำรายใหญ่ ซึ่ง ธปท. อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นในการปรับปรุงหลักเกณฑ์ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน

โดยวานนี้ (22 ธ.ค.2568) ได้เชิญสมาคมผู้ค้าทองเข้ามาประชุมและชี้แจงเกี่ยวกับแนวทางการรายงานข้อมูลธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายทองคำต่อ ธปท. เพื่อประกอบการพิจารณาแนวทางลดผลกระทบของการซื้อขายทองคำต่อค่าเงิน โดยทางสมาคมฯ รับไปหารือและจะกลับมาแจ้งต่อ ธปท. หากมีข้อจำกัดใด ภายในสัปดาห์นี้

ล่าสุด วันนี้ (23 ธ.ค.2568) กระทรวงการคลัง ธปท. และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมแถลงข่าว “ค่าเงินบาท” ซึ่งพบว่า “ธุรกรรมทองคำบนแพลตฟอร์มออนไลน์” คือตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดแรงขายดอลลาร์เพื่อซื้อบาทในปริมาณมหาศาล 

โดยปริมาณการซื้อขายทองคำในไทยเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ในปี 2567 มีสัดส่วนสูงถึง 39% ของ GDP และคาดว่าจะเกิน 50% ในปี 2568 ในบางช่วงเวลา แรงขายดอลลาร์จากธุรกรรมทองคำมีสัดส่วนสูงถึง 45-62% ของแรงขายดอลลาร์ทั้งประเทศ

ดังนั้น เตรียมออก 3 มาตรการเชิงรุก เพื่อรับมือกับสถานการณ์เงินบาทแข็งค่าที่มีสาเหตุหลักมาจากปริมาณธุรกรรมทองคำออนไลน์ที่สูงผิดปกติ ได้แก่ 

1.กำหนดให้แพลตฟอร์มทองคำรายงานข้อมูลธุรกรรม 

2.ศึกษาการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะจากการซื้อขายทองคำผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ 

3.กำกับดูแลปริมาณการทำธุรกรรมทองคำให้มีความเหมาะสม เช่น การกำหนดเพดานวงเงินในการซื้อขายทองคำ

ค่าเงินบาทแข็งค่า ส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน เช่น ภาคการส่งออก นอกจากนี้ ยังมีหุ้นที่ได้ประโยชน์ และหุ้นได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าด้วย

ที่มา : บล.เอเซีย พลัส Generate โดย NotebookLM

บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ตั้งแต่ต้นเดือน (MTD) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงกว่า 3.26% ซึ่งดูเหมือนจะขัดแย้งกับปัจจัยพื้นฐานบางกลไก อาทิ DOLLAR INDEX อ่อนค่าลงเพียง 1.20%, FUND FLOW ต่างชาติไหลออกตราสารหนี้กว่า 1.5 หมื่นล้านบาท และค่าเงินแข็งกว่าเพื่อนบ้านอย่างมีนัยสำคัญ ทิ้งห่างอันดับ 2 ในเอเซีย อย่าง มาเลเซีย ที่แข็งค่าเพียง 1.14% เท่านั้น

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ เน้นหุ้นได้ประโยชน์เงินบาทแข็งค่า 

  • โรงไฟฟ้า/สายการบิน: GULF, BGRIM, EGCO, PTT, AAV, BA (มีหนี้ต่างประเทศเยอะ จ่ายหนี้ถูกลง) 
  • นำเข้า: TFG, TVO (ต้นทุนนำเข้าวัตถุดิบถูกลง)
  • เป้าหมาย FUND FLOW: KBANK, SCB, SCC, CPALL, ADVANC (ถ้าบาทแข็ง ต่างชาติอาจสนใจกลับมาซื้อหุ้นใหญ่)

ข่าวล่าสุด

ดูบอลสด ถ่ายทอดสด อาร์เซน่อล พบ คริสตัล พาเลซ คาราบาวคัพ วันนี้