จับตา21มิ.ย. สูตรการเมืองเปลี่ยน พลิกเกม พรรคแกนนำตั้งรัฐบาล

“การประกาศรับรองผลจะต้องเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนดให้ต้องประกาศไม่เกิน 60 วัน กระบวนการนี้ใกล้จะแล้วเสร็จ ถ้าสัปดาห์หน้ามีข้อมูลเพียงพอก็สามารถที่จะประกาศรับรองผลให้ได้อย่างน้อยร้อยละ95 กรณีที่มีเอกสารหลุด และพบว่า ว่าที่ 71 ส.ส.ที่พบเรื่องร้องเรียนนั้น เป็นเอกสารที่สำนักงานเสนอข้อมูลต่อที่ประชุมกกต. เพื่อประกอบการพิจารณา ซึ่งเป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่ง ไม่ใช่ข้อมูลหลัก และยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์  

ส่วนที่จะมีความเป็นไปได้ที่จะไม่ประกาศรับรองผลให้กับว่าที่ 71 ส.ส.หรือไม่ ยังไม่อยากพูดเช่นนั้น เพราะเมื่อดูข้อมูลคำร้องจะสามารถพูดได้ว่าสำนวนที่ร้องเป็นประเภทใด ถ้าเกี่ยวข้องทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม กกต.ต้องพิจารณาว่าจะมีมติให้ดำเนินการอย่างไร หรือจะให้ดำเนินการสืบสวนต่อไปก่อน

หากมีใบเหลืองหรือใบส้ม จะต้องดำเนินการก่อนประกาศก่อนรับรองผล ส.ส. ส่วนจะแจกให้กับใครหรือไม่แจกนั้นจะต้องดูที่กระบวนการสืบสวนไต่สวน ข้อมูลมาจาก กกต.จังหวัดหรือส่วนกลางเสร็จเรียบร้อยแล้ว และเสนอผ่านเลขาธิการกกต.เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมกกต. ไม่สามารถพูดได้ว่ากระบวนการจะเป็นอย่างไรต่อไป ในระยะเวลาที่เหลืออยู่ก่อนครบกรอบ 60 วัน หาก กกต.ต้องสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ก็สามารถที่จะทำได้  เพราะระยะเวลามีเพียงพอและกฎหมายเปิดช่องระยะเวลา เพื่อดำเนินการ ขณะนี้สำนวนคำร้องเรียนคัดค้านการเลือกตั้ง กกต.ยังไม่ได้มีการเริ่มพิจารณา”

 

'อิทธิพร บุญประคอง' ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ชี้แจง กระบวนการความพร้อม การเตรียมรับรองผลการเลือกตั้งส.ส. และความน่าจะเป็น ว่าที่71 ส.ส.อยู่ในข่ายมีเรื่องร้องเรียน จะออกมาในรูปแบบใด  

ฉากทัศน์การเมืองหลังจบศึกเลือกตั้ง 14พ.ค. ไปแล้ว ยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน กระบวนการจัดตั้งรัฐบาล ที่มีพรรคก้าวไกล เป็นแกนนำ ผนึกกำลังพรรคพันธมิตร รวมทั้งสิ้น 8 พรรค 312 เสียง จะสำเร็จลุล่วง หรือไม่ 

การหาเสียงจาก สมาชิกวุฒิสภา(สว.) อย่างน้อย 64 เสียง มาโหวตให้ พิธา เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่30 สามารถหาเสียงมาสนับสนุน ได้จริงหรือไม่  

คดีถือหุ้นไอทีวีของ 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' กระบวนการการเตรียมยื่นให้ตรวจสอบทั้งจาก ส.ส.เอง ที่จะส่งไปยัง ศาลรัฐธรรมนูญ หรือแม้แต่เรื่องที่ ไต่สวนจากกกต. และส่งไม้ต่อไปให้ ศาลอาญา รับช่วงต่อ จะเกิดขึ้นช่วงเวลาใด ช้าหรือเร็ว ทั้งหลายทั้งปวง ล้วนส่งผลกระทบย้อนกลับมายัง พิธา พรรคก้าวไกล ทั้งสิ้น

 

ล่าสุด มีประเด็น ว่าที่ส.ส. 71 คน ให้เพิ่มเข้ามาเป็น สมการอันน่าปวดหัว ไปอีก 

แม้กกต.จะออกตัว พร้อมรับรองส.ส.ให้ครบ95 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้เปิดประชุมสภา เลือกประธานสภา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ไปก่อน

แต่ต้องไม่ลืม จำนวนว่าที่ ส.ส.71คน กกต.มีอำนาจตามกฎหมาย กกต. “อาจจะ” สั่งเลือกตั้งใหม่ในบางเขต หากมีข้อมูล อันเชื่อได้ว่า การเลือกตั้งไม่สุจริต ประเด็นนี้ทำให้ แต่ละพรรคการเมือง ไล่เช็กข่าว ประเมินความสุ่มเสี่ยง หากต้องมี การเลือกตั้งซ่อมจริง จะเกิดขึ้นกี่เขต หากเกิดขึ้นในเร็ววัน จะวางแผน รับมือ แก้เกมกันอย่างไร 

ว่าที่ส.ส.ทั้ง 71 เขต ที่ถูกร้องคัดค้าน ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล 7 คน พรรคภูมิใจไทย 21 คน พรรคเพื่อไทย 20 คน พรรคพลังประชารัฐ 14 คน พรรครวมไทยสร้างชาติ 3 คน พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน พรรคไทยสร้างไทย 2 คน พรรคเพื่อไทรวมพลัง 1 คน

จาก21เขต ว่าที่ส.ส. ภูมิใจไทย โดนร้องเรียนมากที่สุด ในจำนวนนี้พบว่า มีมากถึง 16 เขต กระจายอยู่ใน พื้นที่ภาคกลาง ตะวันตก ภาคอีสาน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็น พื้นที่เป้าหมาย พรรคเพื่อไทย ทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14พ.ค.66 หลายต่อหลายเขต ผู้สมัคร พรรคเพื่อไทย ได้คะแนนมาเป็นลำดับที่2 มีคะแนนไล่ตาม ห่างกันไม่มากนัก

อำนาจเจริญ ขอนแก่น นครราชสีมา ชัยภูมิ  บุรีรัมย์  บึงกาฬ พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น หากไม่นับรวม บุรีรัมย์ แต่ในจังหวัดอื่นๆ  ล้วนเป็น พื้นที่เดิมของ เพื่อไทย เคยเป็นแชมป์เก่ามาก่อน 

ทำให้มีการมองว่า ในกรณีเลวร้ายสุด โดนสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ พรรคภูมิใจไทย อาจเพลี่ยงพล้ำ เสียไปบางพื้นที่ พรรคเพื่อไทย อาจจะได้จำนวนส.ส. เพิ่มขึ้นมา 

เช่นเดียวกับพรรค ก้าวไกล มีเรื่องร้องเรียน คัดค้านการเลือกตั้ง 7 เขต พบว่า หลายต่อหลายเขต กระจายใน ภาคเหนือ กลาง ตะวันออก กทม. มีหลายเขตเช่นกันที่ มีคะแนนชนะ พรรคเพื่อไทย พรรคการเมืองอื่น ห่างกันไม่มากนัก 

 
พรรคเพื่อไทย โดนแขวน 20 เขต หากโดนสั่งเลือกตั้งใหม่ เขตที่โดนแขวน ส่วนใหญ่อยู่ใน พื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน เป็นส่วนใหญ่ ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ล้วนเป็นผู้ชนะเป็นเจ้าของพื้นที่เดิม 

 
ตัวเลขจำนวนส.ส.ที่กกต.ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ พรรคก้าวไกล จำนวนส.ส. 151 คน(ระบบเขต112คน)  เพื่อไทย 141 คน(เขต112คน) ภูมิใจไทย 71 คน(เขต68คน)

นักยุทธศาสตร์การเมือง คีย์แมนแต่ละพรรค กำลังประเมินกันว่า ในวันที่21มิ.ย. กกต.จะประกาศรับรองผลเลือกตั้งออกมา ครบ95 เปอร์เซ็นต์เลย

แต่ถึงแม้จะประกาศครบ ทำให้เปิดประชุมสภาฯได้ แต่กกต.ยังมีอำนาจสอยส.ส.ได้ อาจออกมาในรูปแบบทั้ง ใบเหลือง ใบส้ม ใบแดง ใบดำ ขึ้นอยู่กับมูลฐานความผิด จะสั่งให้มีการ เลือกตั้งซ่อม ในกี่เขต ท่ามกลางกระแสข่าว ที่ออกมาไม่สู้ดีนัก

กระบวนการตรวจสอบ หุ้นไอทีวี พิธา เดินหน้าไปเรื่อยๆ 

การรวมเสียงส.ส.ของฝ่ายร่วมจัดตั้งรัฐบาล ไม่นิ่ง การแบ่งโควตากระทรวง ตำแหน่งสำคัญๆ ทางการเมือง ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นอีกจุดเปราะบางทางการเมือง 

เมื่อดูจาก สมการการเมือง พรรคก้าวไกลมี 151 เสียง เพื่อไทย 141 เสียง ภูมิใจไทย 71 เสียง จำนวนตัวเลข หากเกิดการพลิกผัน สมการการเมืองได้ทั้งสิ้น พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล มีเสียงต่างกันเพียง 10 เสียง

เมื่อประเมินจาก แนวโน้ม ความน่าจะเป็น 71เขต ที่มีความสุ่มเสี่ยง ถูกสอยทีหลัง ถ้าหากกกต.สั่งให้เลือกตั้งใหม่ หลายต่อหลายเขต อาจเป็นไปได้ทั้ง ตัวเลขยังคงเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ขณะเดียวกัน อีกฉากทัศน์หนึ่ง อาจเกิด จุดหักเห พลิกผันทางการเมือง กระทบชิ่งเป็นลูกโซ่ ลามไปถึงพรรคอันดับ 1-2 ก็เป็นได้ เช่นกัน