posttoday

'พิธา' หลบสื่อเลี่ยงตอบปมถือหุ้น iTV ประชุมสัญจรแกนนำ8พรรคร่วมตั้งรัฐบาล

07 มิถุนายน 2566

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นั่งหัวโต๊ะประชุมสัญจรแกนนำ8พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลครั้งที่2 ประเมินทิศทางการเมือง ไทม์ไลน์กกต.รับรองผลเลือกตั้งส.ส. และจัดสรรตำแหน่งโควตารัฐมนตรีในรัฐบาลใหม่ เพื่อไทยคุมเศรษฐกิจ ก้าวไกลคุมความมั่นคง

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค และแกนนำพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล รวม 8 พรรค ประกอบด้วย  นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี , นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย , นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ , นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย , นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง , พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย , นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม และตัวแทนจากพรรคพลังสังคมใหม่ ร่วมประชุม

นายพิธา เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย ทางชั้นใต้ดิน และขึ้นลิฟต์จากชั้นใต้ดินไปห้องประชุมทันที และยังไม่มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเช่นเดียวกับช่วงเช้าเมื่อวานนี้ ซึ่งสื่อมวลชนจำนวนมาก รอสอบถามถึงกรณีการถือหุ้นสื่อหลังจาก กกต. เริ่มพิจารณาคำร้องและมีการตั้งประเด็นว่านายพิธารู้ตัวอยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติแต่ยังคงสมัครรับเลือกตั้ง

ขณะที่นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ก็เดินทางมาถึงพรรคในเวลาใกล้การประชุมแล้ว และรีบขึ้นประชุมทันที่ โดยขออนุญาตไม่ให้สัมภาษณ์ เนื่องจากกังวลว่าจะไม่ทันการประชุม

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการประชุม 8พรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาลที่พรรคเพื่อไทยว่า การประชุมจัดตั้งรัฐบาลตอนนี้เหมือนเป็นการประชุมสัญจรไปแล้ว ตั้งใจที่จะให้มีการประชุมอาทิตย์เว้นอาทิตย์ เพื่อให้มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วาระการประชุมกันวันนี้ คือการประเมินสถานการณ์การเมือง และจะมีการพูดคุยถึง ไทม์ไลน์ในการจัดตั้งรัฐบาล จากนั้นก็จะมีการติดตามผลการทำงานของคณะกรรมการเปลี่ยนผ่าน ทั้ง 12 ชุด ว่าพบปัญหาหรืออุปสรรคใด ควรปรับหรือเพิ่มจุดใด เพื่อให้การทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพสูงสุด ยุทธศาสตร์รวมเสียง เพื่อผลักดันให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี 

นอกจากนี้ เป็นการประเมินสถานการณ์การเมือง แนวโน้มการรับรองผลเลือกตั้งส.ส.ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าจะเป็นช่วงเวลาใด ส่วนเรื่องของการจัดสรรโควตากระทรวง รวมถึงโควตาคณะรัฐมนตรี ตอนนี้เริ่มมีความชัดเจนแล้วพรรคเพื่อไทยภาพรวมมีแนวโน้มจะได้คุมกระทรวงเกี่ยวกับเศรษฐกิจตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้ ส่วนพรรคก้าวไกล มีแนวโน้มจะได้คุมกระทรวงสำคัญที่ยึดโยงกับการบริหารประเทศ รวมถึงกระทรวงที่ตรงตามแนวทางหาเสียงไว้
    
จากนั้นในช่วงท้ายก็จะเปิดโอกาสให้ทุกพรรคได้แสดงความคิดเห็นต่อการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้ รวมถึงแนวทางการทำงานร่วมกัน อย่างไรก็ตามการประชุมวันนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี​ของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้มาเข้าร่วมประชุมด้วย แต่มาทักทายบรรดาแกนนำ 8พรรคร่วมในฐานะเจ้าบ้าน พร้อมกับนำกาแฟส้ม และมิ้นช็อค  มาเสิร์ฟให้ทุกคนในที่ประชุมและหลังจากทักทายเสร็จก็เดินออกจากห้องประชุมและให้การประชุมดำเนินต่อ