posttoday

ตั้งรัฐบาล66:ปิยบุตร จี้ ประยุทธ์ ประวิตร ประกาศยอมแพ้ หลังแพ้เลือกตั้ง

02 มิถุนายน 2566

ปิยบุตร ค้านแนวคิด รัฐบาลแห่งชาติ ชี้ ขัดรัฐธรรมนูญ ซัด พวกจินตนาการ พิธา เป็นนายกฯทำให้เกิดความขัดแย้ง จี้ 2 ลุง ประกาศยอมพ่ายแพ้ ลงจากอำนาจ ย้ำคำเดิม ประธานสภาฯ ต้องเป็นของ พรรคก้าวไกล เชื่อ อีกไม่นาน เพื่อไทย ก้าวไกล คุยกันจบ บอก พิธา มั่นใจเตรียมสู้คดี ถือหุ้นสื่อ พิธา

ที่สำนักงานเครือเนชั่นกรุ๊ป นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล กล่าวถึงแนวคิดนายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา(สว.)เสนอให้ตั้งรัฐบาลแห่งชาติเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งว่า แนวคิดดังกล่าวอาจต้องงดเว้นรัฐธรรมนูญบางมาตราหรือไม่ หากทำเช่นนั้นจะเป็นการขัดรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน และอาจเข้าข่ายล้มล้างการปกครองได้ สำหรับข้อกังวลจากสว.บางคน ที่มองว่า หากนายพิธา เป็นนายกฯ อาจทำให้เกิดความขัดแย้งบานปลายรุนแรงนั้น คงเป็นการจินตนาการมากไป อย่าเอาความเชื่อ ความรู้สึกมาปะปนกับความจริง ซึ่งความเป็นจริงวันนี้ เสียงส่วนใหญ่ประชาชนเลือกพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย เข้ามา แม้ท่าทีสว.ขณะนี้ มีทั้ง สว.ที่พร้อมโหวตสนับสนุน ไม่แสดงออก หรือไม่โหวตสนับสนุน ล้วนเป็นสิทธิ์ของท่าน ส่วนพวกที่ไม่สนับสนุน ขออย่าพยายามสร้างความหวาดกลัวขึ้นในสังคมไทย หรือจินตนาการไปไกลเกินจากความจริง

นายปิยบุตรกล่าวว่า มั่นใจว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน ถ้ามารไม่มี บารมีไม่เกิด อุปสรรคที่เกิดขึ้น ปกติแล้วหลังจบการเลือกตั้งไม่นาน การตั้งรัฐบาลจะเสร็จเร็ว รัฐธรรมนูญ2560 ให้เวลากกต. รับรองส.ส.ได้ถึง 60วัน และกว่าจะประชุมสภา เลือกประธานสภาฯ และประชุมร่วมเพื่อโหวตเลือกนายกฯ ยังต้องใช้เวลาอีกเกือบ2เดือน และยังมีความผิดปกติจากสว.ในการโหวตเลือกนายกฯอีก กรณีดังกล่าวล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความบิดเบี้ยวของรัฐธรรมนูญ

หลังจบเลือกตั้งยังไม่เห็น พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ โดยทั้ง2คน ครองอำนาจมากว่า9ปี ควรยอมรับความจริง ถ้าเป็นตน เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้รับการเลือกตั้งมาเพียง 30-40เสียง คงจะประกาศยอมแพ้ไปแล้ว พร้อมกับลงจากอำนาจอย่างสวยๆ จนถึงวันนี้ ยังไม่ได้ยินพรรคอื่นๆประกาศยอมรับความพ่ายแพ้เลย น่าเสียดายมาก ควรสร้างวัฒนธรรมการเมือง เมื่อก่อนเราก็ทำ บ้านอื่นเมืองอื่นเขาก็ทำ เมื่อคุณเลือกตั้ง และแพ้ก็พร้อมออกจากตำแหน่ง และเตรียมส่งมอบรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาทำงาน

เมื่อถามว่า มีหลายฝ่ายแสดงความกังวลการถือหุ้นสื่อของนายพิธา อาจส่งผลกระทบต่อการโหวตเลือกนายกฯ นายปิยบุตรกล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องให้นายพิธา และฝ่ายกฎหมาย ว่ากันไป แต่เท่าที่ฟังการพูดของนายพิธา แสดงความมั่นใจในการเตรียมข้อมูลในการสู้คดีนี้ 

ถามว่า ยังยืนยันว่า ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องเป็นของพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายปิยบุตรกล่าวว่า ตามความเห็นส่วนตัว ยังยืนยันเหมือนเดิม จากประวัติศาสตร์การเมืองพบว่ามีเพียง 2 ครั้งเท่านั้นที่ พรรคที่ได้รับเลือกมาเป็นอันดับที่1 จะไม่ได้ตำแหน่งประธานสภาฯไป ตามธรรมเนียม ประเพณีปฏิบัติควรจะให้พรรคที่ได้อันดับ1 พรรคก้าวไกลมีความตั้งใจที่จะเข้าไปเสนอนโยบาย ผลักดันกฎหมายต่างๆ รัฐบาลหน้าเป็นรัฐบาลที่แบกความคาดหวังของประชาชนไว้สูงมาก เรื่องตำแหน่ง ประธานสภาฯ เป็นเพียงประเด็นเดียว มีอีกหลายเรื่องที่ต้องไปพูดคุยกัน ตำแหน่งประธานสภาฯ ให้ทางพรรคก้าวไกล กับพรรคเพื่อไทย ไปพูดคุยกัน ตนทำได้เพียงให้ความเห็นส่วนตัว ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล และแสดงความเห็นเชิงหลักวิชาการเท่านั้น 


ถามอีกว่า มีข้อเสนอแบ่งวาระการทำงานระหว่างพรรคเพื่อไทย ก้าวไกล ให้ประธานสภาฯเป็นกันคนละ2ปี นายปิยบุตรตอบว่า ขอให้ทางคณะเจรจาไปพูดคุยกันดีกว่า เชื่อว่า เรื่องนี้อีกไม่นาน คงจบ