posttoday

ตั้งรัฐบาล66 : “พิธา” ย้ำเครือข่ายแรงงานฯ นโยบายค่าแรง 450 บาท ทำได้ 100 วันแรก

26 พฤษภาคม 2566

“พิธา” ย้ำเครือข่ายแรงงาน นโยบายค่าแรง 450 บาท ทำได้ภายใน 100 วันแรกหลังเป็นรัฐบาล ไม่นั่งเทียนเขียนนโยบายเพื่อหาเสียง เร่งเดินหน้าทำความเข้าใจภาคอุตสาหกรรม-สภานายจ้าง ทั้งในและต่างประเทศก่อนตั้งรัฐบาล

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค พร้อม ส.ส.ด้านแรงงานของพรรค นำโดยเซีย จำปาทอง เข้าร่วมประชุมพบปะเครือข่ายสหภาพแรงงาน และผู้ใช้แรงงานในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งหมด 45 องค์กร กว่า200คน เพื่อแลกเปลี่ยนพูดคุยเรื่องนโยบายแรงงาน ที่สำนักงานเทศบาลบางเสาธง จ.สมุทรปราการ 

นายพิธา กล่าวว่า การเซ็นต์ MOU ของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด 8 พรรค ในข้อที่ 19 เป็นการคุ้มครองสิทธิแรงงานรวมถึงให้เป็นธรรมในการจ้างงาน สามารถทำให้ค่าแรงสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น เพราะเป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลตั้งแต่จัดตั้งมาสมัยอีดตอนาคนใหม่ ทั้งก่อนหาเสียง ระหว่างหาเสียง หรือหลังหาเสียง จะบรรจุความเดือดร้อน และปัญหาของพี่น้องแรงงานเข้าไปอยู่ในMOUจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยแล้ว

ตั้งรัฐบาล66 : “พิธา” ย้ำเครือข่ายแรงงานฯ นโยบายค่าแรง 450 บาท ทำได้ 100 วันแรก

นายพิธา กล่าวต่อว่า สาเหตุที่มาหาทุกคนวันนี้ก็เพื่อมาสื่อสาร เรื่องการทำตามสัญญากับพี่น้องประชาชน ที่จะทำเป็นแบบแพ็กเกจไม่ใช่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง และการเดินหน้าพบปะพูดคุยกับหลายฝ่าย ตนไปที่สภาอุตสาหกรรม และวันนี้ไปพบเยาวชนและสัปดาห์หน้าจะไปพบหอการค้า ภาคการท่องเที่ยว และSME เพื่อจะให้เห็นภาพรวมทั้งหมดถึงความจำเป็นในการต่อสู้เพื่อพพี่น้องแรงงานทุกสหภาพ ให้เห็นถึงความจำเป็นการขึ้นค่าแรงถึง 450บาท เพราะหลายฝ่ายอาจจะไม่เข้าใจคิดว่าเหรียญมีอยู่ด้านเดียว แต่ที่จริงมีสองด้าน เพราะน้องจากดูแลพี่น้องแรงงานแล้ว ก็ต้องดูแลพี่น้องSMEด้วย

ตั้งรัฐบาล66 : “พิธา” ย้ำเครือข่ายแรงงานฯ นโยบายค่าแรง 450 บาท ทำได้ 100 วันแรก

พร้อมชี้แจงว่าเหรียญมี 2 ด้านที่พรรคก้าวไกลต้องดูแลแรงงานและ SME คู่ขนาด เช่น รัฐบาลช่วยอุดหนุนประกันสังคม 6 เดือนแรก, ผลกระทบจากค่าแรงที่ขึ้นสามารถลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า 2 ปี, และย้ำว่ามองทั้งระบบ ยังมีมาตรการลดภาษีจาก 20% เป็น 15% หรือจาก 15% เป็น 10% หรือ หวย SME หากซื้อของมีใบเสร็จครบ500 บาทจะเป็นหวยรัฐบาล

ดังนั้นสิ่งที่กล่าววันนี้เป็นสิ่งที่พูดต่อหน้าแรงงานและสื่อมวลชน และเวลาที่พูดเรื่องค่าแรง หลายคนก็จะกังวลใจว่าจะตกงาน ซึ่งตนยืนยันว่า ไม่ใช่เพราะเรามองทั้งระบบ และดูแลให้เห็นว่าเหรียญมีสองด้านอย่างไรก็ต้องแก้ไขให้พี่น้องแรงงานสองด้านฉันนั้น และยืนยันว่าเป็นไปได้เพราะจะทำให้เศรษฐกิจโตและลดความเหลื่อมล้ำไปด้วย

พร้อมย้ำว่า การขึ้นค่าแรง 450 ไม่ได้ขึ้นกันเอง แต่เป็นการนำเอาตัวเลขค่าเงินเฟ้อ อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งที่ขึ้น 450 ไม่ได้นั่งเทียนเขียน และไม่ได้เอามาไว้หาเสียงอย่างเดียว และเขียนอย่างยุติธรรมที่สุดที่ทุกท่านควรจะได้ตัวเลขนี้

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่หารือพบปะเสร็จสิ้นนานกว่า 1ชั่วโมง นายพิธา ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ค่าแรงต้องดูทั้งระบบไม่ใช่แค่ค่าแรงอย่างเดียว มีเรื่องค่าแรง เรื่อง SME  ไปในตัว บางทีคุยกันเรื่องค่าแรงอย่างเดียวแต่ไม่ได้คุยเรื่องแพ็กเกจที่ช่วยเหลือ SME จึงต้องเดินหน้าในการพูดคุยเหมือนที่ไปพบกับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ และจะเดินหน้าคุยกับหอการค้าและสภานายจ้างต่อไป เพื่อให้เห็นภาพทั้งองคาพยพ  และจะแก้ปัญหาให้เป็นครั้งสุดท้ายได้อย่างไร

หากต่อไปแก้ไขเรื่องพรบ.แรงงานได้ ค่าแรงจะขึ้นอัตโนมัติทุกปี ตามค่าเงินเฟ้อหรืออัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ และขึ้นน้อยๆ ขึ้นบ่อยๆ ไม่ใช่นานๆขึ้นทีแบบปัจจุบัน ซึ่งจะสามารถทำให้บริหารได้ทั้งแรงงานและบริษัท 

เมื่อถามถึงกรณีที่สภาหอการค้าไทย ให้ความเห็นว่าอาจมีการย้ายฐานการผลิตในกลุ่ม SME หากมีการปรับขึ้นค่าแรง นายพิธา ระบุว่า จะต้องมีการพูดคุยกัน เพราะยังไม่เห็นว่ามีข้อกังวลใจเรื่องใดบ้าง  โดยมองว่าการจะเลือกประเทศใดเป็นฐานผลิตเรื่องค่าแรงเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง

แต่ต้องเลือกว่าประเทศนั้นมีบุคลากรที่พร้อมหรือไม่ มีการคอรัปชั่นเยอะหรือไม่ มีระบบภาษีอย่างไร มีตลาดในประเทศเยอะพอหรือไม่  มีภาษีในการส่งออกหรือไม่ เพราะเท่าที่ตนได้พูดคุยกับนักธุรกิจ การย้ายฐานการผลิตมี 8-9 ปัจจัย เรื่องค่าแรงเป็นเพียงแค่ 1 เรื่องจึงต้องคุยกะนในองคาพยพใหญ่ 

นายพิธา ย้ำว่า ค่าแรง 450 จะสามารถปรับขึ้นได้ภายใน 100 วันแรกของการเป็นรัฐบาล และขณะนี้ยังมีเวลาที่เหลืออยูก่อนที่จะจัดตั้งรัฐบาล จึงต้องเดินหน้าพูดคุยทั้งในไทยและต่างประเทศ

ขอบคุณชาวสมุทรปราการ

ทั้งนี้ นายพิธา ยังได้นำ ส.ส.เขตสมุทรปราการ ทั้ง8เขตขอบคุณประชาชนชาวสมุทรปราการ หลังชนะเลือกตั้งยกจังหวัด พร้อมปราศรัยระบุว่า ขอให้สัญญากับทุกท่านว่า พวกเราก้าวไกลรวมพลังกัน จะไม่ทำให้ผิดหวัง มาที่สมุทรปราการ เคยสัญญาไว้อย่างไร หลังเลือกตั้งก็มาทำตามสัญญาอย่างนั้น ตนเองได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่น้องแรงงานจากหลากหลายสหภาพ แม้วันนี้ยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเต็มตัว แต่ก็เดินหน้าทำงานรักษาผลประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนแรงงาน 

ตนเองได้มีโอกาสพูดคุยกับตัวแทนแรงงานจากหลากหลายสหภาพ เห็นตรงกันว่าเรามีวาระสำคัญของพี่น้องแรงงานที่พวกเราจะต้องผลักดัน ทั้งค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท , สิทธิในการรวมตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประกันสังคมของพี่น้องแรงงานนอกระบบ , สิทธิลาคลอด ไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมหลักหรือเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 

นายพิธา ยังกล่าวอีกว่า สมุทรปราการจะน่าอยู่มากกว่านี้ ถ้าอุตสาหกรรมที่มีอยู่เป็นอุตสาหกรรมที่ดูแลสิ่งแวดล้อมให้กับลูกหลานของพวกเรา ดังนั้น ถ้าเรากลายเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ ขอเวลาแค่แปบเดียว ขอผลักดัน พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม , การจัดการมลพิษ และขยะของโรงงาน 

นอกจากนี้ อยากให้สมุทรปราการเป็นเมืองสุขภาพที่ดีด้วย พรรคจะดูแลทั้งพี่น้องที่อยู่ในอุตสาหกรรมสาธารณสุข แพทย์และพยาบาลที่ทำงานอย่างหนักจาก 100 ชั่วโมง จะเหลือเพียง 60 ชั่วโมง กระทรวงสาธารณสุขไม่ใช่แค่สุขภาพกายแต่เป็นสุขภาพใจด้วย ไม่ใช่แค่เรื่องการรักษา แต่เป็นเรื่องการป้องกัน

พร้อมย้ำว่าต้องแบบนี้เท่านั้นจึงจะสามารถทำให้พี่น้องสมุทรปราการรู้สึกว่า เมืองนี้เป็นเมืองที่น่าอยู่ และคุ้มกับความไว้วางใจที่พ่อแม่พี่น้องเคยให้พรรคก้าวไกลมาในการเลือกตั้งที่ผ่านมา และนี่คือการบ้านของ ส.ส.ท่าน ทั้ง 8 คน 8 เขตที่จะไปดูแลพี่น้องแรงงาน ไปดูปัญหาสิ่งแวดล้อมที่นี่ จะไปดูปัญหาสาธารณสุขให้กับพี่น้องประชาชนชาวสมุทรปราการ และนี่คือคำสัญญาของพิธา นายกรัฐมนตรีคนที่ 30

ตั้งรัฐบาล66 : “พิธา” ย้ำเครือข่ายแรงงานฯ นโยบายค่าแรง 450 บาท ทำได้ 100 วันแรก