posttoday

ตั้งรัฐบาล66:รังสิมันต์ โรม โต้ข้อกล่าวหา พรรคก้าวไกล กินรวบทุกตำแหน่ง

26 พฤษภาคม 2566

รังสิมันต์ โรม เน้นย้ำ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นของ พรรคก้าวไกล เพื่อผลักดัน กฎหมายเปลี่ยนประเทศ สภาฯเยาวชน โอด ถ้าไม่ทำ โดนประชาชนลงโทษ เชื่อ ไม่ทำให้กระทบต่อการร่วมรัฐบาล กับ พรรคเพื่อไทย โต้ข้อกล่าวหา ก้าวไกล กินรวบทุกตำแหน่ง

นายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ยังเจรจาไม่ลงตัวระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลว่า ตอนนี้มีหลายความเห็น พรรคก้าวไกล เชื่อว่า การมีตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร จะเกิดประโยชน์ หากเป็นคนของพรรคก้าวไกล ให้พูดตรงไปตรงมา พรรคก้าวไกล มีหลายวาระที่ตัองการผลักดัน ไม่ใช่เรื่องของพรรคก้าวไกลเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของสังคม เช่น การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร การทำให้กฎหมายเปลี่ยนประเทศสามารถดำเนินการได้ รวมถึงกลไกที่จะทำให้โครงสร้างของสภามีคุณภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้พรรค มีโครงการที่จะผลักดันสภาเด็กและเยาวชน เป็นกลไกที่อยากทำให้การเมืองเปลี่ยนไป

ถ้าเราดูตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องเป็นคนที่มีอายุเท่านั้น เป็นส.ส.มาหลายสมัย ส่วนตัวไม่เห็นด้วย คิดว่า สิ่งที่ดีที่สุดเป็นเรื่องของการเตรียมความพร้อม การเตรียมการทำงาน ที่จะทำให้ออกมามีคุณภาพมากที่สุด ถึงที่สุดไม่ว่าจะเป็นองค์กรไหนก็แล้วแต่ ต้องเป็นคนที่มีความหลากหลายรุ่น สิ่งสำคัญ ในส่วนของสภาฯมีข้อบังคับและกฎเกณฑ์กติกาอยู่ ประธานสภาฯต้องทำให้การประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น ประธานสภาฯ ไม่ได้มีแค่การประชุม พรรคก้าวไกลมีแผนที่ชัดเจน สามารถตอบคำถามพี่น้องประชาชนได้ว่า ถ้าได้ตำแหน่งประธานสภาฯพรรคจะทำอะไรเพื่อพี่น้องประชาชน และทำอย่างไรให้ประเทศนี้เปลี่ยนแปลง 

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยออกเป็นประกาศผ่านทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก ตำแหน่งประธานสภาฯไม่ใช่วาระของพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง จะส่งผลกระทบต่อพรรคร่วมรัฐบาลและความเชื่อใจต่อพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายรังสิมันต์ ระบุว่า เรื่องความเชื่อใจ เราเชื่ออยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ร่วมกัน พรรคก้าวไกลไม่ต้องการทำร้ายใครหรือเอาเปรียบใคร ที่ทำไปทั้งหมดต้องการทำเพื่อความเปลี่ยนแปลง ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ และหากไม่ได้ทำ ประชาชนก็ลงโทษพรรคได้ผ่านการเลือกตั้ง ถือเป็นกลไกของวิถีประชาธิปไตย เราต้องการเข้าไปเปลี่ยนแปลง มีตำแหน่งไม่ใช่เพื่อตำแหน่ง แต่มีตำแหน่งเพื่อเข้าไปเปลี่ยนแปลง ตำแหน่งประธานสภามีความสำคัญ และที่สำคัญคือความเป็นกลางและทำให้เสียงข้างน้อยมีสิทธิมีเสียง เกิดความราบรื่นในการตรวจสอบถ่วงดุล

เมื่อถามว่า ยืนยันหนักแน่นหรือไม่ว่า หลักการตำแหน่งประธานสภาต้องมาจากพรรคอันดับ1 นายรังสิมันต์ ตอบว่า มองหลายมิติ ถ้าพรรคก้าวไกลได้ที่นั่ง 141ที่นั่ง เพื่อไทยได้กลับกันเป็น151ที่นั่ง พรรคก้าวไกลจะไม่บอกเลยว่า จะขอตำแหน่งประธานสภาฯ เพราะเข้าใจดีว่า พรรคการเมืองที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะได้ตำแหน่งประธานสภาด้วย คิดว่าถึงที่สุดอายุหรือสมัย ส.ส.ไม่ได้เป็นตัวชี้วัด พรรคก้าวไกลจำนวนสมัยที่ได้เป็น ส.ส.อาจจะไม่เท่าพรรคการเมืองอื่นแต่ก็สามารถทำได้

เมื่อถามอีกว่า เก้าอี้ประธานสภา จะเป็นตัวการันตี ความเป็นรัฐบาลของพรรคก้าวไกลด้วยหรือไม่ เนื่องจากหลายคนกังวลว่า หากเสียเก้าอี้ประธานสภาฯไปก้าวไกลจะถูกลอยแพ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ยังไม่คิดถึงขั้นนั้น บนพื้นฐานที่ทำงานอยู่ทุกคนที่เข้ามา เราให้ความไว้วางใจอย่างเต็มที่ ท้ายที่สุดต้องคุยกันหลายเรื่อง ข้อกล่าวหาว่า พรรคก้าวไกล กินรวบทุกตำแหน่ง ไม่เป็นความจริง