posttoday

ตั้งรัฐบาล66:ถอดรหัส ก้าวไกล ทำไมถึงอยากได้ ประธานสภาผู้แทนราษฎร

24 พฤษภาคม 2566

ท่ามกลาง กระแสข่าว การต่อรอง เจรจา จัดสรรปันส่วน โควตารัฐมนตรี กระทรวงต่างๆ ในกลุ่ม8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ที่มี พรรคก้าวไกล เป็นแกนนำยัง ไม่ลงตัว ล่าสุด เกิดศึกแย่งชิง ประธานสภาผู้แทนราษฎร ดูเหมือนว่า พรรคก้าวไกล ไม่ยอมปล่อยไปให้ พรรคการเมืองอื่น อย่างเด็ดขาด

ถอดรหัส ก้าวไกล ทำไมถึงอยากได้ ประธานสภาฯ


…มีข่าวปรากฏออกมาตามสื่อมวลชนว่า พรรคเพื่อไทยขอให้พรรคก้าวไกลปล่อยตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรให้กับ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย 

ผมเห็นว่าพรรคก้าวไกลปล่อยตำแหน่งนี้ให้กับพรรคใดๆไม่ได้

......ผมเห็นว่า การประนีประนอม การเจรจาต่อรองของพรรคก้าวไกล จะต้องไม่ไปถึงขนาดที่ยกตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรให้กับ ส.ส.พรรคอื่น  โดยทั่วไป ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็มาจาก ส.ส.ของพรรคอันดับที่หนึ่งอยู่แล้ว 

.....การประนีประนอมและการเจรจาทางการเมือง เป็นเรื่องเข้าใจได้ในการตั้งรัฐบาลผสม แต่การถอยถึงขนาดยอมยกตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรให้พรรคอื่น เป็นเรื่องเข้าใจไม่ได้ หวังว่าพรรคก้าวไกลจะพิจารณาประเด็นนี้ให้ถ้วนถี่

 บางช่วงบางตอน จากเฟซบุ๊ค 'ปิยบุตร แสงกนกกุล' ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ส่งสัญญาณมาถึง คณะเจรจา ก้าวไกล เน้นย้ำถึง ตำแหน่ง ประธานสภาผู้แทนราษฎร

 

พรรคเพื่อไทย ในฐานะ เพื่อนมิตรฝั่งประชาธิปไตย ตอกกลับ 'อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด' ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ทวีตข้อความลงทวิตเตอร์ ตอนหนึ่งว่า

 
ก่อนเลือกตั้งชูจุดขาย “การเมืองใหม่” ต้อง “กระจายอำนาจ” หลังเลือกตั้งอ้างใหม่ ยึด “ธรรมเนียมปฏิบัติ” พรรคอันดับหนึ่งต้องเป็นประธานสภา เพื่อ “รวบอำนาจ” ไว้แต่กับพวกตัวเอง ประมุขฝ่ายบริหารจองแล้ว ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ก็ยังจะรวบไว้เอง แต่เพียงพรรคเดียวอีก?

'ชลน่าน ศรีแก้ว' หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตอบคำถาม พรรคเพื่อไทย มีบุคคลที่มีความเหมาะสมในตำแหน่งประธานสภาฯ ใช่หรือไม่ 


"เราเป็นพรรคการเมืองที่อยู่มา 22 ปี มีบุคลากรที่ผ่านการทำงานมาเยอะ เราจะไม่บอกว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม แต่เรามีบุคลากรพร้อม ยังไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องตำแหน่งต่างๆ เพราะต้องรอพรรคแกนนำเป็นผู้นัดหมาย เราจะไปกดดันเขาไม่ได้"

 8 พรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาล 313 เสียง ให้คำมั่น พร้อมโหวตเลือก 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' เป็นนายกรัฐมนตรีตนที่30 ระหว่างเส้นทาง ยังต้องลุ้น หาเสียงส.ส.กับสว. อย่างน้อย 63 เสียง ให้ทะลุ 376 เสียง เพื่อหักด่าน สว.  


พา พิธา เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล เป็นแกนนำพรรครัฐบาล ยังเต็มไปด้วย ปริศนา เครื่องหมายคำถาม จะไปถึง ฝั่งฝันหรือไม่ 

เอาแค่ตอนนี้มีกระแสข่าว ตำแหน่ง โควตา รัฐมนตรี กระทรวงต่างๆ ตำแหน่งสำคัญๆ ยังเกลี่ยกันไม่ลงตัว มาล่าสุด เกิดศึกแย่งชิง ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานรัฐสภา กันอีก 

จับรหัส ถอดสัญญาณ ทำไม ก้าวไกล ไม่ยอมปล่อย เก้าอี้นี้ ถึงขนาด กองเชียร์ข้างสนามคนสำคัญ อย่าง ปิยบุตร ส่งเสียงกำชับ คณะผู้เจรจาพรรคก้าวไกล ‘หวังว่าพรรคก้าวไกลจะพิจารณาประเด็นนี้ให้ถ้วนถี่’

สมัยเป็นฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกล เคยผิดหวัง ร่างแก้ไข ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 ฉบับของ พรรคก้าวไกล เคยถูกโต้แย้ง จากประธานสภาฯ ว่า อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงไม่ได้นำเข้าบรรจุสู่ระเบียบวาระการประชุม


จากอากัปกิริยา แกนนำพรรค และว่าที่ส.ส.ก้าวไกล หลายคน ยังคงหมุดหมาย มาตรา112 ต้องได้รับการแก้ไข ชูเป็นจุดขายมาตั้งแต่ก่อนหาเสียง ช่วงเข้าโหมดเลือกตั้ง ออกเป็นนโยบาย มิพักต้องพูดถึง กองเชียร์ แนวร่วมผู้สนับสนุนพรรค ต่างเร่งเร้าให้ พรรคก้าวไกล ทำตามในสิ่งที่เคย ประกาศต่อประชาชนเอาไว้  


'เบญจา แสงจันทร์' ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เคยแสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า 

กฎหมายก้าวไกล 45 ฉบับ พร้อมยื่นทันที หลังจากที่สภาเปิดพรรคก้าวไกลพร้อมยื่นกฎหมายทั้ง 45 ฉบับนี้เพื่อเปลี่ยนประเทศไทยไปด้วยกัน 
 

1. กฎหมายการเมือง 11 ฉบับ
กฎหมายสำคัญ คือ

- ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม***ซึ่งเราจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง มาร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน


- พ.ร.บ. รับราชการทหาร (ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร) เพื่อยกเลิกการเกณฑ์ทหาร และเปลี่ยนให้เป็นระบบสมัครใจ ถ้าเราสามารถผ่านกฎหมายฉบับนี้ได้ภายใน 1 ปี ปี 2567 ประเทศไทยจะไม่มีการจับใบดำ-ใบแดง ให้ปี 2566 เป็นปีสุดท้ายที่จับใบดำ-ใบแดง


- พ.ร.บ. นิรโทษกรรมคดีการเมือง***เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับประชาชน ในคดีที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมือง หรือมีแรงจูงใจทางการเมือง ด้วยการนิรโทษกรรมหรือล้างมลทินในคดีเหล่านี้ ตั้งแต่ปี 2549 จนถึงปัจจุบัน โดยผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีนั้นต้องให้ความยินยอม


- การแก้ไขคดีทางการเมืองเหล่านี้ จะเป็นประตูบานแรกในการคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองที่มีมายาวนาน และหลังจากนี้เราสามารถใช้กระบวนการทางประชาธิปไตยในการแก้ไขปัญหา
(โน้ต: จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ในการพิจารณาว่ามีคดีไหนบ้างที่เป็นคดีที่สืบเนื่องจากความขัดแย้งทางการเมือง หรือมีแรงจูงใจทางการเมือง แล้วคณะกรรมการนี้จะเสนอให้นิรโทษกรรมและล้างมลทิน เสนอไปยัง ครม. เพื่อประกาศลงราชกิจจานุเบกษา)
- นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายที่ล้างมรดก คสช. ทั้งหมด, ปฏิรูปตำรวจ, ปฏิรูปกองทัพ เอาทหารออกจากการเมือง และสร้างสันติภาพในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

2. กฎหมาย “สิทธิเสรีภาพ” 8 ฉบับ
- กฎหมายสำคัญที่เป็นเรือธงของพรรคก้าวไกลที่เราตั้งใจผลักดันใน 100 วันแรก ได้แก่
แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา (กฎหมายหมิ่นประมาท / มาตรา 112 / มาตรา 116) และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ 
- หยิบกฎหมายสมรสเท่าเทียมมาพิจารณาต่อ วาระ2/3 ให้ผ่านได้เลยภายใน 100 วันแรก และเสนอ พ.ร.บ. รับรองอัตลักษณ์ทางเพศ ซึ่งเป็นนโยบายเรือธงของเราให้คนทุกอัตลักษณ์ ทุกเพศวิถี มีศักดิ์ศรีอย่างเท่าเทียมกันตามกฎหมาย

3. กฎหมาย “ปฏิรูประบบราชการ” 6 ฉบับ
- ประกอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลของรัฐและการสร้างระบบที่ดีในการตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่นโดยเฉพาะ พ.ร.บ. การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ ให้การออกใบอนุญาตของทางราชการทำได้เร็วขึ้น
- อีกส่วนคือกฎหมายที่สำคัญในการเดินหน้ากระจายอำนาจ, กระจายภารกิจ, กระจายงบประมาณ ไม่ว่าจะเป็นพ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน, พ.ร.บ. แผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจ, พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด


4. กฎหมาย “ปฏิรูปที่ดิน” 8 ฉบับ
- เพื่อทำตามนโยบายของพรรคก้าวไกล ทำให้เกิดการพิสูจน์สิทธิในที่ดิน แก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างประชาชนและหน่วยงานของรัฐ ออกโฉนดที่ดินในพื้นที่ สปก., นิคมเกษตรกร, นิคมสร้างตนเอง เพื่อให้เกษตรกรที่ถือคันไถได้โฉนดที่ดินอย่างเป็นธรรม

5. กฎหมาย “บริการสาธารณะ” 4 ฉบับ
- เพื่อสร้างมาตรฐานและรับประกันคุณภาพบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานที่ดีสำหรับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา น้ำประปา ถนน การขนส่งสาธารณะ

6. กฎหมาย “แรงงาน” 2 ฉบับ
- ได้แก่ พ.ร.บ. แรงงานสัมพันธ์ และพ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน ซึ่งเป็นกฎหมายที่เพิ่มสิทธิที่แรงงานควรได้รับ ที่พวกเราเสนอตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่-ก้าวไกล แต่กฎหมายเหล่านี้ถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปัดตกเพราะอ้างว่าเป็นร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ในรัฐบาลหน้าถ้าจัดตั้งโดยพรรคร่วมรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย เราเชื่อว่ากฎหมายเหล่านี้จะสามารถเข้าสภาและผ่านออกมาได้อย่างแน่นอน

7. กฎหมาย “เศรษฐกิจ” 4 ฉบับ
- ประกอบด้วยกฎหมายสุราก้าวหน้า กฎหมายภาษีทรัพย์สิน เช่น ภาษีที่ดินรวมแปลง ภาษีความมั่งคั่ง ซึ่งเราจะเก็บจากคนที่อยู่ยอดสุดของสังคมเพื่อมาจัดทำและสวัสดิการ กฎหมายแข่งขันทางการค้า และ พ.ร.บ.ประมง เพื่อคืนชีวิตชาวประมง

8. กฎหมาย “สิ่งแวดล้อม” 2 ฉบับ
- ได้แก่ พ.ร.บ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กำหนดเพดานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย มุ่งสู่ Net Zero ภายในปี 2050
- พ.ร.บ. การปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษ (PRTR) และ พ.ร.บ. อากาศสะอาด ควบคุมและเปิดเผยรายงานการปล่อยมลพิษจากทุกแหล่ง


ทั้งหมดคือร่างกฎหมายที่พรรคก้าวไกลนำเสนอ ซึ่งเรามีพร้อมอยู่ในมือเกือบ 100% แล้ววันนี้ หลังจากที่สภาเปิดพรรคก้าวไกลพร้อมยื่นกฎหมายทั้ง 45 ฉบับนี้เพื่อเปลี่ยนประเทศไทยไปด้วยกัน 

 

พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย ตีตราจอง ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ตามกฎหมาย เป็นทั้ง ประธานสภาฯ และ ประธานรัฐสภา  ดูแล้ว ศึกแย่งชิงนี้ คงไม่จบง่ายๆ อำนาจหน้าที่ ประธานสภาฯ เปรียบเสมือน เป็นประตูบานแรก จะทำให้ทุกอย่าง ราบรื่น หรือ เป็นอุปสรรค ก็ได้ตาม อำนาจหน้าที่ 


จาก วาระร้อน พรรคก้าวไกล ในจำนวนนี้ แม้จะมี กฎหมายหลายฉบับ เป็นประโยชน์ต่อสังคม ประชาชน โดยรวม แต่ขณะเดียวกัน หลายต่อหลายฉบับ ในมิติ  ฝ่ายความมั่นคง เกี่ยวพันโยงใย หลายภาคส่วนของ ทุนใหญ่ กลุ่มอำนาจเก่า ระบบราชการฝังรากลึกมานาน  คงไม่ค่อย สบายใจท่าทีของ พรรคก้าวไกล ที่หวัง รื้อ-แก้ ขนานใหญ่เช่นกัน 
  
ไม่ต้องแปลกใจ เหตุใด ทำไม พรรคก้าวไกล จึงขอรวบทั้ง ประมุขบริหาร นิติบัญญัติ หัวเด็ดตีนขาด ตำแหน่ง ‘ประธานสภาผู้แทนราษฎร’  จะตกเป็นของ พรรคการเมืองอื่น 'ไม่ได้อย่างเด็ดขาด'