จับตา ปปช. รับไม้ต่อ ศักดิ์สยาม ส่งศาลฎีกานักการเมือง
นักวิชาการกฎหมาย แนะ จับตา ปปช.รับไม้ต่อ ยื่นเรื่อง ศักดิ์สยาม ให้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง พิจารณา ชี้ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ไม่กระทบเลือกตั้ง รักษาการรมว.ทำหน้าที่ได้
นายพัฒนะ เรือนใจดี อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้สัมภาษณ์ โพสต์ทูเดย์ออนไลน์ กรณีศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย จากประเด็นยังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและยังคงเป็นผู้ถือหุ้น และเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีจริญคอนสตรัคชั่นว่า คงไม่น่าจะมีความหมายต่อนายศักดิ์สยาม รักษาการในตำแหน่งรมว.คมนาคม ต่อไปได้อีกประมาณ2-3เดือน จนกว่าจะเลือกตั้งแล้วเสร็จ แต่ที่น่าจะมีผลเลยคือ หลังจากนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) อาจจะส่งเรื่องไปยัง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ของดำรงตำแหน่งการเมือง เหมือนกับรัฐมนตรีบางคน หรือไม่ ส่วนการยุติการทำหน้าที่หรือไม่ยุติการทำหน้าที่นายศักดิ์สยาม คงไม่มีความหมายอะไร และเรื่องนี้ดูแล้วคงไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดการเลือกตั้งด้วย
นายพัฒนะกล่าวอีกว่า กรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย การกำหนดจำนวนส.ส.เขตที่แต่ละจังหวัดพึงมี ให้ใช้จำนวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือก เฉพาะผู้มีสัญชาติไทยเท่านั้น การที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ให้นับรวม ผู้ที่ไม่ได้มีสัญชาติไทย ไปด้วย แต่ให้คิดเฉพาะ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสัญชาติไทย ถือว่าถูกต้อง หากนับรวม คนต่างด้าวหรือผู้ไม่มีสัญชาติไทยไปด้วย อาจส่งผลกระทบต่อจำนวนส.ส.เขตพึงมี ที่มีการคำนวนเบื้องต้น ประชากรประมาณ 1.5-1.8แสนคนต่อจำนวนส.ส.1คน อาจจะคลาดเคลื่อน ศาลวินิจฉัยออกมาเช่นนี้ ถือว่าถูกต้องแล้ว คงไม่ส่งผลกระทบอะไร ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่จะเลือกพิจารณาจาก นโยบายหรือ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองนั้นๆเป็นสำคัญ ผ่านการเลือกตั้งระบบบัตรเลือกตั้ง2ใบ สำหรับกกต.อาจจะกระทบ ต้องแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่บ้าง แต่คงกระทบไม่มาก เพียงแค่ว่าถ้าคิคคำนวนออกมาใหม่คงจะถูกใจ ไม่ถูกใจ พรรคการเมืองและนักการเมืองบ้าง