posttoday

เลือกตั้ง66: รอลุ้นศาลรธน.นัดชี้ขาดสูตรคำนวณส.ส.-แบ่งเขต

03 มีนาคม 2566

ศาลรัฐธรรมนูญ นัดวินิจฉัย อำนาจหน้าที่กกต.ปมแบ่งเขตเลือกตั้ง66 เปิด2แนวทางการวินิฉัย ดำเนินการถูกแล้วเดินหน้าเลือกตั้งต่อตามไทม์ไลน์ หรือห้ามนำผู้ไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณ กระทบต้องทำใหม่ เขย่าฐานที่มั่นพรรคการเมือง

ศาลรัฐธรรมนูญ นัดลงมติชี้ขาด วันนี้ (3มี.ค.66) เวลา 09.30น. กรณีสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 (2) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 44 ประกอบมาตรา 7 (2) ขอให้พิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ และอำนาจของกกต. กรณีนำผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณจำนวนส.ส.แต่ละจังหวัดและแบ่งเขตเลือกตั้งได้ ในการเลือกตั้ง66 ได้หรือไม่

ก่อนการนัดลงมติชี้ขาด มีการคาดการณ์ไว้2 แนวทาง การวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 

แนวทางแรก หากศาล รัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการดำเนินการของ กกต.ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว การจัดการเลือกตั้งที่เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วก็เดินสามารถเดินหน้าต่อไปได้

แนวทางที่สอง ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพิ่มเติมว่า กกต.ไม่สามารถนำผู้ไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณจำนวน ส.ส.แต่ละจังหวัดและแบ่งเขตเลือกตั้งได้ อาจจะส่งผลให้ กกต.ต้องคำนวณจำนวน ส.ส.แต่ละจังหวัดและการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่

ก่อนนี้ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกกต.ยืนยันว่าการคำนวณราษฎรทั้งประเทศเพื่อกำหนดจำนวน สส. ที่แต่ละจังหวัดพึงมีเพื่อแบ่งเขตเลือกตั้งตามที่ กกต. เสนอมาเป็นการปฏิบัติโดยชอบ ตามลายลักษณ์อักษรของรัฐธรรมนูญ มาตรา 86 และเป็นแนวทางที่ปฏิบัติมาโดยตลอด แต่เมื่อสังคมมีข้อสงสัย กกต.จึงส่งเรื่องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
ถึงอำนาจหน้าที่ดังกล่าวของกกต.

ด้านสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ให้ความเห็นว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิฉัยว่า กกต.ดำเนินเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งมาแล้วถูกต้อง ก็เท่ากับเป็นหลังพิงให้กกต.เดินหน้าจัดการเลือกตั้งต่อไปได้ไม่ต้องห่วงว่าจะมีคนไปร้องให้เลือกตั้งเป็นโมฆะภายหลัง

แต่หากศาลรัฐธรรมนูญวิฉัยว่า การคำนวณจำนวนส.ส. นำผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณจำนวนส.ส.แต่ละจังหวัดและแบ่งเขตเลือกตั้งไม่ถูกต้อง กกต.ก็ยังมีเวลาคำนวณใหม่แต่ละจังหวัดใหม่ได้ทัน แต่อาจทำให้การเลือกตั้งล่าช้าออกไปอีก

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวกกต.เปิดเผยแล้วว่า ได้เตรียมแผนการรองรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไว้แล้ว หากออกมาว่า การคิดจำนวนส.สพึงมีแต่ละจังหวัดและการคำนวณราษฎรเพื่อการแบ่งเขตไม่นับรวมราษฎรที่ไม่มีสัญชาติไทย ได้แจ้งให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทุกจังหวัดแบ่งเขต โดยไม่นับรวมราษฎรที่ไม่มีสัญชาติไทยเตรียมไว้
 
ทั้งนี้ การแบ่งเขตใหม่ โดยไม่นับรวมราษฎรที่ไม่มีสัญชาติไทยจะทำให้ 8 จังหวัด มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น กล่าวคือ 
มี 4 จังหวัดที่จำนวน ส.ส.ลดลง และมี 4 จังหวัดที่จำนวน ส.ส.เพิ่มขึ้น 


4 จังหวัดมีจำนวน ส.ส.ลดลง ประกอบไปด้วย 

1 ตาก จาก 4 เหลือ 3 ที่นั่ง อาจกระทบพรรคภูมิใจไทย มีส.ส.ลดลงจากเป้าเดิม
2 เชียงราย จาก 8 เหลือ 7 ที่นั่ง อาจกระทบต่อ พรรคเพื่อไทย(พท.) เป้าส.ส.ลดลง
3 เชียงใหม่ จาก 11 เหลือ 10 ที่นั่ง อาจกระทบต่อ พรรคเพื่อไทย ได้ส.ส. ลดลง
4 สมุทรสาคร จาก 4 เหลือ 3 นั่ง อาจกระทบต่อ พรรคภูมิใจไทย เดิมวางเป้าไว้ 2 ที่นั่ง หรือ อาจกระทบพรรคก้าวไกล 

ส่วน 4 จังหวัดจะมีส.ส.เพิ่มขึ้น ได้แก่ 

1 อุดรธานี จาก 9 เป็น 10 ที่นั่ง อาจส่งผลดีต่อพรรคเพื่อไทย ที่จะมีส.ส.เพิ่มขึ้น
2 ลพบุรี จาก 4 เป็น 5 ที่นั่ง อาจส่งผลดีต่อ พรรคเพื่อไทย หรือ ประชาธิปัตย์(ปชป.) ที่จะได้ส.ส.เพิ่มขึ้น
3 นครศรีธรรมราช จาก 9 เป็น 10 ที่นั่ง อาจส่งผลดีต่อ พรรคประชาธิปัตย์ หรือ รวมไทยสร้างชาติ ที่อาจได้ส.ส.เพิ่มขึ้น
4 ปัตตานี จาก 4 เป็น 5 ที่นั่ง อาจส่งผลดีต่อ พรรคประชาธิปัตย์ หรือ ประชาชาติ ที่อาจได้ส.ส.เพิ่มขึ้น

การเปลี่ยนแปลงแบ่งเขตใหม่โดยตัดจำนวนคนต่างด้าวออกไปยังส่งผลต่อภาพรวมจำนวนส.ส.ของแต่ละภาค 

ภาคใต้ จากเดิม 58 ที่นั่ง จะเพิ่มเป็น 60 ที่นั่ง คือ เพิ่มที่นครศรีธรรมราช 1 ที่นั่ง และ ปัตตานี 1 ที่นั่ง 
ภาคอีสาน จากเดิม 132 ที่นั่ง จะเพิ่มเป็น 133 ที่นั่ง คือ เพิ่มที่อุดรธานี 1 ที่นั่ง
ภาคเหนือ จาก 39 ที่นั่ง จะลดลงเหลือ 36 ที่นั่ง คือ ลดที่ ตาก เชียงราย เชียงใหม่ จังหวัดละ 1 ที่นั่ง
ภาคกลางรวมกรุงเทพฯเท่าเดิม 122 ที่นั่ง คือ ลดที่ สมุทรสาคร 1 ที่นั่งเพิ่ม ลพบุรี 1 ที่นั่ง 
ภาคตะวันออกมี ส.ส. 29 คนไม่เปลี่ยนแปลงจากการแบ่งเขตใหม่ 
ภาคตะวันตกมี ส.ส. 20 คน ไม่เปลี่ยนแปลงจากการแบ่งเขตใหม่ 

2-3 สัปดาห์ ทว่าหากกกต.ทำงานเชิงรุก  สั่งการให้ทำล่วงหน้า  ก็หยิบรูปแบบใหม่มาประกาศได้ทันที

ทั้งนี้ การคำนวณเขตเลือกตั้งใหม่ น่าจะกระทบอยู่แค่ 6 จังหวัด คือ เชียงใหม่ ตาก เชียงราย  ที่ต้องลด 1 คน และ อุดรธานี ลพบุรี และ ปัตตานี ที่ได้เพิ่มอีก 1 คน  จังหวัดอีก 71 จังหวัดที่เหลือไม่กระทบ