posttoday

ชัยวัฒน์ ร้องถูกกลั่นแกล้งปมแฉอดีตอธิบดีกรมอุทยานฯรับสินบน

07 กุมภาพันธ์ 2566

ชัยวัฒน์ แจ้งความปปป. ดำเนินคดีปลัดทส.คณะกรรมการ ป.ป.ท.ข้อหา ม.157-ม.200 เชื่อถูกกลั่นแกล้ง หลังออกมาแฉอดีตอธิบดีกรมอุทยานฯรับสินบนเรียกเงินลูกน้อง เดินหน้าแฉปมเรียกรับเงินในกรมอุทยานฯกลางเดือนก.พ.นี้

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) แจ้งความพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ( บก.ปปป.) เพื่อให้มีการดำเนินคดีกับปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ พร้อมเอาผิดคณะกรรมการ ป.ป.ท. 12 คน ที่เคยชี้มูลความผิดในคดีเผาบ้านชาวกระเหรี่ยงและคดีบิลลี่

"วันนี้มาแจ้งความใน 2 เรื่องคือในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 200 วรรค 2 กลั่นแกล้งให้ผู้อื่นต้องรับโทษทางอาญากรณีผมถูกร้องเรียนกล่าวหาว่าทุจริตโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ เพื่อลดปัญหาภาวะโลกร้อนในพื้นที่ป่าแก่งกระจาน กล่าวหาว่าไม่มีการปลูกป่าจริงซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯได้เคยตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว" นายชัยวัฒน์ กล่าว

นายชัยวัฒน์ระบุด้วยว่า ระหว่างการถูกตั้งกรรมการสอบสวน ไม่มีการแสวงหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน ไม่รับฟังพยานหลักฐานหรือคำชี้แจง และไม่มีการลงพื้นที่ไปตรวจแปลงที่ปลูกป่าจริง กระทั่งออกมาเปิดโปงการเรียกรับสินบน ของอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติเมื่อไม่นานนี้ ทำให้เรื่องของการตั้งคณะกรรมการสอบถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้งและทราบว่าจะมีการชี้มูลความผิดในเร็ว ๆ นี้ จึงต้องมาแจ้งความเพื่อเอาผิดคณะกรรมการดังกล่าว

ส่วนกรณีนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ ฟ้องนายชัยวัฒน์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด อ้างว่าเป็นการจัดฉากและกลั่นแกล้งให้ได้รับโทษ นายชัยวัฒน์ เผยว่าไม่กังวล เพราะ มีพยานหลักฐานยืนยันทั้งหมดว่าเป็นการเรียกรับสินบนจริง
 

นายชัยวัฒน์ ระบุอีกว่า ส่วนเรื่องที่ 2 ที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ คือการดำเนินคดีอาญากับคณะกรรมการ ป.ป.ท. ในความผิดตามมาตราประมวลกฎหมายอาญา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และประมวลกฎหมายอาญาตามมาตรา 200 วรรค 2 กลั่นแกล้งให้บุคคลอื่นได้รับได้รับโทษทางอาญา ประธานและคณะกรรมการ รวม 12 คน จากกรณีที่คณะกรรมการชุดดังกล่าวทำการไต่สวนข้อเท็จจริงและชี้มูลความผิด เกี่ยวกับคดีการเผาไล่ที่กะเหรี่ยงบ้านบางกลอย จนเป็นเหตุให้ต้องถูกให้ออกจากราชการซึ่งมองว่าการชี้มูลของคณะกรรมการดังกล่าว ไม่แสวงหาข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนรอบด้านจนเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายต่อตำแหน่ง ซึ่งภายหลังศาลจังหวัดเพชรบุรีมีคำสั่งคุ้มครองให้ผมได้กลับเข้ามารับราชการอีกครั้งจึงกลับมาฟ้องแจ้งความเอาผิดคณะกรรมการชุดนี้

ขณะเดียวกันนายชัยวัฒน์ได้ตั้งคำถามถึงผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่าการที่ตัวเองออกมาตีแผ่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเรียกรับสินบนในกรมอุทยานฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีแต่ทำไมผู้บริหารจึงต้องเดือดร้อนในเรื่องนี้ ปัจจุบันยังมีการเรียกรับเงินในกรมอุทยานฯมีหลักฐานและพร้อมที่จะเปิดเผยต่อสื่อมวลชนในภายหลัง โดยกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้จะมีการออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง และเป็นข่าวใหญ่ที่สังคมต้องได้รับรู้ และพร้อมเดินหน้าแก้ไขปัญหาการรับสินบนในองค์กรอย่างจริงจัง