posttoday

“เสกสกล”แจ้งความ ปอท.เอาผิด ‘วีระ - เอกลักษณ์’พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

06 กุมภาพันธ์ 2566

'เสกสกล-แรมโบ้อีสาน'ที่ปรึกษานายกฯแจ้งความ ปอท.เอาผิด ‘วีระ - เอกลักษณ์’พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ลั่นไม่เคยตบทรัพย์ใครและไม่คิดหนี 

เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2566 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ (แรมโบ้อีสาน) ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และนายสนธิญา สวัสดี พร้อมทนายความ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.หญิง ณัฐชยา วงศ์รุจิไพโรจน์ พงส.บก.ปอท. เพื่อให้มีการดำเนินคดีกับ นายวีระ สมความคิด และนายเอกลักษณ์ วารีชล ที่กล่าวใส่ร้ายป้ายสี อันเป็นเท็จลงสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ การนำข้อเท็จจริงที่ไม่ได้รับการตรวจสอบมาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน ถือเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความ ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์มาตรา 14 (1) ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงเกียรติยศ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3ก.พ.2566

นายเสกสกล เปิดเผยว่า อยากให้นายวีระ ตรวจสอบพฤติการณ์ของนายเอกลักษณ์ก่อน คดีนี้เริ่มต้นจากเมื่อวันที่ 6เม.ย.2566 ได้ไปแจ้งความเอาไว้ที่สน.ดุสิต มีการออกหมายเรียกนายเอกลักษณ์ นายวีระไม่รู้เรื่องข้อมูลตรงนี้เลยอยู่ๆก็ไปรับงาน อยากให้ติดตามข้อมูลของนายเอกลักษณ์ คนนี้เพราะ ภารกิจของเขาคือ ตอนแรกมากล่าวหาว่าไปตบทรัพย์ผู้รับเหมารายใหญ่รายหนึ่งเรื่องงาน กทม. ปรากฎว่าในที่สุดผู้รับเหมารายนั้นก็มาเป็นพยานให้ มายืนยันว่าตนไม่ได้มีการไปตบทรัพย์อะไรเขาเลยสักบาทเดียว จึงทำให้นายเอกลักษณ์เป็นเรื่องมากล่าวหาตนเอง อยากจะขอให้เอาหลักฐานออกมาพิสูจน์กัน มีการโอนเงินอย่างไร วันไหนก็ขอให้เอามาแสดง 

พฤติกรรมของนายเอกลักษณ์คนนี้อันตรายมากได้แจ้งสำนักงานปลัดฯ ในการรับเรื่องร้องเรียนแล้วให้ตรวจสอบติดตามดูพฤติการณ์ที่อันตรายของบุคคลนี้ คิดว่าอาจจะมีอีกหลายบริษัทที่ถูกนายเอกลักษณ์กระทำแบบรายนี้ คือเวลาที่เขาไปรับงานบริษัทใดมาก็จะทำตัวเป็นนายหน้า วิ่งรับงานบริษัทมาว่าจะเคลียร์ให้ๆ  ซึ่งบางบริษัทเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมในการทำ TOR นายเอกลักษณ์ คนนี้จะอาสาเคลียร์ให้ ด้วยการมาร้องเรียนสำนักนายกรัฐมนตรีบ้าง สำนักปลัดฯ บ้าง แล้วเอาเอกสารที่ออกเลขรับแล้วไปข่มขู่เขา ตอนที่เป็นผู้ช่วยนายกฯ ก็รับเรื่องร้องทุกข์ร้องเรียนอยู่แล้ว ไม่คิดว่าการที่มาหาช่องทางการออกเลขหนังสือร้องเรียนแล้วเอาไปเที่ยวแบล็คเมล ตบทรัพย์หน่วยงานหรือบริษัทคู่แข่ง

"นี่คือพฤติกรรมของคนๆ นี้ อยากจะบอกนายวีระให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายเอกลักษณ์คนนี้ให้ดีก่อนที่จะไปรับงานมาเล่นงาน ไม่คิดที่จะไปเคลียร์อะไรกับคุณเลย ไม่มีค่าอะไรไม่ได้ให้ค่าให้ราคาอะไรที่จะต้องไปเคลียร์ด้วยคดีต้นเรื่องนี้ตนแจ้งความไว้ตั้งแต่ เม.ย.65 ความคืบหน้าจนถึงขั้นออกหมายเรียกไปแล้ว ไม่รู้ทำไมถึงไปตกเป็นเครื่องมือของนายเอกลักษณ์ คนนี้ได้" นายเสกสกล กล่าว

ทั้งนี้ ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีนายเอกลักษณ์ที่ไปกล่าวหาว่าตบทรัพย์แล้วหลายท้องที่ ประกอบด้วย 1.สน.ดุสิต 2.สน.พหลโยธิน 3.สน.บางซื่อ 4.สน.ลุมพินี 5.สน.คัยนานยาว และ ที่ บก.ปอท.นี่เป็นที่6 พฤติการณ์ของนายเอกฯ จะข่มขู่กรรมโชกทรัพย์ไม่หยุดการที่มากล่าวหาไปทำร้ายเขาที่โรงแรมเซ็นทรัล เซนทารา ลาดพร้าว ขณะตนนั่งกินกาแฟกับเพื่อนสองคนในมุมหนึ่ง ถ้าไม่สังเกตจะไม่เห็นว่านั่งอยู่เลย อยู่ๆ เขาก็เดินปรี่เข้ามาหาใส่จะทวงทำให้ดูเหมือนเป็นหนี้เขาอยู่ ถามตนจะเอายังไงๆ ว่ามา ตนนั่งฟังเฉย พอยกมือถือขึ้นมา เขาก็ขู่อย่าถ่ายผมนะ ปรี่เข้ามาอีก ตนก็ลุกขึ้นยืน ผลักออกไปเพราะกลัวว่าเขาจะทำร้ายตน แค่นั้นเองไม่ได้ลงไม้ลงมืออะไรจึงไปแจ้งความ สน.พหลโยธินเมื่อ 23 ม.ค.66 ว่านายเอกลักษณ์คุกคามแต่เขากลับไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานว่าไปทำร้ายเขา ที่ สน.คันนายาว ในอีก 7 วัน แทนที่จะแจ้งความท้องที่เกิดเหตุเหมือนที่ได้แจ้งความในเรื่องเดียวกัน ทำให้ต้องไปแจ้งความ สน.คันนายาวว่านายเอกลัษณ์แจ้งความเท็จนก็อดคิดไม่ได้การออกมาโตมตีครั้งนี้ไม่รู้ไปรับงานใครมาหรือเปล่า นายวีระบอกตนหลบตนหนี ขอยืนยันว่าคนอย่างผมไม่เคยหลบ แต่จะยืนหยัดบนหลักฐานความเป็นจริง นายวีระได้เจอตนแน่ แต่เป็นการเจอในศาล 

ด้าน”หนุ่มเสก”เสกสรร ชัยเจริญ บอกว่า วันนี้มาในนามตัวแทนพรรครวมไทยสร้างชาติ มาให้กำลังใจนายเสกสกล แรมโบ้อีสานที่โดนกล่าวหาให้เสียหาย ส่วนตนเองทางพรรคกำหนดไว้ให้ลงปาร์ตี้ลีสต์ จะได้มีโอกาสไปช่วยผู้สมัครพรรคคนอื่นๆเพราะถ้าลงสมัคร สส.แบบเขตก็จะต้องดูแลเฉพาะพี่น้องประชาชนในเขตที่ลงเท่านั้น เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งและรวบรวมหลักฐานที่นายเสกสกล นำมามอบให้ ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป