posttoday

ฝ่ายค้านยื่นถอดถอน'ศักดิ์สยาม'ปมเอี่ยวประมูลงานคมนาคม

25 มกราคม 2566

'หมอชลน่าน'ผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน เข้าชื่อเสนอถอดถอน ศักดิ์สยาม ชิดชอบ พ้นส.ส.และรัฐมนตรี เนื่องจากตรวจสอบพบว่าเอี่ยวบริษัทเอกชนประมูลงานกระทรวงคมนาคมมูลค่าหลายพันล้านบาท 

ที่รัฐสภา  นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว  หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยื่นหนังสือต่อ นายแพทย์สุกิจ อัถโถปกรณ์  ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร  ขอให้เสนอเรื่องไปยังประธานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรี และสมาชิกภาพความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ สิ้นสุดลง เหตุมีการกระทำที่ละเมิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 ว่าด้วยวิธีการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี ซึ่งในคำร้องมีเอกสารหลักฐานทั้งหมด 14 เรื่อง โดยหวังการยื่นครั้งนี้จะมีผล เพราะพยานหลักฐานที่ชี้ชัดว่าอาจเข้าข่ายกระทำผิดจริง

พันตำรวจเอกเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ   หนึ่งในผู้อภิปรายนายศักดิ์สยาม กล่าวว่า สืบเนื่องจากนายศักดิ์สยามที่ถือว่ายังเป็น ส.ส. ที่ได้พิจารณางบประมาณ และได้ตั้งงบประมาณ ในฐานะรัฐมนตรี และยังพบว่านายศักดิ์สยามยังเป็นกรรมาธิการ ซึ่งจากการตรวจสอบในงบของกรมทางหลวงชนบท การรถไฟ และมีบริษัทที่นายศักดิ์สยาม มีหุ้นส่วนอยู่ และยังได้รับงานจากกระทรวงคมนาคม ซึ่งถือเป็นผลประโยชน์ทางตรง

ส่วนผลประโยชน์ทางอ้อม บริษัทแห่งนี้ นายศักดิ์สยาม รับเงินในฐานะที่ปรึกษาจากบริษัทดังกล่าว และก่อนที่จะมาเป็นรัฐมนตรี บริษัทนี้ใช้บ้านเลขที่ของนายศักดิ์สยามเป็นที่ตั้ง และเมื่อนายศักดิ์สยามย้ายออกจากบ้านดังกล่าว ได้ย้ายไปอยู่บนที่ดินของการรถไฟ ซึ่งในทางปฏิบัติหากไม่มีความผูกพันธ์ ไม่สามารถทำได้ประกอบกับบริษัทดังกล่าว เป็นคู่สัญญากับกระทรวงคมนาคม และในช่วงที่พิจารณางบในชั้นกรรมาธิการ มี ส.ส. ท้วงติงเรื่องการนำงบประมาณไปที่จังหวัดบุรีรัมย์มากกว่ายังหวัดอื่น ซึ่งมองว่าศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจในการไต่สวนเรื่องนี้ได้แน่นอน

ด้าน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล   เห็นตรงว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจตรวจสอบ โดยยกตัวอย่างกรณีอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ถูกศาลวินิจฉัยกรณีถือหุ้นสื่อ ซึ่งใกล้เคียงกับกรณีของนายศักดิ์สยาม ที่ยังมีหุ้นส่วนของบริษัทเอกชนดังกล่าวนี้ ถือเป็นการขัดผลประโยชน์ 

ขณะที่  นายพัฒนา สัพโส  ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ที่ก็เคยอภิปรายไม่ไม่วางใจ นายศักดิ์สยาม จนถูกนายศุภชัย โพธิ์สุ  รองประธานสภา ปราศรัยพาดพิงว่า “คนโง่” ก็ย้ำว่า ขอให้สื่อมวลชนติดตามการอภิปรายที่ตนเองมีหลักฐานเด็ดเป็นคลิปวิดีโอเกี่ยวกับนายศักดิ์สยาม มาประกอบการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152

ทั้งนี้นายแพทย์ชลน่าน ยืนยัน ทำในฐานะเป็นฝ่ายตรวจสอบ ไม่ได้อาฆาตมาดร้าย หรือเล่นเกมการเมือง หวังผลประโยชน์ในพื้นที่ในช่วงก่อนการเลือกตั้ง เพราะฝ่ายค้าน เห็นว่าการกระทำของนายศักดิ์สยามเข้าข่ายมีความผิดตามรัฐธรรมนูญ จึงยื่นให้ศาลตรวจสอบวินิจฉัย ส่วนจะต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่หรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ โดยกรอบเวลาศาลรัฐธรรมนูญจะต้องวินิจฉัยภายใน 15 วัน 

สำหรับการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า น่าจะมีข้อตกลงตามที่คณะรัฐมนตรีเสนอมา คือเริ่มได้ตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป ดังนั้น ฝ่ายค้านก็จะเริ่มตั้งแต่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ยืนยันว่า ไม่กังวลเรื่ององค์ประชุมล่ม และไม่กังวลว่ารัฐบาลจะแก้เกมคืนด้วยการใช้องค์ประชุม เพราะจะเข้าข่ายฝ่าฝืนบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่จงใจหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของฝ่ายค้าน