posttoday

นิพนธ์ระดม ส.ส. ใต้ แจกนโยบาย ”สันติภาพสู่สันติสุข” คู่ 3 ส. เน้นพัฒนายั่งยืน

15 มกราคม 2566

นิพนธ์ ระดมสมองผู้สมัคร ส.ส. ประชาธิปัตย์ในพื้นที่ชายแดนใต้ แจกนโยบาย ”สันติภาพสู่สันติสุข” ควบคู่คำประกาศ “3 ส. สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” เน้นขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ความมั่นคงทางอาหาร สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประชุม ชู 8 นโยบาย ด้านการเกษตร สู้ศึกเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อนำสันติภาพสู่สันติสุข โดยมีผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดสตูล และสงขลาบางส่วน ร่วมประชุมรับทราบนโยบายดังกล่าว ณ ห้องประขุมย่อย บ้านพักเขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา

 

โดยนายนิพนธ์ กล่าวว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออก 3  ยุทธศาสตร์หลัก เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้คือ การสร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ  โดยเฉพาะนโยบายที่นำมาใช้ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นั่นคือ การสร้างเงิน ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ทางด้านเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นหลายด้าน โดยเฉพาะเน้นในเรื่องประกันรายได้คน และประกันรายได้ให้กับประเทศ 

 

ในส่วนของการประกันรายได้ มุ่งเน้นในเรื่องของการเกษตร การประกันรายได้เงินส่วนต่าง ในเรื่องของ ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ยางพารา  และปาล์ม ยังคงนำมาใช้อย่างต่อเนื่อง สำหรับการให้เงินส่วนต่างและนโยบายช่วยเหลือชาวนา 30,000 บาทต่อครัวเรือน ซึ่งแม้แต่ปลูกข้าวกินก็ยังได้ส่วนต่าง สำหรับผู้ที่มาลงทะเบียน

 

ด้านนโยบายการจัดตั้งธนาคารหมู่บ้าน-ชุมชน แห่งละ 2 ล้านบาท  การออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลงภายใน 4 ปี ฟรีนมโรงเรียน 365 วัน ด้านการให้เงินทุนสำรองประมงท้องถิ่น 100,000 บาททุกปี สำหรับทุกกลุ่มที่ขึ้นทะเบียน การออกเอกสารสิทธิทำกินในที่ดิน ให้ผู้ที่ทำกินในที่ดินของรัฐ และการปลดล็อกด้านประมงพาณิชย์ ภายใต้ Illegal, Unreported and Unregulated (IUU)

 

โดยที่ระบุข้างต้นนั้น ต่างเป็นแนวทางที่พรรคประชาธิปัตย์ทำนโยบายในเรื่องของการสร้างเงิน 8 นโยบาย และอีก 5 ฟรี คือเรียนฟรี อาหารกลางวันฟรี นมโรงเรียนฟรี และหญิงตั้งครรภ์รับทันที 600 บาท ต่อเดือน ตลอดจนคลอดฟรี

 

นายนิพนธ์ ยังเปิดเผยอีกว่า ในวันนี้เราได้เน้นในเรื่องของจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้จังหวัดชายแดนใต้เป็นพื้นที่ความมั่นคงทางด้านอาหาร จึงต้องเดินหน้าต่อ พร้อมกับการขยายการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อ ซึ่งจังหวัดชายแดนใต้ต้องยุติความขัดแย้ง  การสูญเสียชีวิต และอยากเห็นจังหวัดชายแดนใต้สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อนำไปสู่การสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน

 

สำหรับนโยบายสร้างเงิน 8 นโยบายที่พรรคได้ประกาศครั้งนี้ เป็นเฉพาะกลุ่มแรกหลังจากที่พรรคประกาศยุทธศาสตร์ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ ซึ่งได้กล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ นั่นคือเรื่องของการสร้างเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอยู่ในภาคเกษตรเป็นหลัก  และจะมีภาคธุรกิจอื่นตามมาอีก ส่วนเรื่องของเศรษฐกิจทันสมัย  เรื่องของนวัตกรรม เรื่องของ SME  และเรื่องอื่น ๆ ที่จะทยอยประกาศตามมาอีก เพื่อสร้างรายได้ในส่วนนั้น รวมถึงการสร้างคน ซึ่งจะเป็นตัวตนของประชาธิปัตย์ 

 

และสุดท้ายในเรื่องของการสร้างชาติ นั่นคือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อที่จะให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น รวมถึงในเรื่องของการกระจายอำนาจ ซึ่งสุดท้ายนโยบายชายแดนภาคใต้ซึ่งได้ขอความเห็นจากผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ซึ่งเราเคยมีนโยบาย ใต้สันติสุข แต่วันนี้เราจะไม่เอาเพียงใต้สันติสุข

 

แต่จะเป็นนโยบายใต้ชายแดน " สันติภาพสู่สันติสุข" เพราะการยุติความขัดแย้งนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมีการพูดคุยกัน ซึ่งจะไม่มีวันจบในเรื่องของการใช้อาวุธ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องความขัดแย้ง แต่จะจบด้วยการพูดคุยกัน โดยใช้งบประมาณ กว่า 4.9 แสนล้าน ในเวลา19 ปี ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ดังนั้นจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงต้องให้ทุกฝ่ายพูดคุยกัน เพื่อยุติความขัดแย้ง

 

ดังนั้นในพื้นที่ชายแดนใต้จึงจะชูนโยบาย "สันติภาพสู่สันติสุข"  และยังคงยืนยันเหมือนเดิมว่า จะทำให้พื้นที่ชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ความมั่นคงทางด้านอาหาร ทั้งเรื่องของประมง การเพาะเลี้ยงชายฝั่ง ตลอดจนการปศุสัตว์การเลี้ยงโคเนื้อลังกาสุกะ  นอกจากนี้ยังมีนโยบายการเกษตร เรื่องแปลงทุเรียนภาคใต้ ซึ่งเสนอโดยจังหวัดยะลาและมีความเป็นไปได้

 

ส่วนเรื่องอื่น ๆ ยังมีในเรื่องของการออกโฉนดที่ดิน เทือกเขาบูโด ซึ่งมีการต่อสู้ในเรื่องที่ดินนี้มานานแล้ว และขณะนี้เริ่มเป็นรูปธรรมแล้วและได้ทยอยแจกโฉนดที่ดินให้ประชาชนในพื้นที่มาเป็นระยะ ๆ แล้ว

 

โดยในช่วงเที่ยง นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้เดินทางมาร่วมประชุมเสวนาด้วย