posttoday

"ศักดิ์สยาม"ตั้งกก.สอบป้ายสถานีกลางบางซื่อมูลค่ากว่า33ล้านบาท

05 มกราคม 2566

"ศักดิ์สยาม"แจงระทู้ปมเปลี่ยนป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อมูลค่ากว่า 33 ล้านบาท รับไม่ทราบราคาแพงจริงหรือไม่ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้วเร่งรัดตรวจสอบใน 15 วัน 

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนาย สุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ในวาระกระทู้ถามสดโดยนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ในประเด็นค่าเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ พร้อมติดตั้งป้ายชื่อใหม่ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ พร้อมโลโก้ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มูลค่า 33 ล้านบาท ซึ่งสังคมตั้งคำถามว่าราคาสูงและกรณีใช้วิธีการหาผู้รับจ้างด้วยวิธีพิเศษนั้นไม่โปร่งใส รวมถึงทำไมจึงต้องเปลี่ยนชื่อ 

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มาตอบกระทู้ว่า ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยคาดว่าภายใน 15 วันจะทราบรายละเอียด อย่างไรก็ดีประเด็นที่สังคมตั้งคำถามว่าราคาดังกล่าวสูงเกินไปนั้น ยอมรับว่าไม่ทราบว่าราคาดังกล่าวแพงจริงหรือไม่ ต้องรอผลการตรวจสอบอีกครั้ง 

ส่วนกรณีที่ต้องเปลี่ยนชื่อนั้น เพื่อความเป็นมหามงคล เหมือนกรณีการเปลี่ยนชื่อสนามบินหนองงูเห่า เป็น สนามบินสุวรรณภูมิ และไม่ใช่ความต้องการของตัวเอง ส่วนกรณีที่ต้องใช้วิธีหาผู้รับจ้างด้วยวิธีพิเศษเนื่องจากโครงการสถานีกลางบางซื่ออยู่ระหว่างการค้ำประกันสัญญาจึงต้องให้บริษัทคู่สัญญาเดิมเป็นผู้ดำเนินการ

ด้าน นายจิรัฏฐ์ ถามต่อว่าการรีบเปลี่ยนแปลงชื่อสถานี เมื่อช่วงกลางปี 2564 นั้นเป็นช่วงระหว่างที่นายศักดิ์สยาม จิบนมเย็น เกิดไอเดียว่าต้องเปลี่ยนชื่อ จึงทำเรื่องไปถึงผู้ว่าฯ รฟท. และดำเนินกระบวนการด้วยความเร่งรีบ ทั้งการเสนอเรื่องผ่านสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมตรี เพื่อขอพระราชทานชื่อ และเมื่อได้ชื่อแล้ว จึงดำเนินการเปรียบเทียบราคาและเจาะจงเลือกบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ยูนิค  ภายใน 2 สัปดาห์เมื่อได้ราคากลาง  อย่างไรก็ดีเพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ขอให้รฟท. กระทรวงคมนาคม เปิดเผยราคากลางโครงการดังกล่าวด้วย พร้อมกับแสดงความไม่เชื่อมั่นกรณีที่ รัฐมนตรีคมนาคม ตั้งกรรมการสอบฯ เพราะสุดท้ายจะไม่มีใครที่ต้องรับผิดชอบ

นายศักดิ์สยาม ชี้แจงต่อว่า การขอพระราชทานชื่อ ไม่ใช่เพราะความต้องการส่วนตัว แต่เป็นการเปลี่ยนตามประเพณีปฎิบัติ เช่นเดียวกับโครงการใหญ่ๆอย่างสนามบินหนองงูเห่า ที่เปลี่ยนเป็นสนามบินสุวรรณภูมิ จึงเชื่อว่าการดำเนินดังกล่าวเป็นทั้งมงคลนามและมีความเหมาะสม

ขณะที่เรื่องค่าใช้จ่าย ได้รับรายงานจากการรถไฟแห่งประเทศไทยว่าราคาดังกล่าวไม่ใช่เพียงแค่ตัวป้าย แต่ยังมีการดำเนินการอื่นเช่นค่ารื้อถอน หรือการติดตั้งกระจกใหม่ เป็นไปตามพระราชบัญญัติจัดซื้อจัดจ้างและบริหารงานพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ส่วนสาเหตุที่ใช้วิธีแบบเฉพาะเจาะจง เนื่องจากเป็นการก่อสร้างที่กระทบกับโครงการเดิมที่ดำเนินการอยู่ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการค้ำประกัน 

"หากผลการตรวจสอบพบการดำเนินการดังกล่าวมีความผิด ทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย แต่หากไม่ผิดต้องให้การรถไฟแห่งประเทศไทยดำเนินการต่อไป" นายศักดิ์สยามกล่าว