posttoday

'สุดารัตน์-สมคิด'นำ2พรรคสร้างฯจับมือเป็นพันธมิตรสู้เลือกตั้ง

29 ธันวาคม 2565

แกนนำ2พรรคสร้างฯ นัดทานข้าวหารือการทำงานการเมืองสู้ศึกเลือกตั้ง 'โภคิน' ระบุเป็นพันธมิตรแก้ไขปัญหาประเทศยังไม่มีการรวมพรรค 

เมื่อวันที่ 29ธ.ค.65 เวลา10.00 น. ที่ร้านอาหาร Corner แกนนำพรรคไทยสร้างไทยและพรรคสร้างอนาคตไทยได้นัดรับประทานอาหารร่วมกัน ระหว่าง คุณหญิงสุดารัตน์  เกยุราพันธุ์ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ดร.โภคิน พลกุล นายอุตตม สาวยานนท์  นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  นายต่อพงศ์ ไชยสาส์น และพ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ เพื่อหาทางออกให้ประเทศ โดยพูดถึงอุดมการณ์ นโยบาย และความทุ่มเทเสียสละของคนที่จะมาทำงานให้ประเทศไทยร่วมกัน ทั้งดร.สมคิด คุณหญิงสุดารัตน์ และดร.โภคิน ต่างเป็นเพื่อนและเคยทำงานร่วมกันมาก่อนตั้งและเป็นผู้รับผิดชอบและผลักดันนโยบายสำคัญๆของรัฐบาลในสมัยนั้น จนประสบความสำเร็จ

ดร.โภคิน กล่าวว่า การนัดทานอาหาร วันนี้ สืบเนื่องจากทั้ง 2 พรรค เห็นว่าในปัจจุบันประเทศตกต่ำอย่างถึงที่สุด ประชาชนกำลังสิ้นหวังสังคมถูกครอบงำโดยอำนาจเงิน อิทธิพล การคอรัปชั่นการกระทำผิดกฎหมายอย่างโจ่งครึ่ม การเมืองแบ่งเป็นสองขั้วมายาวนานกว่า 17 ปี บนพื้นฐานความหวาดระแวงและเกลียดชังซึ่งกัน หากเป็นเช่นนี้ประเทศเดินหน้าไม่ได้ การสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้คนรุ่นต่อไป ไม่มีทางเป็นไปได้ 

สิ่งที่เราต้องร่วมกับประชาชนทุกคนคือ ต้องหาทางออกร่วมกัน ต้องปล่อยวางจากวาทกรรมที่สร้างความเกลียดชัง เราต้องสร้างความเป็นธรรม สร้างนิติรัฐ ที่แท้จริงลดความเหลื่อมล้ำอย่างจริงจัง โดยเริ่มจากการร่วมกันสร้างกติกาสูงสุดคือรัฐธรรมนูญ ให้เป็นประชาธิปไตยของประชาชนอย่างแท้จริง และต้องปลดปล่อยผู้คนจากพันธนาการของกฎระเบียบต่างๆ ที่ล้าหลังและเป็นอุปสรรคตลอดจน สร้างพลังให้ประชาชนในการทำมาหากิน 

เราคุยกันและเห็นพ้องในปัญหาดังกล่าว จึงตกลงเป็นพันธมิตรในการทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างทางออกของบ้านเมือง เพราะเป้าหมายสูงสุดคือให้คนไทยได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด ตั้งแต่เกินจนแก่ จากนี้ไปจะมีการหารือการทำงานร่วมกันเป็นระยะ ส่วนการรวมพรรค วันนี้ยังไม่มีการพูดถึง ขอเริ่มต้นที่การเป็นพันธมิตรในการทำงานร่วมกันไปก่อน

 

คุณหญิงสุดารัตน์ เปิดเผยว่า ตนเอง นายสมคิด และนายโภคิน ทำงานร่วมกันมาหลายสิบปี จึงถือว่าเป็นผู้มีประสบการณ์และมองเห็นปัญหาด้วยความห่วงใย และในฐานะที่ตนเป็นแม่คนมองว่าหากยังปล่อยประเทศให้ดำเนินแบบนี้ คนรุ่นใหม่จะอยู่อย่างไร จึงต้องการเข้ามาสร้างพรรคการเมืองเข้ามาทำงานการเมือง เพื่อส่งมอบประเทศที่ดีกว่านี้ให้คนรุ่นต่อไป

"จึงหารือกันว่าการมาทำงานร่วมกันของพรรคไทยสร้างไทย และพรรคสร้างอนาคตไทยคงไม่ใช่การมาแย่งชิงตำแหน่งแห่งหนกัน และทำให้เกิดการใช้อำนาจเงินอำนาจรัฐจนการเมืองเดินหน้าไม่ได้ประเทศไปต่อไม่ได้ ขอให้เริ่มต้นที่ตรงนี้ก่อน ยังไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องการแบ่งตำแหน่งใดๆ แต่จะทำงานร่วมมือเป็นพันธมิตรทางการเมืองกันเพื่อหาทางออกให้กับบ้านเมือง" คุณหญิงสุดารัตน์ระบุ

ด้านนายสมคิด ระบุว่า อยู่ในการเมืองมา 20 ปีและตลอดระยะเวลานี้ได้ตั้งใจทำงานหนักมาโดยตลอดเพราะอยากให้ประชาชนเป็นสุข แต่ไม่เคยเห็นยุคใดสมัยใดที่การเมืองจะค่อนข้างย่ำแย่อย่างถึงที่สุด จนอดเป็นห่วงไม่ได้ ทั้งในเชิงของความรับผิดชอบต่อหน้าที่ทางการเมืองเพื่อขับเคลื่อนประเทศ ทั้งในเชิงของการใช้ทรัพยากรเพื่อแย่งชิงผู้สมัครอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนและทำอย่างโจ่งแจ้ง และในเชิงของการไม่สามารถบริหารภาครัฐในการแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน รวมถึงการขับเคลื่อนประเทศขับเคลื่อนนโยบายให้ก้าวหน้าด้วยความจริงจังและโปร่งใส เราอยู่ในความวังวนของความไม่สามัคคีและพยายามแก้ไขมานานกว่า 10 ปีแล้ว

"มันน่าเสียดายหากยังปล่อยให้บ้านมันเป็นอย่างนี้ต่อไปก็จะเป็นอย่างที่คุณหญิงสุดารัตน์พูดว่าประเทศจะค่อยๆ ถดถอยลง ประชาธิปไตยที่แท้จริงไม่ใช่แบบนี้ คนไทยไม่ควรทำได้แค่นั่งมองดูและรอชะตากรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคตข้างหน้า" นายสมคิด กล่าว

นอกจากนี้ยังเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะต้องระวังและหันมาช่วยกันแก้ไขปัญหาของประเทศให้ได้ เพื่อลูกหลานของเรา ซึ่งตนและคุณหญิงสุดารัตน์และนายโภคินรวมงานกันมานานแล้ว คุณหญิงสุดารัตน์เป็นนักสู้  แข็งแกร่งทำงานหนัก เป็นแม่ที่ดีและเสียสละเวลาให้บ้านเมือง นายโภคินเป็นนักกฎหมายชั้นครู ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาให้ประเทศได้

ส่วนนายอุตตม และนายสนธิรัตน์ มีความคุ้นเคยและประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในกระทรวงด้านเศรษฐกิจมามากมาย ดังนั้นการที่ทั้ง2ฝ่ายมาพบปะและหารือกันก็เพื่อหาทางออกให้กลับบ้านเมืองทั้งในด้านการเมืองเศรษฐกิจและการปรองดองของชาติ

เมื่อถามว่าในเมื่อร่วมมือกันเหตุใดจึงไม่รวมพรรคกัน นายโภคินระบุว่า ไม่อยากให้มองที่ปลายทางไปก่อน ทุกอย่างต้องเริ่มต้นว่าอุดมการณ์ตรงกันหรือไม่ ยุทธศาสตร์ที่ทำตรงกันหรือไม่ มีอะไรที่แตกต่างกัน หากไม่เริ่มจากตรงนี้ก่อนจะไปถึงปลายสุดไม่ได้ มองว่าต้องคุยกันเป็นระยะ วิธีเมื่อตกผลึกแล้วแจ้งให้ทราบอีกที 

เมื่อถามว่าเป็นการทดลองงานกันก่อนใช่หรือไม่ วงประชุมได้หัวเราะพร้อมกัน ก่อนที่นายสมคิด กล่าวว่า ไม่มีการทดลองเพราะพวกเราอยู่ในวงการเมืองมา 20 ปี การทำการเมืองในครั้งนี้ตนไม่คิดที่จะทำตั้งแต่แรก เพราะเหนื่อยพอสมควร แต่ที่มาก็เหมือนกับคุณหญิงสุดารัตน์ ที่มีภารกิจต้องทำเพื่อประเทศ ต้องการสร้างพรรคการเมืองที่ดี เป็นหลักให้ประชาชนไม่เคยคิดเรื่องตำแหน่งกรุณาอย่าถามว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกหรือไม่ ไม่ต้องถามตนเลย เพราะในใจตนสิ่งเหล่านี้เป็นปลายเหตุทั้งสิ้นปลายเหตุทั้งสิ้น พรรคการเมืองที่แก้ไขปัญหาไม่ได้จะมีส.ส.ไว้ทำไม ดังนั้นต้องฟังนโยบายกันว่าจะต้องทำอย่างไร ส่วนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเคยบอกไป"แล้วว่าฟ้าลิขิต"

จากนั้นนายโภคิน ได้ย้ำว่า ที่คุยกันมาเป็นระยะคิดว่าตรงกันหมด เพราะพวกเราเป็นรุ่นที่เป็นผู้ใหญ่มากแล้ว บ้านเมืองมีทางเลือก 2 ทาง จะใช้ชีวิตประจำวันไปหรือมาทำเพื่อบ้านเมือง เราก็คุยกันว่าไม่ใช่เรื่องตัวตน เป้าหมายที่เราพูดคุยกันคือเรื่องการดูแลผู้คนตั้งแต่เกิดจนแก่ จึงไม่อยากให้สื่อมวลชนถามว่าจะรวมกันวันไหนเมื่อไหร่ ถ้ารวมความคิดได้รวมหัวใจได้เรื่องต่อไป ก็จะไม่ยากเย็น วันนี้ขอเท่านี้ก่อนหากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบอีกที ตอนนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากดูจากการนั่งแถลงข่าวดูเหมือนจะห่างเหินกัน ทั้งโต๊ะได้หัวเราะ ก่อนที่คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า นี่นั่งโต๊ะเดียวกันแล้วนะ และนายสมคิด กล่าวต่อว่า สิ่งที่น่ายินดี ของพรรคไทยสร้างไทยและพรรคสร้างอนาคตไทย คือเราเห็นตรงกัน ดังนั้นคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันความตั้งใจเดียวกัน ก็เหมือนเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ไม่มีความเป็นปฏิบัติไม่ได้ทะเลาะกับใคร แต่วันนี้ต้องการความร่วมมือกับทุกๆฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า ดูเหมือนว่าจะเป็นพรรคไทยรักไทย 2 นายสนธิรัตน์ ตอบว่า เป็นคำถามที่ก้าวหน้าเกินไป

ภายหลังการแถลงข่าว แกนนำทั้ง 2 พรรคได้ถ่ายรูปร่วมกัน สื่อมวลชนพยายามบอกให้ทั้ง 2 จับมือกัน แต่นายสมคิด ระบุว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เป็นหญิงสาว ทำให้ในวันนี้ไม่มีภาพการจับมือทั้งสองฝ่าย.