posttoday

'พีระพันธุ์' มั่นใจ 'ประยุทธ์' นำประเทศเดินหน้าสู่อนาคตได้

24 ธันวาคม 2565

เปิดคำต่อคำ 'พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค' หลัง 'ประยุทธ์ จันทร์โอชา' ตัดสินใจอยู่ต่อ เชื่อมั่นนำประเทศเดินหน้าสู่อนาคตได้

หมายเหตุ : นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค แถลงภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  และ รมว.กลาโหมตัดสินใจประกาศจุดยืนทางการเมืองชัดเจนว่าจะสมัครเป็นสมาชิกและเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยมีเนื้อหาดังนี้

**ชูประยุทธ์บุคลากรที่มีคุณค่าของประเทศ** 

"ได้มีโอกาสคุยกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ได้ทราบการตัดสินใจของท่าน ดังนั้นจึงได้เรียนกับนายกฯ ว่าจะกลับมาแจ้งเพื่อให้กับคณะกรรมการบริหารพรรคทุกคนทราบ ทุกคนรู้สึกดีใจกับข่าวดังกล่าว เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ถือว่าเป็นบุคลากรที่มีคุณค่าของประเทศ  ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองมาตลอด และการทำงานรูปแบบนี้ก็เป็นแนวทางเดียวของพรรคอยู่ โดยเฉพาะการมุ่งมั่นรักษาสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และมั่นใจนายกรัฐมนตรีจะสามารถนำประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้อนาคต" 

**ยังไม่เคาะวันสมัครสมาชิก**
 
“ตอนนี้ยังไม่ได้คิดรายละเอียด เพราะผมได้หารือกับ นายกฯ เมื่อเช้าและท่านได้ตัดสินใจ ผมก็ได้เรียนกับท่านว่าจะมาแจ้งให้กรรมการบริหารพรรคทราบ  ผมก็ไม่ทราบว่าท่านได้แจ้งกับสื่อไปแล้ว ส่วนการแจ้ง กรรมการบริหารพรรคก็ก็ต้องทำตามขั้นตอนปฏิบัติที่ต้องแจ้งให้ทุกคนทราบอยู่แล้ว” 

**เมื่อประยุทธ์ตัดสินใจอยู่ต่อ มีนายกฯสำรอง?**

"คิดว่า นั่นเป็นเพียงข้อบังคับของกฎหมาย แต่ส่วนตัวคิดว่าการอยู่กี่ปีก็ไม่สำคัญ คนดีๆ อย่างนายกฯ รัฐมนตรี 1 วันก็อยู่ได้ และที่สำคัญการที่อยู่ 2 ปี ถ้าได้รับเลือกจากพี่น้องประชาชนให้เป็นนายกฯ ต่อไป ก็จะสามารถใช้เวลานี้ในการสร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ขึ้นมาได้ ไม่ได้อยู่แค่เป็น ส.ส. หรือนายหรือเป็นอะไร ท่านจะสามารถใช้เวลาสองปี ต่อไปช่วยกันสร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ ส่วนเรื่องของรายชื่อนายกสำรอง ตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยในที่ประชุมพรรค แต่ทั้งหมดจะเป็นไปตามข้อกำหนด และข้อบังคับพรรค ตามกฎหมายกำหนดอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น และหากมีอะไรจะต้องผ่านที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคก่อนก็ต้องเป็นไปตามนั้น  ซึ่งในการบริหารจัดการพรรคได้คุยกับทุกคนว่าจะต้องดำเนินไปตามข้อบังคับเสมอ โดยจะไม่ใช้อำนาจหน้าที่ของตัวเองไปสั่งการไม่อย่างนั้นจะบริหารพรรคไม่ได้ ทุกอย่างต้องกติกาที่ชัดเจน"

**แยกชัดหน้าที่นายกฯ-พรรคการเมือง**

"จะต้องแยกอยู่แล้ว  ซึ่งโดยปกติแล้วในรัฐบาลก็มีคนที่ทำงานมาจากหลายพรรค แต่ละคนก็มีตำแหน่งทั้งในพรรคของตัวเอง และส่วนของรัฐบาลและแยกงานกันอยู่แล้ว ไม่เป็นปัญหาอะไรทั้งสิ้น ในอดีตก็เป็นแบบนั้นมา และทำงานแยกกันออกอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าจะแยกกันไม่ได้ นายกฯ รู้บทบาทหน้าที่ในแต่ละสถานะที่ทำงานอยู่แล้ว"

**ตำแหน่งแค่หัวโขนมาทำงานเพื่อส่วนรวม**

"ตอนนี้นายกฯ แจ้งว่าให้ทำตามข้อบังคับพรรคไปก่อน เพราะพรรคนี้ทำงานกันอย่างสบายๆ ตำแหน่งเป็นแค่หัวโขนเพราะที่สำคัญไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่ง แต่อยู่ที่ทำงานด้วยกันได้ไหม และตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวมหรือเปล่า ถ้าตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวม ที่แท้จริงก็ไม่ได้อยู่ที่ตำแหน่ง อยู่ตรงไหนก็ทำงานได้หมด"

**ทำการเมืองเรื่องใหญ่ต้องร่วมมือกัน**

"ผมคิดว่าการทำงานการเมืองเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเราไม่รวมมือกัน หรือไม่สามัคคีกันพรรคไปไม่ได้ บ้านเมืองก็ไปไม่ได้ ถ้าเรายังทำพรรคการเมืองไม่ได้จะไปทำให้บ้านเมืองเดินหน้าได้อย่างไร เพราะฉะนั้นความสามัคคีปรองดองกัน ความเข้าอกเข้าใจกัน การให้เกียรติซึ่งกันและกันคือจุดเริ่มต้นของการดูแลชาติบ้านเมืองที่ดี เราต้องทำให้พรรคเราให้ได้ก่อน"