posttoday

"5 หน.พรรคการเมือง" พร้อมหนุน สร้างรัฐดิจิทัล ปลดล็อกกฎหมายล้าสมัย

21 ธันวาคม 2565

"5 หัวหน้าพรรคการเมือง" แสดงวิศัยทัศน์บนเวที NEXT STEP THAILAND 2023 พร้อมหนุน สร้างรัฐดิจิทัล เปลี่ยนระบบราชการ เพิ่มงบประมาณสร้างขีดความแข่งขัน พร้อมรับมือวิกฤติอนาคต

วันนี้ (21ธ.ค.65) เครือเนชั่น นำโดย สปริงนิวส์ เนชั่นทีวี และโพสต์ทูเดย์ เปิดเวทีสัมมนา "NEXT STEP THAILAND 2023 ทิศทางแห่งอนาคต" ซึ่งมีการเชิญบรรดาหัวหน้าพรรคเข้าร่วมแสดงวิศัยทัศน์ ในช่วง INNOVATION OF SUSTAINABILITY เพื่อประเทศไทยยั่งยืน 

โดย นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวอ้างอิงถึงปรากฎการณ์ Chat GPT ซึ่งมีคนใช้ 1,000,000 คนภายใน 5 วัน โดยไม่ต้องนำเข้าข้อมูลตั้งแต่แรก ซึ่งตนได้ลองตั้งคำถามว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าประเทศไทยจะเลือกใคร ก็ได้คำตอบว่า ไม่เหมาะสมที่จะตอบคำถามนี้ แต่ต้องศึกษานโยบายที่จะมาทำงานให้กับประชาชน แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าไปมาก จึงเป็นโจทย์ที่ท้าทายและมีนโยบายที่จะสร้างพื้นที่ของเราเอง ซึ่งอันดับแรกต้องเริ่มจากการเปลี่ยนแนวคิด เปลี่ยนระบบราชการและการเมือง

ขณะที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจ ดิจิทัลไทยในปัจจุบัน ว่า เศรษฐกิจดิจิทัลไทยเติบโตช้าที่สุด มีการลงทุนน้อยที่สุด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าระบบนิเวศน์ดิจิทัลไทยมีปัญหา ในขณะที่งบประมาณนั้นมีเพียง 0.03% ของงบประมาณทั้งหมด ซึ่งมองว่าไม่ตอบโจทย์

ทั้งนี้ ในอนาคตพรรคก้าวไกล เสนอหลักการ 3 มิติ คือ 1.พื้นฐาน ต้องมองไกลกว่าประเทศไทย ทั้งเรื่องกฎหมายให้ทันสมัย รวมถึงคุณภาพของอินเตอร์เน็ตและคลังบุคคลากร 2.ดึง สร้างเศรษฐกิจใหม่ และอุตสาหกรรมใหม่ สร้าง Incentive ให้กับเทคโนโลยีไทย 3.ดัน เพิ่มงบประมาณ ที่กระฉับกระเฉงกว่าระบบราชการปกติ

ด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า เป้าหมายของพรรคไทยสร้างไทย คือ sustainable country และ digital society เกิดขึ้นให้ได้ภายในปี 2570 โดยแนวทางที่จะพัฒนาในอยาคตต้องเริ่มจากการพัฒนาคน ปฏิวัติการศึกษา โดยต้องเน้นให้นักเรียนค้นพบตัวเองและมีการลงทุนสร้างนวัตกรรมในการศึกษาทุกโรงเรียน

การสร้างพลังอำนาจให้กับประชาชน โดยการปลดล็อกกฎหมาย ปลดล็อกรัฐราชการ และการคอรัปชั่น เพื่อทำให้เป็นรัฐบาลเปิด เพิ่มขีดความสามารถโดยการทำ thailan token ให้คนเข้าสู่ระบบ รวมถึงการพร้อมรองรับวิกฤติโลกพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส และรัฐต้องเข้าไปช่วยเพื่อสร้างประเทศที่ดีกว่าให้กับคนรุ่นหลัง ซึ่งพรรคไทยสร้างไทย ตั้งเป้าให้ sustainable country และ digital society ต้องเกิดขึ้นให้ได้ภายในปี 2570

ส่วน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า digital economy มีความสำคัญต่อการเพิ่มขีดความสามาถในการแข่งขันกับทุกประเทศทั่วโลก และเป็นตัวสำคัญในการวัด GDP ของประเทศ สิ่งที่จะต้องก้าวต่อไป ไม่ว่าจะเป็นนโยบายของรัฐบาลหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คือ ต้องเพิ่มสัดส่วน GDP ของ digital economy ซึ่งไทยยังตามหลังอีกหลายประเทศ รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศเพิ่มมากขึ้น

โดยต้องปรับตัวทั้งด้านบุคคลากร กฎหมาย เทคโนโลยี และที่สำคัญ คือ ความพร้อมรองรับกติกาโลกในอนาคต เพราะขณะนี้ กติกาโลกและข้อตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิทัลยังไม่มี แต่เชื่อว่าไม่ช้าก็เร็วจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

สำหรับ น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจดิจิทัล เป็นทั้งโอกาสและวิกฤติ ซึ่งพรรคเพื่อไทยตั้งเป้าในการสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ให้ทุกคนมีกระเป๋าตังค์ดิจิทัล และมีไอดี ให้กับทุกคน เพื่อเช้าถึงข้อมูลข่าวสาร สร้าง DATA Center ขนาดใหญ่ รวมถึงสร้างเขตเศรษฐกิจใหม่ ด้วยการสร้างคนดิจิทัล จาก 4 แสนคน สู่ 2 ล้านคน ใน 4 ปี ทุก 1 คน ใน 1 ตำบล พร้อมเพิ่มช่างเทคนิค นักดิทัลที่เป็นนักบริหาร ให้เป็น 80:20