posttoday

ย้อนเส้นทางชีวิต "มิ่งขวัญ" พลิกขั้วการเมือง

06 ธันวาคม 2565

 ย้อนเส้นทางชีวิตการเมือง ชายชื่อ มิ่งขวัญ  แสงสุวรรณ์ ผู้เคยประกาศตัวรักษาคำพูด อุดมการณ์ชัด ไม่อาจอยู่ร่วมพลังประชารัฐได้

การรัฐประหารเมื่อ19กันยายน 2549 ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีขณะนั้น มีโอกาสออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อหวังดำเนินคดีทางกฎหมายกับคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผ่านทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนท์...

ผู้กุมบังเหียนและมีบทบาทสำคัญช่วงเวลานั้นคือ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) อดีตผู้อำนวยการองค์กรสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าพรรคโอกาสไทยและกำลังเปิดตัวในฐานะหัวหน้าเศรษฐกิจคนใหม่ของพรรคพลังประชารัฐ ที่มีพลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค

ทั้งที่ก่อนหน้านี้มิ่งขวัญได้ออกแสดงออกชัดทางการเมืองว่าไม่สามารถร่วมงานกับพลังประชารัฐได้ เนื่องจากอุดการณ์ทางการเมืองต่างกันและสำทับว่า เป็นคนรักษาคำพูดและมีจุดยืนทางการเมือง

ว่ากันว่า สาเหตุที่มิ่งขวัญ ลาออกจากหัวหน้าพรรคโอกาสไทย ก็เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้กฎหมายเลือกตั้งส.ส.ผ่าน ไม่ขัดแย้งรัฐธรรมนูญและใช้กติกาหาร 100 ปาร์ตี้ลิสต์ ทำให้พรรคเล็กหรือพรรคตั้งใหม่ลำบากแน่ เพราะจะหวังส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ต้องได้ไม่ต่ำกว่า 370,000 คะแนนต่อหนึ่งเก้าอี้ จึงทำให้ต้องตัดสินใจทางการเมือง แต่ยังมีข้อกังขาว่า เหตุใดเล่าจึงย้ายมาร่วมงานกับพรรคที่ตัวเองยืนฝั่งตรงข้ามามาตลอด

ก่อนนี้ มิ่งขวัญ เพิ่งยื่นหนังสือลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเศรษฐกิจใหม่ ผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร และประกาศลาออกจากส.ส.กลางสภา ระหว่างการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ 152 เมื่อวันที่ 17ก.พ.65 สาเหตุที่ต้องไขก๊อกเพราะ 2ปีเศษที่ไม่มีความสุขกับการทำงานส.ส. เพราะจุดยืนทางการเมืองที่ไม่ตรงกันกับพรรคเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งไปร่วมรัฐบาลกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

มิ่งขวัญ เริ่มต้นชีวิตทางการเมืองสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร มีโอกาสเข้าช่วยงาน สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ขณะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกระทั่งได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อ.ส.ม.ท.)

ปี 2545 เวลานั้นสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ถูกเรียกว่า “แดนสนธยา”ชั่วพริบตาที่ มิ่งขวัญ สามารถใช้วิสัยทัศน์ ความรู้ และทิศทางของการมองโลกของนักการตลาดผู้เชี่ยวชาญโดยได้สั่งสมประสบการณ์จนเป็นองค์ความรู้ กลายเป็นช่องสถานีโทรทัศน์ที่เก๋ ทันสมัย น่าสนใจ เป็นโมเดิร์นไนน์ของจอแก้ว กระทั่งในปี 2549 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.หลังการรัฐประหาร ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)

ในช่วงปลายปี50 มิ่งขวัญได้รับการทาบทามจากพรรคพลังประชาชน เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในคณะรัฐมนตรีนายกฯสมัคร สุนทรเวช 

หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายสมัครพ้นจากตำแหน่งนายกฯ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 51 และจากคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคพลังประชาชนเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 51 มิ่งขวัญ จึงย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทยได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นผู้นำในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯขณะนั้นและเสนอตัวที่จะเป็นายกรัฐมนตรีคนต่อไปด้วย

มิ่งขวัญ กลับถูกลดบทบาทเมื่อพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อ ยิ่งลักษ์ ชินวัตร"เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่1 ในการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อปี2554 เพื่อวางตัวเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป มิ่งขวัญ กลายเป็นส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับ6 ตัดสินใจลาออกเมื่อ18 ธันวาคม 2556 และเว้นวรรคทางการเมืองไปหลายปี กระทั่งมาร่วมงานกับพรรคเศรษฐกิจใหม่ 

จับตาเส้นทางการเมืองของมิ่งขวัญวัย70 นับจากนี้ หลังจากที่เคยสังกัดพรรคการเมืองแล้ว 4พรรค ประกอบด้วย พลังประชาชน (2550–2551) เพื่อไทย(2551–2556) เศรษฐกิจใหม่ (2561–2565)  โอกาสไทย(2565) และกำลังก้าวเข้าสู่พรรคที่5 พลังประชารัฐ กับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจประเทศ

 

ข่าวล่าสุด

คลัง ยันยุบสภาฯไม่สะดุดเศรษฐกิจ ชี้กระทบปี 69 วงจำกัด คาด GDP โต 2%