ปชป.ตั้งวงเสวนา LGBTQs สกัดเป็นนโยบายสร้างความเท่าเทียม
ฟัง-เสียง LGBTQs ผ่านวงเสวนาประชาธิปัตย์ สกัดเป็นนโยบายนำไปสู่การสร้างความเท่าเทียมทางเพศอย่างเป็นรูปธรรม
ที่พรรคประชาธิปัตย์ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ กทม.พรรคประชาธิปัตย์ นำโดย “ดร.เอ้” ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเวทีเสวนา “ฟัง-เสียง LGBTQs หยุดเหยียด...เสริมสร้างความเท่าเทียม" โดยมี นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนของพรรค แดนนี่-กิตตินันท์ ธรมธัช นายกสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนของชาว LGBTQ ในประเทศไทย คุณแจ๊ส สรวีย์ อดีตมิสทิฟฟานี่ 2009 ตัวแทน LGBTQ ร่วมงานเสวนาดังกล่าว และมีนายเมธวิน อังคทะวานิช อดีตผู้สมัคร ส.ก.เขตพญาไท ของพรรคดำเนินรายการ
ดร.สุชัชวีร์ กล่าวว่า การแลกเปลี่ยนพูดคุยในเวทีเสวนาครั้งนี้ ไม่ใช่เฉพาะ LGBTQs ที่ไม่เท่าเทียม แต่สังคมไทยยังมีความไม่เท่าเทียมเกิดขึ้นในทุกเรื่องถึงเวลาแล้วที่สังคมต้องมีความเท่าเทียมกันในทุกด้านอย่างแท้จริง พร้อมชวนทุกคนร่วมกันขบคิด นำเสนอวิธีขจัดความไม่เท่าเทียมให้หมดไปเพื่อความสุขของสังคม โดยจะนำความคิดเห็น ต่างๆ จากเวทีเสวนาดังกล่าวมาสกัดเป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงจนบรรลุผลต่อไป
"แดนนี่ กิตตินันท์" ระบุว่า การเหยียดเพศเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำความรุนแรงไม่ใช่ทางกายอย่างเดียว แต่หมายรวมถึงทางใจด้วย ซึ่งการกีดกันการเข้าถึงสิทธิและหน้าที่ ต้องทำให้ทุกปัจจัยมีหนทางคลี่คลายไปได้ และต้องผลักดันทุกๆ เรื่องไปพร้อมๆกันไม่จำเป็นต้องรอให้ข้อใดข้อหนึ่งสำเร็จลุล่วงไปก่อนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องการแก้ปัญหาต้องมีหลักการคิดง่ายๆ เพียงไม่ต้องแยกเขาแยกเราเรื่องก็จบ
ขณะที่นายแทนคุณ กล่าวว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับ LGBTQ+ และการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ จึงมอบหมายให้ได้มีโอกาสทำงานเรื่องนี้เสมือนอิฐก้อนแรกเป็นฐานราก ให้คนที่เป็น LGBTQ+ ได้มายืนข้างบนขึ้นไปเรื่อยๆ ยิ่งยืนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งกว้างมากขึ้นเรื่อยๆเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นได้จากกลุ่มเล็กๆ ที่เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว
ส่วน “แจ๊ส สรวีย์” กล่าวว่า จากช่วงเวลาที่ตนบวชในพุทธศาสนาร่วม 10 ปี ทำให้เห็นว่า องค์ประกอบของการเปลี่ยนแปลงต้องไม่ถือเอา อัตตาธิปไตย หรือการถือเอาความคิดของตนเป็นใหญ่ เพราะจะวนเวียนอยู่ในกิเลสทั้งปวงไม่สามารถก้าวไปสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและหากยังวนอยู่กับ “โล” หรือโลก ซึ่งเรียกว่าโลกาธิปไตย ปัญหาก็จะยังวนซ้ำอยู่อย่างนั้น ไม่หลุดออกจากหลุมดำเดิมๆ จึงต้องแก้ปัญหาด้วยการใช้ ธรรมาธิปไตย หรือใช้หลักธรรม ที่ทุกคน ทุกครอบครัว ทุกองค์กร ควรถือเป็นใหญ่ ก็จะทำให้การเหยียด ความรุนแรงต่างๆ จะลดน้อยลง ซึ่งการถือครองศีล 5 นั้นแม้วันนี้ยังถือครองศีลได้ไม่ครบทั้ง 5 ข้อ แต่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็น่าจะเป็นแนวทางพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีได้
คุณเอื้อง ชมพูนุท นาครทรรพ คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ติดภารกิจไม่สามารถมาร่วมเวทีเสวนาได้ แต่ได้แสดงความเห็นผ่านเพจ Modern BKK ว่า ในฐานะที่ตนเป็นหนึ่งใน LGBTQI+ ที่ได้ทำงาน และมีบทบาทในการร่าง พ.ร.บ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศ มาจนถึง พ.ร.บ. คู่ชีวิต จึงหวังว่าร่าง พ.ร.บ. รับรองเพศสภาพ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ พม. ที่มีส่วนร่วมมาตั้งแต่ต้นจะสามารถเข้าสู่การพิจารณาในสภา เพื่อบังคับใช้ได้ทันในรัฐบาลสมัยนี้


