ปชป.อ่านเกมการเมืองออก พร้อมเลือกตั้งหากมียุบสภา

เมื่อวันที่ 12 กพ. 65 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ได้รับการประสานจาก พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ (ผู้การแต้ม) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค และมี นาย สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. สังกัดพรรค ลงพื้นที่หลักสี่ มาร่วมกันมอบ "ถุงน้ำใจ ปชป." ให้กับพี่น้องในชุมชนเคหะแจ้งวัฒนะ

ภายหลังการมอบถุงน้ำใจ ปชป. นายจุรินทร์ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับการส่งตัวผู้สมัคร ส.ส. เขตหลักสี่ในการเลือกตั้งสมัยหน้าว่า ได้พูดคุยกันไว้ในเบื้องต้นแล้ว ต่อไปก็จะนำเข้าสู่กระบวนการตามข้อบังคับพรรคไปตามปกติว่าจะส่งผู้การแต้ม ลงสมัคร ส.ส. เขตหลักสี่ ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า ส่วนผู้สมัคร ส.ก. ก็ได้ประกาศตัวแล้ว คือ นายอนันตชาติ บัวสุวรรณ เขตจตุจักร และนายธราธพ ชาตรี เขตหลักสี่ ส่วนผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ก็มีความชัดเจนอยู่แล้วคือ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์

จากการที่มีกระแสข่าวที่ระบุว่า จากการที่ "เอ้ สุชัชวีร์" ถูกเล่นงานทางการเมือง จนมีข่าวลือจากคนนอกพรรคว่าอาจมีการพิจารณาเปลี่ยนตัวผู้สมัครนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวยืนยันว่าไม่มีอะไรเปลี่ยน เพราะก่อนที่จะเปิดตัว "ดร.เอ้" ได้ผ่านขั้นตอนกระบวนการตามข้อบังคับพรรคจบสิ้นแล้ว จนกระทั่งคณะกรรมการบริหารพรรคมีมติเห็นชอบจึงนำไปสู่การเปิดตัว ซึ่งถือว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของพรรคครบถ้วนแล้ว และพรรคก็ไม่มีความคิดที่จะเปลี่ยนตัว ตรงนี้ต้องขอยืนยัน ถัดจากนี้รอว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทมเมื่อไหร่ ก็จะไปสมัครตามนั้น รวมทั้ง ส.ก. อีก 50 เขต ที่ได้เปิดตัวไปแล้วด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าในส่วนยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง กทม. นั้น หัวหน้าพรรคกล่าวว่า สิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นไปตามแนวทางที่ถูกต้องแล้ว โดยเริ่มต้นจากการเปิดตัวแนะนำตัวเองว่าเป็นใครมาจากไหน ซึ่งความจริง "ดร.เอ้" ก็เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว นอกจากนั้น ก็ได้เปิดเปิดวิสัยทัศน์ทิศทางในการเข้ามาบริหารกรุงเทพมหานคร รวมทั้งแก้ปัญหาให้กับชาวกรุงเทพฯ ทุกอย่างมีความชัดเจนแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องทุกวัน ซึ่งทำให้เห็นได้ชัดเจนว่ามีความมุ่งมั่นตั้งใจ จากการไปในแต่ละเขตก็ได้รับทราบปัญหาและเสนอแนะแนวทางแก้ปัญหาที่ต้องยอมรับว่าเป็นรูปธรรมจริงๆ ของคนที่รู้ปัญหาจริง ไม่ใช่อยู่ในจินตนาการ เพราะฉะนั้นก็คิดว่าจะเป็นที่หวังของพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่ "ดร.เอ้" ถูกโจมตีทางการเมืองรายวันนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เราอยากเห็นการเมืองสร้างสรรค์มากกว่าการเมืองที่มุ่งทำลายกัน มันไม่ยุติธรรมสำหรับคนดี หรือคนที่มีความปรารถนาดี ตั้งใจดีต่อบ้านเมืองที่จะลงรับใช้บ้านเมือง ถ้าเราเล่นการเมืองแบบนี้ต่อไป คนดีๆ ก็ถอยหมด เพราะฉะนั้นเราต้องช่วยกันสนับสนุนแนวทางการเมืองที่สร้างสรรค์ ซึ่ง "ดร.เอ้" พรรคประชาธิปัตย์ ก็ทำให้เห็นเป็นตัวอย่างอยู่ เราไม่โจมตีใคร ไม่วิจารณ์ใคร ไม่ไปกลั่นแกล้ง ไม่ไปด้อยค่าใคร เราก็เดินหน้าของเรา เสนอแนวทางแก้ไขปัญหา

"เราประสงค์ที่จะส่งสิ่งที่ดีที่สุดให้เป็นทางเลือกกับพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร แต่เราไม่อยากเห็นการทำลายสิ่งที่คิดว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดทางหนึ่ง โดยระบบการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

ซึ่งในการลงพื้นที่เขตหลักสี่วันนี้มีแกนนำสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค เยาวลักษณ์ โตอนันต์ อดีตผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดปราจีนบุรี นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท นายแทนคุณ จิตต์อิสระ นายศิววงศ์ วงศ์พิชญา ผู้สมัคร ส.ก. เขตดอนเมือง นายเรวัตร คงชาติ ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางซื่อเข้าร่วมอย่างคึกคัก โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น มีประชาชนมารอต้อนรับ พร้อมขอถ่ายรูปร่วมกับแกนนำของพรรคอย่างใกล้ชิด

"ผมรู้ว่าไม่กี่ตังค์แต่ซาบซึ้งประทับใจ เพราะคนให้มากระซิบบอกว่า ไม่มีดอกไม้ เลยไม่รู้จะเอามาแทนดอกไม้ ก็เลยให้ขนมเวเฟอร์ไว้ก็แล้วกัน ต้องขอขอบคุณด้วยความประทับใจอย่างยิ่ง" หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวถึงการที่มีหลายฝ่ายมองว่าเสถียรภาพรัฐบาลใกล้ถึงการยุบสภา รวมไปถึงการที่พรรคประชาธิปัตย์ประสบปัญหาเกี่ยวกับตัวผู้สมัครนั้นว่า สิ่งหนึ่งที่พรรคจะต้องเดินหน้าต่อไป ก็คือการเตรียมการเรื่องนโยบาย เพื่อใช้นำเสนอในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า ซึ่งก็มีความคืบหน้ามากแล้ว เพราะพรรคมีประสบการณ์และมีนโยบายที่เป็นฐานรากของพรรคมาโดยต่อเนื่องซึ่งจะได้ต่อยอดต่อไป ที่สำคัญก็คือนโยบายของประชาธิปัตย์จะเป็นนโยบายที่จับต้องได้ เป็นนโยบายที่แก้ปัญหาจริงได้ และจะต้องทำได้ไว ทำได้จริง อย่างที่ทางที่เราได้กำหนดไว้ เรื่องนี้ผมยืนยัน และเมื่อถึงเวลาก็จะประกาศให้ได้รับทราบ

นอกจากนี้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังกล่าวอีกว่า อีกส่วนหนึ่งที่พรรคได้เตรียมการมาโดยลำดับคือเรื่องตัวบุคคลที่จะเป็นผู้สมัครในหลายภาค ซึ่งเกือบจะเรียกว่าจบทั้งหมด ผู้ว่า กทม. ก็มีตัวแล้ว ส.ก. ก็ครบทั้ง 50 เขตแล้ว ผู้แทนราษฎรเที่ยวหน้า ถ้าเพิ่มจาก 30 เป็น 33 เขต ก็จะหาคนเพิ่มอีกไม่กี่คน ที่ผ่านมาก็เคาะไป 20 กว่าท่านแล้ว ส่วนภาคใต้ตอนนี้ยังขาดเพียงไม่กี่จังหวัดเท่านั้น ภาคเหนือผู้แทนเก่ายังอยู่กับเราหมด ไม่มีใครแตกออกไปและมีคนรุ่นใหม่เติมเข้ามาด้วย ภาคอีสานก็มีคนใหม่ ๆ เข้ามาหลายคน ภาคกลางก็ได้มาอีกหลายจังหวัด เมื่อไม่กี่วันนี้ก็เคาะไปอีก 1 จังหวัด เพิ่มจาก 3 เขต เป็น 4 เขต ได้ตัวครบแล้วและเป็นผู้ที่มีศักยภาพมาก

พร้อมกับยอมรับว่าในการพิจารณาตัวผู้สมัครของพรรคอาจจะใช้เวลานานขึ้น และขั้นตอนการพิจารณาอาจจะยากขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา เพราะมีผู้สนใจและเสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งมากขึ้น แทนที่เขตนึงจะมีผู้สนใจ 1 ท่าน หรือมีคนเก่าอยู่คนเดียว หรือมีคนใหม่เข้ามาคนเดียว กลายเป็นว่ามี 2 - 3 คนพรรคก็อาจจะต้องใช้ดุลพินิจ และก็จะต้องพิจารณาไปตามขั้นตอนกระบวนการข้อบังคับให้มีความชัดเจน

ผู้สื่อข่าวถามว่าสาเหตุดังกล่าวเป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์มีกระแสดีขึ้นใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ตอบว่า ก็มีบ้างในบางพื้นที่ที่เคยบอกว่าไม่คิดจะลงสมัครแล้ว พอช่วงหลังก็อาจจะเปลี่ยนความคิด ซึ่งอันนี้พรรคก็ให้โอกาสทุกคน รวมทั้งคนใหม่ด้วย ยกเว้นบางกรณีที่คนใหม่เขาเดินไปไกลแล้วจนเป็นที่รับรู้กัน คนเก่าก็สนับสนุน พรรคก็จะต้องมาหาทางออกให้ต่อไป โดยไม่ทิ้งใคร โดยหลักการก็จะพิจารณาต่อไปเพียงแต่อาจจะต้องอดทนรอตามกระบวนการบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ประชาธิปัตย์เจอมาหลายยุคหลายสมัยแล้ว ยามที่พรรคตกต่ำก็ไม่ค่อยมีใครอยากลง ต้องไปอ้อนวอนให้มาช่วยกันลงสมัครในนามพรรค แต่พอยามที่พรรคดีขึ้นก็เริ่มมีการแย่งกันลง พรรคก็ต้องแก้ปัญหาไปอีกแบบหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราเข้าใจได้ไม่ตำหนิใคร เพราะเป็นหน้าที่ กก.บห.พรรค ก็จะต้องพิจารณาในสิ่งที่ดีที่สุดให้กับพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งนั้นๆ และต้องพิจารณาในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพรรค เพราะพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งก็หวังที่จะได้ที่นั่ง เพราะการได้ที่นั่งก็จะนำไปสู่การที่จะสามารถนำนโยบายของพรรคไปปฏิบัติให้เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนได้ จึงต้องพิจารณาไปตามหลักนี้ โดยยึดข้อบังคับพรรคเป็นขั้นตอนกระบวนการพิจารณา

ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่าไม่ว่าจะมีการยุบสภาเกิดขึ้นเมื่อใด พรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมแล้วใช่หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ก็ต้องพร้อม ที่จริงก็พร้อมมาระดับหนึ่งแล้ว เพราะเราอยู่ในวงการเมือง เราพออ่านการเมืองออก และพอเข้าใจว่ามันเป็นอย่างไร