ศาลสั่งกักขัง 10 วัน "เพนกวิน-พวก" ละเมิดศาล
ศาลธัญบุรี ฯ สั่งลงโทษกักขัง 10 วัน "เพนกวิน-พวกรวม 9 คน" หลังรับสารภาพคดีละเมิดอำนาจศาล เขียนข้อความบนกำแพงห้องคุมตัว-ไลฟ์สดระหว่างรอประกันฝากขังคดีเมื่อเดือน ส.ค. ขณะที่ 6 คนยื่นประกันสู้คดีละเมิดศาลชั้นอุทธรณ์
เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 64 ศาลจังหวัดธัญบุรี ไต่สวนคำร้องและฟังคำสั่งคดีละเมิดอำนาจศาล หมายเลขดำ ลศ.1/2564 ที่ ผอ.สำนักอำนวยการประจำศาลจังหวัดธัญบุรี เป็นผู้กล่าวหา
นายพรหมศร วีระธรรมจารี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1
นายแซม สาแมท (Sam Samart หรือ Samat) บุคคลไร้สัญชาติ เชื้อชาติกัมพูชา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2
นายพริษฐ์หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3
นายณัฐชนน ไพโรจน์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4
นายสิริชัย นาถึง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5
นายชาติชาย แกดำ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6
นายภาณุพงศ์ จาดนอก ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7
น.ส.ปนัดดา ศิริมาศกูล ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8
นายธนพัฒน์ กาเพ็ง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9
โดยพฤติการณ์กล่าวกระทำผิดสรุปว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 9 ส.ค.64 ภายหลังมีการยื่นฝากขังผู้ถูกกล่าวหาทั้งเก้าในคดีอาญา เกี่ยวกับการมั่วสุมกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ฯ ระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในห้องรอประกัน ได้เขียนข้อความถ้อยคำหยาบคายบนผนังห้อง และมีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กกลุ่มสาธารณะที่ใช้ชื่อว่า "ทะลุฟ้า" ภายใต้หัวข้อ Live 1 Live 2 Live 3 หากรับใช้ใบสั่งอย่างอัปรีย์ ตุลาการเช่นนี้ อย่ามีเลย ! ศาลธัญบุรีไม่ให้ประกันตัว 9 คน
ซึ่งนัดพิจารณาวันนี้ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1, 4, 5, 6, 8, 9 มาศาล ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่ 2, 3, 7 ฟังคำสั่งผ่านการประชุมทางจอภาพ (Video Conference) ระหว่างศาลกับเรือนจำ
ทั้งนี้ศาลอ่านและอธิบายข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1, 8, 9 ฟังแล้วผู้ถูกกล่าวหายืนยันให้การรับสารภาพว่ากระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริงรายละเอียดตามคำให้การที่ยื่นต่อศาลวันนี้ ส่วนผู้ถูกกล่าวหารายอื่นได้ให้การไปแล้วในนัดพิจารณาก่อนหน้านี้ (วันที่ 9 พ.ย.64)
ภายหลัง ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อผู้ถูกกล่าวหาที่ 1, 8, 9 ให้การรับสารภาพ ประกอบกับตรวจสำนวนคดีแล้วข้อเท็จจริงพอวินิจฉัยได้จึงให้งดการไต่สวนสำหรับผู้ถูกกล่าวหานี้
โดยศาลมีคำสั่งว่า พิเคราะห์พยานหลักฐานภาพถ่าย ตลอดจนภาพเคลื่อนไหวประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาทั้งเก้าให้การรับสารภาพ เห็นว่าการที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งเก้าขีดเขียนฝาผนัง ข้างฝาห้องควบคุม กล่าวคำหยาบคายด่าทอศาลและทำลายทรัพย์สินภายในห้องควบคุมจนได้รับความเสียหายและเกิดเหตุการณ์วุ่นวายภายในศาล การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งเก้าจึงเป็นการขัดขืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลและประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 31 (1) ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 และมาตรา 180 จึงมีคำสั่งให้ลงโทษจำคุกผู้ถูกกล่าวหาทั้งเก้า มีกำหนดคนละ 20 วัน
ผู้ถูกกล่าวหาทั้งเก้า ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คนละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 10 วัน
อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาถึงอายุ การศึกษาอบรม สภาพความผิด และรู้สำนึกในการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งเก้า ประกอบกับผู้ถูกกล่าวหาบางคนกำลังอยู่ในระหว่างศึกษาเล่าเรียนและโทษจำคุกที่จะลงแก่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งเก้ามีกำหนดไม่เกิน 3 เดือน เมื่อไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้งเก้าเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นสมควรให้ลงโทษกักขังแทนโทษจำคุก มีกำหนดคนละ 10 วันนับแต่วันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฟังคำสั่งลงโทษคดีละเมิดอำนาจศาลนี้แล้ว นายพรหมศร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1, นายณัฐชนน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4, นายสิริชัย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5, นายชาติชาย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6, น.ส.ปนัดดา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 และนายธนพัฒน์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9 ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ (คำร้องใบเดียว) โดยมีหลักประกัน ซึ่งหากศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจะเสนอมาภายหลังเป็นเงินสด คนละ 10,000 บาท และไม่ประสงค์ขอใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (EM)
ขณะที่ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ หากผิดสัญญาปรับคนละ 10,000 บาทและยึดหลักประกัน
ทั้งนี้ในส่วนของนายแซม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2, นายพริษฐ์หรือเพนกวิน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และนายภาณุพงศ์หรือไมค์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 ไม่ประสงค์ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว


