กาญจน์สั่งเจ้าของที่รื้อกำแพงสูงภายใน15วัน
กาญจนบุรี-เมืองกาญจน์สั่งเจ้าของที่ดินรื้อกำแพงสูงมิดหลังคาใน15วัน มอบยุติธรรมจังหวัดหารือชาวบ้านคำนวนความเสียหาย
ร.ต.พงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี หารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเป็นเวลานานเกือบ 3 ชั่วโมง กรณีชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ออกมาร้องขอความเป็นธรรม กรณีเจ้าของที่ดินซึ่งอยู่ติดกับหมู่บ้าน มีการถมดินสูงพร้อมสร้างรั้วขึ้นมาบนที่ดิน จนสูงมิดหลังคาของชาวบ้านได้ข้อสรุปว่า เจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าวดำเนินการถมดินโดยไม่ได้รับอนุญาต และทางเทศบาลตำบลลาดหญ้า ได้มีการทำหนังสือแจ้งให้เจ้าของที่ดินหยุดการถมดิน และขอให้เจ้าของที่ดินมาทำหนังสือขออนุญาตให้ถูกต้องเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2563 และเจ้าของที่ดินได้เข้ามายื่นหนังสือขออนุญาตอีกครั้งในวันที่ 19 ส.ค. 2563 กระทั่งเทศบาลได้มีการออกหนังสืออนุญาตให้มีการถมดินในวันที่ 28 ส.ค. 2563 โดยมีระยะเวลาการดำเนินการได้จนถึงวันที่ 24 ก.พ.2564 โดยเมื่อสิ้นสุดการอนุญาต ทางเจ้าของที่ดินได้มายื่นขอต่อใบอนุญาตถมดินกับทางเทศบาล แต่ทางเทศบาลเห็นว่ากรณีดังกล่าวมีข้อร้องเรียนจากทางชาวบ้านจึงได้ไม่อนุญาตต่อใบอนุญาตให้กับเจ้าของที่ดิน
อีกทั้งเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการตรวจสอบภายในที่ดินแปลงดังกล่าว พบว่าในการถมดินไม่ได้มีการวางระบบการระบายน้ำตามข้อกำหนด และในส่วนของการก่อสร้าง แนวกำแพงกันดินและรั้วที่อยู่บนแนวกำแพงกันดินซึ่งสูงจนมิดหลังคาของชาวบ้านนั้น เมื่อตรวจสอบเอกสารการขออนุญาต พบว่าทางเทศบาลมีการอนุญาตการก่อสร้างแนวรั้วจริง แต่ไม่ได้มีการอนุญาตให้มีการสร้างแนวกำแพงกันดิน ดังนั้น จึงถือว่ารั้วดังกล่าวสร้างอยู่บนสิ่งก่อสร้างที่ไม่มีฐานราก อาจทำให้เกิดอันตรายกับประชาชนที่อยู่ข้างเคียงได้ ทางจังหวัดกาญจนบุรีจึงมีคำสั่งให้ทางเทศบาลตำบลลาดหญ้า แจ้งกับเจ้าของที่ดินให้มีการรื้อถอนแนวรั้วบนกำแพงกันดินออกให้เรียบร้อยภายในระยะเวลา 15 วัน
ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบ้านเรือนของประชาชน อันเป็นผลมาจากการถมดินดังกล่าวผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลลาดหญ้า ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายที่เกิดกับบ้านเรือนของประชาชน ไปดำเนินการตรวจสอบประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งพบว่ามีจำนวนประมาณ 10 หลัง และส่งให้ทางยุติธรรมจังหวัดกาญจนบุรีเข้าไปหารือกับเจ้าของบ้านที่ได้รับความเสียหายเพื่อคำนวณความเสียหาย และเจรจากับทางเจ้าของที่ดินในเรื่องของการชดใช้ให้กับชาวบ้านผู้ได้รับความเสียหายต่อไป ซึ่งหากทั้งสองฝ่ายเจรจาตกลงกันได้ก็ไม่ต้องดำเนินการ ตามกฎหมายในขั้นต่อไป พร้อมกันนี้ ทางรองผู้ว่าราชการจังหวัดได้ฝากขอโทษไปยังประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากที่ผ่านมาการดำเนินการตามขั้นตอนของส่วนราชการอาจมีความล่าช้า จนทำให้การแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที


