ศบค. เผยตัวเลขคลัสเตอร์โควิด แฉ ยังเจอในวงพนัน-วงเหล้า-งานแต่ง-งานศพ
ศบค. เผย 7 วัน แนวโน้มผู้ป่วยโควิดอาการหนัก-ตาย ลดลง เปิดตัวเลขคลัสเตอร์โควิดในกลุ่มต่างๆ แฉ ยังเจอ ในวงพนัน-วงเหล้า-งานแต่ง-งานศพ คาดโทษแคมป์คนงานละเลยมาตรการป้องกัน
เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 64 นพ. เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงข่าวศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) ตอนหนึ่งว่า แนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีอาการหนักระหว่างวันที่ 1-7 ก.ย. ของประเทศไทยมีทิศทางลดลง เช่นเดียวกับแนวโน้มผู้เสียชีวิตที่มีทิศทางลดลงด้วยเช่นกัน และหากนำภาพรวมของประเทศไทยต่อ 1 ล้านประชากรเปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกาพบว่า อัตราป่วยของไทยน้อยกว่าสหรัฐฯ 8 เท่า อัตราเสียชีวิตน้อยกว่าสหรัฐฯถึง 10 เท่า
ส่วนการระบาดที่เป็นคลัสเตอร์ จากข้อมูลพบว่ายังมีแคมป์คนงานและสถานประกอบการ คลัสเตอร์ที่ยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องมี 318 คลัสเตอร์ ไม่พบการติดเชื้อแล้ว 165 คลัสเตอร์ ตลาด ชุมชนและครอบครัว คลัสเตอร์ที่ยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องมี 131 คลัสเตอร์ ไม่พบการติดเชื้อแล้ว 76 คลัสเตอร์ ร้านอาหาร สถานบันเทิง คลัสเตอร์ที่ยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องมี 3 คลัสเตอร์ ไม่พบการติดเชื้อแล้ว 3 คลัสเตอร์ สำนักงาน โรงเรียน สถานศึกษา คลัสเตอร์ที่ยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องมี 12 คลัสเตอร์ ไม่พบการติดเชื้อแล้ว 13 คลัสเตอร์
นอกจากนี้ยังพบการระบาดในวงสุรา วงพนัน พิธีกรรมทางศาสนา งานแต่ง งานศพ ตลอดจนในโรงพยาบาล จึงขอย้ำว่าทุกคนต้องระมัดระวังตัวเองทุกที่ทุกเวลา
นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า ที่ประชุม ศบค.ยังได้ประชุมติดตาม การเตรียมความพร้อมฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนอายุ 12-17 ปี จำนวน 4 แสนคน โดยจะฉีดให้กับนักเรียนในโรงเรียนทุกสังกัด การดำเนินการฉีดวัคซีนแคมป์ก่อสร้างใน กทม. ฉีดแล้ว 61,841 คน ใน 606 แคมป์ ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 10 ก.ย.64 และเสนอให้มีมาตรการลงโทษปรับตามกฎหมาย กับแคมป์ที่ใม่เคร่งครัดมาตรการป้องกันโควิด โดยให้สำนักอนามัย นำเสนอแนวทางต่อ ศบค. มาตรการป้องกันควบคุมโรคในตลาดและโรงงาน การตรวจค้นหาเชื้อเชิงรุก ด้วยชุดตรวจ ATK กทม.ได้รับจัดสรร 2,410,300 ชุด โดยจะมีการกระจายไปสู่ประชาชน 6 กลุ่มเสี่ยง คือ 1.ชุมชนจัดตั้ง 2,016 ชุมชน 2.ตลาด ร้านอาหาร มินิมาร์ท แผงลอย 3.ขนส่งสาธารณะ 4. ครูและโรงเรียนทุกสังกัด 1,351 แห่ง5.บริการนวด เสริมสวย และ 6. กลุ่มเปราะบาง


