posttoday

"เดียร์"อัดระบบราชการ-จนท.ที่ผิดพลาด ทำคนชราต้องรับเคราะห์

31 มกราคม 2564

"ขัตติยา สวัสดิผล" ชี้ความผิดพลาดของระบบราชการและเจ้าหน้าที่ ไม่กลั่นกรองตรวจสอบให้ดี ทำให้คนชราต้องรับเคราะห์ถูกรีดเบี้ยคืน

เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 64 น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ศ.เพื่อไทยโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงประเด็นการเรียกคืนเบี้ยคนชราโดยมีเนื้อหาน่าสนใจดังนี้

ระบบราชการเสียกระดาษไปเกือบหมดป่าในการทำเอกสาร สุดท้ายระบบรวน ผลคือคนชรารับเคราะห์ถูกรีดเบี้ยคนชราคืน?

เดียร์เพิ่งทราบเงื่อนไขของผู้สูงอายุที่จะมีสิทธิรับเบี้ยยังชีพอย่างจริงจังก็เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ว่านอกจากอายุ 59 ปีขึ้นไปแล้ว ก็จะต้องไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ จากหน่วยงานรัฐด้วย เช่น ไม่เคยได้บำนาญ ไม่เคยได้เบี้ยหวัด รวมถึงไม่เคยได้บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน

จึงได้มีผู้สูงอายุจำนวนหนึ่ง ถูกหน่วยงานรัฐฟ้องเรียกเบี้ยคืน เพราะได้รับบำนาญพิเศษจากการที่สามีตายจากสนามรบบ้าง ลูกตายระหว่างรับราชการบ้าง

การตั้งเงื่อนไขแบบนี้เราไม่ว่ากัน (แต่ถ้ามันมีปัญหาเรื่องการตีความ เช่น ในคอมมอนเซนส์เราอาจเข้าใจว่า การที่ลูกหรือสามีตายจากการปฏิบัติหน้าที่ เราจะได้เงินชดเชย ที่ไม่เท่ากับบำนาญ หรือสวัสดิการที่เราจะได้รับตามสิทธิอยู่แล้ว)

แต่เมื่อเงื่อนไขมันซับซ้อนว่าหากรับเงินนี้แล้วจะรับเงินอีกส่วนไม่ได้

เบื้องต้นเลย หน้าที่ในการคัดกรองรายชื่อและคุณสมบัติมันควรเป็นของภาครัฐหรือไม่ ไม่ใช่แค่จากการซักถาม/สอบประวัติกับคนอายุมากกว่า 60 ปี

สิ่งที่เกิดขึ้น เดียร์มองว่ามันคือความผิดพลาดของระบบราชการและเจ้าหน้าที่ ที่ไม่กลั่นกรองหรือตรวจสอบให้ดี แต่กลับโยนบาปนี้ให้ผู้สูงอายุรับผิดชอบแต่ผู้เดียวไม่มีผู้สูงอายุคนไหน อยากให้สามีหรือลูกที่รับราชการต้องตายเพียงเพื่อให้ได้เงินบำนาญพิเศษ ถ้าเลือกได้ก็คงอยากให้อยู่ช่วยกันทำมาหากิน

แต่ความชราภาพสิ่งที่ห้ามธรรมชาติไม่ได้ เมื่อเวลาผ่านไป เรี่ยวแรงในการทำมาหากินก็น้อยลงไปทุกที เบี้ยยังชีพจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันและในช่วงเวลาที่เราเดินหน้าเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มตัวแล้ววันนี้

เสียดายงบประมาณแผ่นดินที่ให้เจ้าหน้าที่รัฐไปดูความทันสมัยของหน่วยงานต่างๆ ในต่างประเทศ เสียดายงบประมาณแผ่นดินที่เอามาปรับปรุงเทคโนโลยีของแต่ละกระทรวง เสียดายกระดาษที่ถูกใช้ไปกับระบบราชการเกือบหมดป่า

แต่สุดท้าย เราได้ความผิดพลาด แล้วให้ศาลสั่งเรียกเงินคืนจากคนชรา...น่าไม่อายเลยจริงๆ ถ้ายังจะกล้าเรียกเงินคืนจากผู้สูงอายุ ผู้ที่ไม่มีเรี่ยวแรงจะสู้อะไรแล้ว แถมประกาศยอมติดคุก ภาครัฐก็ควรจะกล้าร่วมรับผิดชอบด้วยกัน ติดคุกด้วยกัน เนื่องจากไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนจ่ายเงิน

สุดท้ายนี้ ลองคิดง่ายๆ ว่าคนที่เป็นเหยื่อความผิดพลาดนี้คือพ่อแม่ของคุณ คุณจะรู้สึกอย่างไร

ข่าวล่าสุด

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และเวสเทิร์นดิจิตอลยินดีผู้สำเร็จหลักสูตรเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อผลิตอัจฉริยะร่วมกับบีโอไอ