posttoday

เปิด 3 โจทย์สุดมึนข้อสอบPAT

02 ธันวาคม 2553

ในการสอบระดับชาติ ที่มีผลต่ออนาคตของนักเรียนจำนวนมาก แต่ละคะแนนมีความสำคัญดังที่กล่าวไว้ข้างต้น หาก คะแนนเดียวก็ชี้ชะตาอนาคตเด็กคนหนึ่งได้... 

ในการสอบระดับชาติ ที่มีผลต่ออนาคตของนักเรียนจำนวนมาก แต่ละคะแนนมีความสำคัญดังที่กล่าวไว้ข้างต้น หาก คะแนนเดียวก็ชี้ชะตาอนาคตเด็กคนหนึ่งได้... 

โดย...ธเนศน์ นุ่นมัน

อีกครั้ง ที่ข้อสอบซึ่งออกโดย สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ถูกทักท้วงว่าผิดพลาด และความผิดพลาดนั้น จะส่งผลกระทบไปถึงคะแนน ที่ถูกนำไปใช้เข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา

อำนวย สุนทรโชติ ประธานชมรมค่านิยมเพื่อสร้างชาติ ระบุว่า ในการสอบเข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการรับตรง หรือ ระบบแอดมิชชัน เป็นการแข่งขันที่ผู้สอบทราบดีว่า ใบเบิกทางที่จะทำให้พวกเขา ก้าวเข้าไปในรั้วมหาวิทยาลัยที่วาดหวังไว้ ขึ้นอยู่กับคะแนนที่ได้ ต่างกันเพียงคะแนนเดียว ชะตากรรมก็อาจจะเปลี่ยนไปอย่างคาดเดาไม่ได้

อำนวยเล่าว่า หลังจากที่พบว่า มีนักเรียนกลุ่มหนึ่ง ร้องเรียนผ่านเว็บไซต์ ว่า  ข้อสอบวิชาความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการหรือPAT3 ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ และ PAT2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์  ซึ่งได้สอบไปแล้วเมื่อ เดือนต.ค. ที่ผ่านมา มีความผิดปกติ  3 ข้อ

โดยพบว่า โจทย์ในข้อดังกล่าว มีความไม่ชัดเจน  ขณะที่ทั้ง 3 ข้อนั้น มีคะแนนถึง  15 คะแนน และมหาวิทยาลัยหลายแห่งกำลังจะนำคะแนนในข้อดังกล่าวไปใช้ในการรับตรง

3 ข้อที่เป็นปัญหานั้น อำนวยแจกแจงให้ ว่า  ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ (แพต3) ข้อ 78. ที่ผิดนั้น โจทย์คือ “เสียงระฆังที่หอนาฬิกาจะตีบอกเวลาทุกๆชั่วโมง เมื่อเวลา 4 โมงเย็น (ระฆังตี 16 ครั้ง) หากจับเวลาหลังจากได้ยินเสียงระฆังครั้งแรกจนกระทั่งสิ้นเสียงระฆังครั้งสุดท้ายได้เวลา 30 วินาที อยากทราบว่าที่เวลาหนึ่งทุ่ม ระยะเวลาตั้งแต่ได้ยินเสียงระฆังครั้งแรกจนกระทั่งสิ้นเสียงระฆังครั้งสุดท้าย คิดเป็นเวลากี่วินาที”     (ข้อสอบเป็นข้อสอบแบบเติมคำตอบไม่ใช่แบบตัวเลือกให้คะแนน 6 คะแนนจากคะแนนเต็ม 300 คะแนน

เปิด 3 โจทย์สุดมึนข้อสอบPAT

ผู้ออกข้อสอบเฉลยว่า   “36 วินาที” โดยผู้ออกข้อสอบ ตั้งสมมติฐานว่า เสียงระฆังนั้นไม่ดังกังวาลคือแต่ละครั้งจะดังสั้นมากจนถือว่าระยะเวลาตั้งแต่เริ่มได้ยินจนถึงสิ้นสุดเสียงเป็นศูนย์ จึงทำให้ได้ยินเสียงระฆัง   “ดังเงียบดังเงียบ...”

โดยเวลา 16.00 น.จะได้ยินเสียงระฆัง ดัง เงียบ ๆ ไประยะหนึ่ง ซึ่งถ้าให้ระยะเวลาที่ใช้ในการเริ่มดังครั้งแรกจนสิ้นเสียงเท่ากับ 0 วินาทีและระยะเวลาตั้งแต่สิ้นเสียงครั้งแรกจนเริ่มได้ยินเสียงครั้งต่อไปเท่ากับ y วินาที จะได้สมการสำหรับเวลา 16.00 น.ว่า 15y = 30 ได้ y = 2 วินาที ขณะที่ ในเวลา 19.00 น.จะได้ยินเสียงระฆัง ได้เวลาสำหรับการตีระฆังในเวลา 19.00น. คือ 18y = 18(2) = 36 วินาที

คำเฉลยดังกล่าว อำนวย โต้แย้งว่า ลักษณะเสียงของระฆังที่ตีหนึ่งครั้งนั้น จะเป็นเสียงที่ดังกังวาลทอดยาวออกไปโดยจากการเริ่มได้ยิน จนสิ้นสุดเสียงในแต่ละครั้งจะกินเวลาช่วงหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถกำหนดให้ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มได้ยินจนสิ้นสุดการได้ยินเป็น 0 วินาทีได้ เพราะจะขัดกับความเป็นจริง ยิ่งเมื่อโจทย์มีคำว่า “เริ่มได้ยินเสียงครั้งแรก” กับ “สิ้นเสียงระฆัง” นั้นแสดงให้เห็นชัดเจนว่าการเริ่มต้นและการสิ้นสุดนั้นเป็นจุดที่ไม่เหมือนกัน  เมื่อโจทย์ไม่ได้ระบุให้ชัดเจนว่าเป็นการตีแบบใด โดยได้ตั้งสมมติฐานได้ว่า

การตีระฆังแต่ละครั้งเป็นการตีครั้งแรกแล้วรอจนระฆังเงียบไปช่วงเวลาหนึ่งแล้วจึงตีระฆังครั้งต่อไป เช่น ถ้าให้ช่วงเวลาที่ดังกังวาลแต่ละครั้งใช้เวลาเท่ากับ X วินาทีและให้ช่วงเวลาที่เงียบ(ตั้งแต่เริ่มเงียบจนได้ยินเสียงครั้งต่อไป)ใช้เวลาเท่ากับ Y วินาที โดยพบว่า ไม่สามารถหาค่าได้เพราะเป็นหนึ่งสมการแต่มีสองตัวแปร

“หากผู้ออกข้อสอบต้องการที่จะให้ตอบ 36 อย่างไม่ต้องมีข้อโต้แย้งจะต้องออกข้อสอบดังนี้ “เสียงระฆังที่หอนาฬิกาจะตีบอกเวลาทุกๆชั่วโมง เมื่อเวลา 4 โมงเย็น(ระฆังตี 16 ครั้ง) หากจับเวลาหลังจากเริ่มได้ยินเสียงระฆังครั้งแรกจนกระทั่งเริ่มได้ยินเสียงระฆังครั้งสุดท้ายได้เวลา 30 วินาที อยากทราบว่าที่เวลาหนึ่งทุ่ม ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มได้ยินเสียงระฆังครั้งแรก จนกระทั่งเริ่มได้ยินเสียงระฆังครั้งสุดท้าย คิดเป็นเวลากี่วินาที ”อำนวยกล่าว

เขาสรุปอีกว่า โจทย์มีความไม่ชัดเจน สามารถตีความได้หลายแบบ และในแต่ละแบบที่ถูกต้องตามหลักแห่งความเป็นจริงนั้นก็ไม่สามารถหาคำตอบได้

ข้อ 79.ถามว่า มีโซ่อยู่ 10 เส้น แต่ละเส้นมีจำนวน 3 ห่วง ถ้าช่างเชื่อมต้องการต่อโซ่ 10 เส้นนี้เป็นเส้นเดียวยาวๆ ถามว่าช่างเชื่อมต้องตัดห่วงกี่อัน(ข้อสอบเป็นแบบเติมคำตอบมีคะแนน 6 คะแนนจากคะแนนเต็ม 300 คะแนน)

“ข้อนี้ นักเรียนที่มีความรู้แบบพื้นๆจะตอบ 9 แต่ถ้าเป็นนักเรียนที่ฉลาดมากๆจะตอบ 7 ขณะที่ ผู้เฉลยเฉลย 9 ทำให้นักเรียนที่ฉลาดมากๆไม่ได้คะแนนซึ่งไม่ยุติธรรมเป็นอย่างยิ่งและไม่เป็นสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นในวงวิชาการ ฉะนั้นผมจึงเสนอให้ให้คะแนนฟรีในข้อนี้ เพราะโจทย์ไม่ชัดเจนไม่มีคำว่า “ น้อยที่สุด” สามารถตอบได้ตั้งแต่ 7 ถึง 30 และเมื่อเป็นคำถามแบบเติมคำตอบไม่ใช่แบบมีตัวเลือกก็ยิ่งต้องให้คะแนนกับทุกคนที่ตอบตั้งแต่ 7 ถึง 30 เพื่อให้ถูกต้องตามหลักวิชาการและเพื่อความเป็นธรรมกับทุกคน และคำตอบของข้อนี้ กำลังลงโทษเด็ก ที่คิดล้ำลึก”เขากล่าว

ข้อ 57. แรงขนาดหนึ่งเมื่อกระทำต่อวัตถุซึ่งมีมวล m 1 ทำให้วัตถุมีความเร่ง 8.0 เมตร/วินาที 2  เมื่อแรงขนาดเดียวกันนี้ กระทำต่อวัตถุมวล m 2  ทำให้ m 2 เคลื่อนที่จากจุดหยุดนิ่งได้ 48 เมตร ในเวลา 2 วินาที อัตราส่วนระหว่าง m 2 ต่อ m 1 คือ

1. 1:1  2.  1:2  3. 1:3   4. 1:4

“ข้อนี้ ที่ผิด เพราะ ผู้ออกข้อสอบไม่ได้ระบุว่าพื้นไม่มีแรงเสียดทานทำให้มีตัวเลือกได้ 2 คำตอบคือตัวเลือก 2. กับ 3. แต่ที่จริงแล้วจะตอบคำตอบอื่นๆ ก็ได้เพราะโจทย์ผิด” อำนวยกล่าว ก่อนจะทิ้งท้ายว่า

ตัวอย่างข้อสอบ ที่กล่าวมานั้น การสอบระดับชาติ ที่มีผลต่ออนาคตของนักเรียนจำนวนมาก แต่ละคะแนนมีความสำคัญดังที่กล่าวไว้ข้างต้น หาก คะแนนเดียวก็ชี้ชะตาอนาคตเด็กคนหนึ่งได้  15คะแนน จากทั้ง 3 ข้อ จึงเป็นสิ่งที่ผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ คงจะนิ่งเฉยไม่ได้แล้ว 

ข่าวล่าสุด

คดีพลิก สหรัฐฯปลดล็อกขายชิปให้จีน แต่รัฐบาลจีนอาจไม่อยากซื้อ