posttoday

"เทพไท" เผย กมธ.ศึกษาแก้รธน. หนุน แก้ม. 256 ปลดล็อกแก้มาตราอื่น

25 มกราคม 2563

เทพไท เสนพงศ์ เผย กมธ.ศึกษาแก้รธน. หนุน แนวทางแก้มาตรา 256 ปลดล็อกแก้มาตราอื่น วอน ผู้มีอำนาจในรัฐบาลใจกว้าง เปิดทาง แก้รธน.ให้สำเร็จ

เทพไท เสนพงศ์ เผย กมธ.ศึกษาแก้รธน. หนุน แนวทางแก้มาตรา 256 ปลดล็อกแก้มาตราอื่น วอน ผู้มีอำนาจในรัฐบาลใจกว้าง เปิดทาง แก้รธน.ให้สำเร็จ

เมื่อวันที่ 25 มค. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ facebook live กล่าวถึงความคืบหน้าในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขเพิ่มเติ่มรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญชุดนี้ ได้มีการประชุมครั้งที่4 ซึ่งได้ศึกษาแนวทางแก้ไขไว้ 3ประเด็นคือ 1.แก้ไขเฉพาะมาตรา 256 เท่านั้น 2.แก้ไขรายมาตรา เฉพาะมาตราที่เป็นปัญหา 3.แก้ไขเพื่อตั้ง สสร.ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมสนับสนุนแนวทางการแก้ไขมาตรา 256 ก่อนมากกว่า เพื่อเป็นการปลดล็อค หรือเปิดประตูไปสู่การแก้ไขมาตราอื่นๆในโอกาสต่อไป เพื่อให้สามารถแก้ไขได้ง่ายในอนาคต หรืออาจจะแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อตั้ง สสร.ในภายหลังได้ แต่การแก้ไขทั้งหมดจะสำเร็จหรือไม่ ย่อมขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจในรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งแปลงร่างมาจาก คสช. เพราะกุญแจดอกสำคัญในการแก้ไขอยู่ที่เสียงของสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งต้องใช้จำนวนหนึ่งในสามเห็นชอบการแก้ไขด้วย ถ้าหากได้รับสัญญานไฟเขียวจากผู้มีอำนาจในรัฐบาลชุดนี้ ก็สามารถจะแก้ไขได้สำเร็จอย่างง่ายดาย เพราะจุดมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ที่เขียนขึ้นมา ก็เพื่อการสืบทอดอำนาจของคสช. และในขณะนี้การสืบทอดอำนาจของคสช. ก็ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ หัวหน้า คสช.ก็ได้รับโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้แล้ว ก็น่าจะเปิดโอกาสให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้ และสามารถเขียนบทเฉพาะกาลให้มีผลบังคับใช้หลังจากรัฐบาลชุดนี้หมดวาระไป

ดังนั้นถ้าหากผู้มีอำนาจในรัฐบาลชุดนี้ใจกว้าง และเห็นความสำคัญของรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย ก็ควรจะสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ให้สำเร็จ เพื่อเป็นการผ่อนคลายบรรยากาศการเมือง หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากันระหว่าง รัฐบาลที่เปลี่ยนผ่านมาจาก คสช.กับฝ่ายประชาธิปไตย และการเป็นรัฐบาลจากอำนาจพิเศษ 5ปี รวมกับการเป็นรัฐบาลเลือกตั้งอีก4ปี น่าจะเพียงพอกับการสืบทอดอำนาจแล้ว และควรปลดปล่อยประเทศให้กลับไปสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยเต็มใบเสียที