บิ๊กมท.กัดไม่ปล่อยทลายบุรีรัมย์คอนเนกชัน
การยื่นหนังสือขอความไม่เป็นธรรมเรื่องการแต่งตั้ง “วิเชียร ชวลิต” อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.)
การยื่นหนังสือขอความไม่เป็นธรรมเรื่องการแต่งตั้ง “วิเชียร ชวลิต” อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.)
โดย...ทีมข่าวการเมือง
การยื่นหนังสือขอความไม่เป็นธรรมเรื่องการแต่งตั้ง “วิเชียร ชวลิต” อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) ถึง “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นายกรัฐมนตรี ของข้าราชการระดับสูง (ซี 10) มท. 6 คน ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดาและเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของข้าราชการ มท.ที่จะต่อสู้กับฝ่ายการเมืองที่มีพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ของ “เนวิน ชิดชอบ” กำกับอยู่
เมื่อไล่เรียงรายชื่อและประวัติทั้ง 6 สิงห์ ที่ “ชวรัตน์ ชาญวีรกูล” รมว.มหาดไทย เรียกว่าเป็น “ปฏิปักษ์ฝ่ายบริหาร” ต้องถือว่าไม่ธรรมดา เพราะแต่ละคนล้วนมีประวัติต่อสู้กับฝ่ายการเมืองที่มีพฤติกรรมแทรกแซงการทำงานของข้าราชการอยู่ดุเดือด และล้วนแต่เป็นคนที่มีต้นทุนทางสังคมสูงด้วยกันทั้งสิ้น เพราะเป็นข้าราชการที่มีความอาวุโส (ได้รับการเลื่อนระดับ 10) ในระดับต้นๆ ของกระทรวง
เริ่มจาก 1.“จาดุร อภิชาตบุตร” อาวุโสอันดับ 1 ที่ถูกเด้งจากตำแหน่งรองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาล “สมัคร สุนทรเวช” มาเป็นหัวหน้าผู้ตรวจราชการ มท. ข้าราชการตงฉินน้ำดี ได้รับการยอมรับให้เป็น นายกสมาคมข้าราชการและพลเรือนแห่งประเทศไทย วิพากษ์วิจารณ์ปัญหาใน มท.อย่างตรงไปตรงมาหลายเรื่อง จนถูกฝ่ายการเมืองเขม่นอยู่หลายครั้ง
2.“พระนาย สุวรรณรัฐ” รองปลัด มท. อาวุโสอันดับ 4 อดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) หลายสมัย น้องชาย “พลากร สุวรรณรัฐ” องคมนตรี และอดีต ผู้อำนายการศอ.บต. ซึ่งชื่อชั้นนี้คงบอกถึงต้นทุนทางสังคมได้เป็นอย่างดี โดย “พระนาย” ประกาศตัวไม่ร่วมสอบแสดงวิสัยทัศน์ในการคัดเลือกปลัดกระทรวง เนื่องจากไม่อยากเป็นเครื่องมือให้ฝ่ายการเมืองในปัจจุบันเพื่อสร้างความชอบธรรมในการแต่งตั้ง “มงคล สุระสัจจะ” อธิบดีกรมการปกครอง (ปค.) ที่ได้รับการเลือกให้เป็นปลัด มท. ก่อนหน้านั้นแต่ได้ประกาศไม่รับตำแหน่งเพราะมีการต่อต้านกดดันอย่างหนัก
3.“วงศ์ศักดิ์ สวัสดิ์พาณิชย์” อาวุโสลำดับ 3 อดีตอธิบดีกรมการปกครอง ที่ถูกเด้งมาเป็นผู้ตรวจราชการ มท. (ผต.มท.) ภายใน 24 ชั่วโมง เพราะไม่สนองนโยบายฝ่ายการเมืองเรื่องการเช่าคอมพิวเตอร์ของกรมการปกครอง วงเงิน 3,490 ล้านบาท โดยมีผู้นำเอกสารไปให้ลงนามถึงสนามบิน ท่ามกลางเสียงขู่ปริศนา “ถ้าท่านไม่ลงนาม มันจะมีผลต่อตำแหน่งท่าน” จนเป็นสาเหตุให้ถูกย้ายเข้ากรุดังกล่าว
4.“ปรีชา บุตรศรี” ผต.มท. อดีตผู้ว่าฯ ปทุมธานี อาวุโสลำดับ 2 เป็นผู้ว่าฯ คนแรกที่ออกมาแสดงความไม่พอใจเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าฯ ครั้งที่ผ่านมา โดยตอกหน้าฝ่ายการเมืองจนหน้าหงายว่าใช้ดุลพินิจอะไรในการพิจารณา เพราะผู้ว่าฯ ที่ศาลากลางจังหวัดถูกเผากลับได้ออกไปเป็นผู้ว่าฯ ต่อ 5.“ประชา เตรัตน์” ผต.มท. อาวุโส ลำดับ 5 เป็นสิงห์ดำ ที่จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นข้าราชการตรงไปตรงมาและเป็นก้างขวางคอพลพรรคสีน้ำเงิน ที่อยู่ในโซนผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นปลัดกระทรวง จึงถูกเด้งมาเป็นผู้ตรวจ 6.“น.ส.เรืองวรรณ บัวนุช” ผต.มท. อีกหนึ่งสิงห์ดำ ที่ประกาศตัวต่อสู้กับอำนาจฝ่ายการเมือง
ประเด็นที่ถือว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ทั้ง 6 สิงห์ใหญ่คลองหลอดจับมือเปิดศึกกับฝ่ายการเมือง คือ เรื่องการคัดค้านการแต่งตั้ง “วิเชียร” เป็นปลัด มท. ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งผู้บังคับบัญชาสูงสุดของฝ่ายข้าราชการประจำ แต่ฝ่ายการเมืองกลับเลือกบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติเหมาะสม เพราะ “วิเชียร” อยู่ในลำดับอาวุโส 52 ไม่สามารถเป็นผู้นำขององค์กรได้ เพราะประสบการณ์ทำงานน้อยมาก เมื่อเทียบกับอีกหลายคนที่มีประสบการณ์มากกว่า
พร้อมกับโจมตี “ชวรัตน์” อย่างถึงลูกถึงคนว่าใช้อำนาจไม่ชอบธรรม ด้วยการเปิดให้มีการสอบวิสัยทัศน์ผู้ที่จะเป็นปลัด ซึ่งแท้จริงเป็นเพียงการสร้างความชอบธรรมให้กับ “มงคล” เท่านั้น พร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่าทำไม การแต่งตั้ง “วิเชียร” เป็นปลัดเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา กลับไม่มีการสอบวิสัยทัศน์ เท่ากับเป็นการปิดโอกาสให้กับแคนดิเดตรายอื่นจำนวนมาก
ที่มากไปกว่านั้นทั้ง 6 คนอดทนรนไม่ได้ เมื่อเห็น มท.ในยุคนี้ตกต่ำสุดขีดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะถูกปกครองด้วยระบบอำนาจนิยมเล่นพรรคเล่นพวกจนกระทรวงย่อยยับ ทั้งเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันและเรื่องการซื้อขายตำแหน่งในระดับต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็น โครงการเช่าคอมพิวเตอร์กรมการปกครอง 3,490 ล้านบาท ซึ่งหลายหน่วยงานตรวจสอบรับไปสอบสวนแล้ว โดยเห็นว่าโครงการดังกล่าวมีพฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต เพราะไม่ทำตามทีโออาร์ มีส่อว่าจะเอื้อเอกชนเพียงรายเดียว ปัญหาเรื่องการจัดทำบัตรสมาร์ตการ์ด ที่มีความล่าช้า จนทำให้ประชาชนต้องทนใช้บัตรเหลืองจนเหมือนการเอาประชาชนเป็นตัวประกัน ด้วยการอ้างว่าบัตรผิดสเปกเพราะมีเส้นสีแดงไม่เป็นไปตามกฎกระทรวง ทั้งที่เส้นดังกล่าวมีไว้เพื่อป้องกันการปลอมแปลง
การหาเหตุดังกล่าวมีการวิพากษ์วิจารณ์ในกระทรวงอย่างหนาหูว่าเพื่อทำลายข้าราชการฝ่ายตรงข้ามอย่าง “วงศ์ศักดิ์” อธิบดีกรมการปกครองในฐานะเจ้าพนักงานออกบัตรในยุคนั้น และทำลายการเมืองฝ่ายตรงข้ามอย่างพรรคเพื่อแผ่นดิน เนื่องจากบริษัท วีสมาร์ท จำกัด ที่ชนะการประมูลโครงการนี้ เป็นของ “วัชรี พรรณเชษฐ์” น้องสาวของ “วัชระ พรรณเชษฐ์” อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อแผ่นดิน เครือข่ายกลุ่ม 3 พีคู่แค้น ภท.
มาถึงวันนี้ “ชวรัตน์” ยืนยันว่าจะไม่มีการออกกฎกระทรวงเพื่อรองรับบัตรรุ่นนั้นแน่นอน ท่ามกลางการตั้งข้อสงสัยว่าเป็นเพราะฝ่ายการเมืองต้องการให้มีการรื้อโครงการเพื่อแสวงหาประโยชน์จากโครงการดังกล่าวที่มีมูลค่าเกือบสองพันล้านหรือไม่
ในขณะที่เรื่องความไม่เป็นธรรมในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการที่ว่ากันว่าฝ่ายการเมืองในยุคนี้ได้ใช้อำนาจแทรกแซงเกือบทุกตำแหน่งตั้งแต่ปลัดอำเภอ รองผู้ว่าฯ ผู้ว่าฯ อธิบดี จนถึงตำแหน่งปลัดกระทรวง โดยพบว่าข้าราชการที่ได้ดิบได้ดีในยุคนี้ล้วนเป็นสาย “บุรีรัมย์ คอนเนกชัน” ของ “เนวิน” ที่ส่วนใหญ่เคยทำงานในพื้นที่อีสานใต้ เช่น บุรีรัมย์ สุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ฐานเสียงสำคัญของกลุ่มเนวิน หรือไม่เช่นนั้นต้องเป็นข้าราชการ สิงห์แดง จบคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เดียวกับ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” น้องชาย “พี่เน” หัวหน้าคณะทำงาน รมว.มหาดไทย จนมีการเรียกกันเล่นๆ ว่า ใครที่จะได้ดีในช่วงนี้ต้อง “เรียนเนจบม.สยาม” กันทั้งนั้น
ยกตัวอย่าง “บุรีรัมย์คอนเนกชัน” เช่น “วิเชียร” ที่เคยดำรงตำแหน่งอดีตผู้ว่าฯ สุรินทร์ หรือแม้แต่ “มงคล” ที่ได้ดีมาเพราะเคยเป็นผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ “สุรชัย ขันอาสา” ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ อดีตหน้าห้อง “ศักดิ์สยาม” หรือ “ระพี ผ่องบุพกิจ” ผู้ว่าฯ โคราช ที่เคยเป็นผู้ว่าฯ สุรินทร์มาก่อน รวมถึง “พีระศักดิ์ หินเมืองเก่า” ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ ที่ย้ายมาเป็นผู้ว่าฯ ปทุมธานี เป็นต้น
ความคับข้องหมองใจที่เกิดขึ้นกลายเป็นระเบิดเวลาที่สะสมเรื่อยมา จนเป็นศึกศักดิ์ศรีมหาดไทยครั้งใหม่ที่ถือว่าใหญ่หลวงนัก โดยเฉพาะกับ “กลุ่มเนวิน” ที่ต้องเจอจากการต่อต้านจาก มท.เอง เพราะที่ผ่านมาเป็นเพียงการกดดันจากอดีตคนในที่กลายเป็นคนนอกอย่างกลุ่มสมาคมข้าราชการ มท. อย่าง “โชดก วีรธรรม พูลสวัสดิ์” “พงศ์โพยม วาศภูติ” ซึ่งฝากผลงานในการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาต่อต้าน “มงคล วิเชียร” เป็นปลัด มท. จนเป็นที่น่าสังเกตว่าขณะนี้ “วิเชียร” ยังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ทั้งที่ ครม.จะมีการอนุมัติให้เป็นปลัด มท.มา 1 เดือนแล้วก็ตาม
ประเมินจากการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเห็นได้ว่า กลุ่ม 6 ซี 10 หวังเปิดหน้าชนเพื่อขับไล่พ้นพรรคเนวินจาก มท. โดยยังไม่มีใครรู้ว่าความขัดแย้งที่เกิดจะจบลงอย่างไร เพราะต้องยอมรับว่า 2 ปีที่ผ่านมา “บุรีรัมย์คอนเนกชัน” ได้ฝังรากไว้ใน มท.แล้ว น่าจับตาหากข้าราชการกลุ่มนี้ลุกขึ้นมาปกป้องฝ่ายการเมืองและในทางตรงกันข้ามหากข้าราชการ มท.ที่ไม่พอใจฝ่ายการเมืองลุกขึ้นมาสมทบเพื่อต่อต้านฝ่ายการเมืองบ้าง ถึงวันนั้นไฟคงลุกท่วม มท.แน่


