ดีเดย์ 9 ธ.ค. แชะภาพเบาะแส สิบล้อ-รถสาธารณะทำผิดจราจร จ่ายสูงสุด 3 หมื่นบาท
'ศักดิ์สยาม' กำชับมาตรการรับแจ้งคนทำผิดกฏจราจร หวังดัดนิสัยขับขี่คนไทย เริ่ม 9 ธ.ค.นี้ พร้อมกันทั่วประเทศ แจ้งเบาะแสผ่าน 3 ช่องทาง ขณะที่บขส.คาดผู้โดยสารเดินทางปีใหม่คึกคัก แตะวันละ 2แสนคน
'ศักดิ์สยาม' กำชับมาตรการรับแจ้งคนทำผิดกฏจราจร หวังดัดนิสัยขับขี่คนไทย เริ่ม 9 ธ.ค.นี้ พร้อมกันทั่วประเทศ แจ้งเบาะแสผ่าน 3 ช่องทาง ขณะที่บขส.คาดผู้โดยสารเดินทางปีใหม่คึกคัก แตะวันละ 2แสนคน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันที่ 9 ธ.ค. นี้ จะเป็นวันแรกที่เริ่มใช้มาตรการแบ่งรางวัลนำจับให้ประชาชน 50% สำหรับผู้แจ้งเบาะแสการกระทำผิดกฎจราจรขนส่งทางบกของกลุ่มรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก ซึ่งรางวัลส่วนแบ่งจะคิดจากมูลค่าของบทลงโทษปรับซึ่งมีตั้งแต่ 200-30,000 บาท แบ่งตามกรณี พร้อมย้ำว่า ไม่ต้องการเน้นเรื่องการปรับแต่ต้องการให้ประชาชนอยู่ในระเบียบวินัยและเป็นการเสริมวินัยขับขี่ในช่วงปีใหม่
อย่างไรก็ตามผู้แจ้งเบาะแสต้องมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอการกระทำผิด สามารถส่งข้อมูลเพื่อรับรางวัลนำจับได้ที่ 3 ช่องทาง ได้แก่ 1.ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก กรมการขนส่งทางบก https://m.facebook.com/PR.DLT.NEWS/ 2.ผ่านเว็ปไซต์กรมการขนส่งทางบก https://www.dlt.go.th/ 3.สายด่วนกรมการขนส่งทางบก ติดต่อ 1584
สำหรับกรณีตัวอย่างได้แก่ ขับรถประมาทบรรทุกผู้โดยสารเกิน ควันดำ บรรทุกผู้โดยสารเกิน และรถบรรทุกขนส่งสินค้าที่ทำผิดกฎจราจรเป็นต้น ส่วนขั้นตอนจะดำเนินการเรียกผู้กระทำผิดมารับทราบข้อกล่าวหาภายใน 7 วัน หากพบว่าผิดจริงจะโดนปรับและแบ่งรางวัลนำจับให้ผู้แจ้งเบาะแสต่อไป
"สำหรับประชาชน จุดมุ่งหมายไม่ได้อยู่ที่การจับปรับ ซึ่งหากอยู่ในระเบียบมีวินัยใช้รถทุกคนจะปลอดภัย โดยหากเริ่มต้นที่ตัวเอง และจะทำให้คนอื่นๆ ปลอดภัยไปด้วย" นายศักดิ์สยามกล่าว
ทั้งนี้ในอนาคต ขบ.จะขยายผลไปลงโทษของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างและผู้ขับขี่แท็กซี่ จะมีการทำ QR Code แปะบนเสื้อของวินมอเตอร์ไซด์และแปะไว้ในรถแท็กซี่ ซึ่งผู้โดยสารสามารถสแกนข้อมูลผู้ขับขี่แต่ละรายผ่านมือถือเพื่อตรวจสอบประวัติและพฤติกรรมการขับขี่ ตลอดจนสามารถสแกนเพื่อแจ้งเรื่องร้องเรียนได้ในทันทีแบบ real-time หากพบกระทำผิดซ้ำก็จะมีการพักใบขับขี่พร้อมเข้าคอร์สอบรมการขับีข่กับกรมการขนส่งทางบกและหากกระทำผิดซ้ำซากก็จะมีการเพิกถอนใบขับขี่
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า นอกจากการให้รางวัลนำจับแล้วในอนาคตอันใกล้จะมีการนำระบบตัดแต้มใบขับขี่มาใช้กับรถทุกประเภท โดยจะมีการตัดแต้มเมื่อกระทำผิด หากแต้มหมดก็จะพักใบขับขี่ ถ้าหมดซ้ำซากก็เพิกถอนใบขับขี่ไปเลย ไม่ต้องมาขับรถบนท้องถนนอีกต่อไป ส่วนกรณีการควบคุมวินัยสำหรับเรื่องของใบขับขี่ ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับปรุงหลักสูตรและข้อสอบการออกใบขับขี่ให้มีความเข้มข้นมากขึ้น จากเดิมที่เป็นการทดสอบความจำเกี่ยวกับเครื่องหมายจราจร มาเป็นความเข้าใจด้านกฎจราจรที่เกี่ยวกับความปลอดภัยมากขึ้น มีการประเมินการวิเคราะห์ในเชิงทัศนคติ การแก้ไขปัญหาและสถานการณ์เฉพาะหน้า
อย่างไรก็ตามในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ได้สั่งการให้คุมเข้มความปลอดภัย โดยตั้งเป้าหมายปีใหม่นี้ จะมีจำนวนผู้บาดเจ็บลดลง และจำนวนผู้เสียชีวิตบนระบบขนส่งสาธารณะต้องเป็นศูนย์ พร้อมใช้มาตรการจุดตรวจรถโดยสาร Checking Point ทุก 90 กม.เพื่อความปลอดภัย ทั้งการตรวจสารเสพติด ตรวจความเมารวมถึงตรวจความพร้อมของรถและคนขับ
ด้านนายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า ปีนี้คาดจะมีผู้โดยสารเดินทางในช่วงปีใหม่ที่สถานีขนส่งทั้งสามแห่งในกรุงเทพ ได้แก่ สถานีขนส่งหมอชิต สถานีขนส่งเอกมัยและสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ จะมีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 110,000 คน และมีปริมาณผู้โดยสารในวันที่การเดินทางหนาแน่นสูงถึง 200,000 คน/วัน
ดังนั้นได้เตรียมรถของ บขส. และรถร่วม บขส., รถตู้ ไว้ขนคนทั้งขาไปตลอดช่วงเทศกาลปีใหม่ 27 ธ.ค.-6 ม.ค. 2563 โดยวันที่มีผู้โดยสารเดินทางมากที่สุด ช่วงขาไปวันที่ 26-27 ธ.ค. และช่วงหากลับ 1-2 ม.ค.และ 6-7 ธ.ค.
อย่างไรก็ตาม บขส.ได้เตรียมรถเสริมไว้ 600 เที่ยวรวม 1,500 คัน ดังนั้นประชาชนจึงมั่นใจได้ว่าจะมีรถเพียงพอต่อการเดินทาง นอกจากนี้ยังเตรียมเรื่องความสะอาดของสถานีขนส่งไว้ต้อนรับนักเดินทาง ตลอดจนการป้องกันผู้โดยสารตกค้าง


