"ธนาธร" แนะยกบทเรียน "จีน" กระจายอำนาจ-ก้าวข้ามสู่การเป็นประเทศพัฒนา
ธนาธร ยกบทเรียนจากจีน กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น-ก้าวข้ามจากประเทศกำลังพัฒนาเป็นพัฒนาแล้ว
ธนาธร ยกบทเรียนจากจีน กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น-ก้าวข้ามจากประเทศกำลังพัฒนาเป็นพัฒนาแล้ว
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไปร่วมเวทีเสวนา ในหัวข้อเรื่อง "เปิดมุมมอง ปรับความคิด ความร่วมมือไทย-จีน" ที่จัดขึ้นโดยสมาคมนักข่าวไทย-จีน ในโอกาสครบรอบ 70 ปีจีนใหม่
นายธนาธร เริ่มเล่าถึงประสบการณ์การทำงานในภาคธุรกิจและการไปลงทุนในประเทศจีนว่า บริษัทในจีนมีการส่งเสริมธุรกิจจากประเทศไทยหลายอย่าง และการผลิตสินค้าในจีนขึ้นชื่อในเรื่องถูก เร็ว ดี ซึ่งเห็นว่ายังมีโอกาสอีกมากที่บริษัทจีนจะมาสร้างเสริมความสัมพันธ์กับบริษัทไทยให้ก้าวไกลได้ และจากประสบการณ์มีสิ่งที่เราควรเรียนรู้จากจีนอยู่? 2-3 ข้อ? ประเด็นที่ 1.คือการก้าวข้ามจากประเทศกำลังพัฒนาหรือการก้าวพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลางเป็นประเทศพัฒนาแล้ว โดยสิ่งที่สำคัญมากคือต้องมีเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง ถ้าเรายังไม่สามารถสร้างเทคโนโลยีในประเทศไทยได้เอง จะไม่สามารถก้าวข้ามผ่านกับดักรายได้ปานกลางได้เลย
ประเด็นที่สอง คือปัจจัยความสำเร็จที่คนไทยยังไม่ค่อยมองเห็น เรื่องกระจายอำนาจ ซึ่งแต่ละมณฑลของจีนสามารถบริหารจัดการตัวเองได้ สำนักงานใหญ่ของบริษัทต่างๆไม่ได้ถูกรวมศูนย์ที่ปักกิ่งอย่างเดียว หลายบริษัทใหญ่มีสำนักงานใหญ่อยู่ต่างจังหวัด ซึ่งมีความเป็นอิสระของแต่ละมณฑลทำให้การพัฒนาไม่ถูกรวมศูนย์ เกิดการกระจายรายได้กระจายงานไปสู่แต่ละมณฑล ฉะนั้นถ้าเรามองย้อนไปยังรูปแบบการพัฒนาของจีนจะเห็นว่าในช่วง 20 ปีแรกการพัฒนาถูกเน้นหนักไปทางจังหวัดชายฝั่งภาคตะวันออกเสียส่วนใหญ่ แต่ระยะหลังก็เริ่มมีการพัฒนากระจายไปสู่ทางตะวันตกเป็นหลักนี่คือสิ่งที่ตนอยากเห็น คือการพัฒนาเอางานเอาความมั่งคั่งไปยังต่างจังหวัดให้มากขึ้น
นอกจากนี้อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือบทเรียนสำหรับประเทศอาเซียนส่วนหนึ่งที่จีนสามารถเติบโตได้ขนาดนี้เพราะจีนมีตลาดภายในที่ใหญ่มาก นโยบายอุตสาหกรรมของจีนก็สอดรับกับความต้องการและเมื่อย้อนกลับมาดูอาเซียนจะเห็นว่าต่างคนต่างมีการผลิตแข่งกันเอง ไม่เกิดการแลกเปลี่ยนสินค้าภายใน ซึ่งคิดว่าในอนาคตเราจำเป็นต้องมีนโยบายอุตสาหกรรมในระดับอาเซียน
นายธนาธร ทิ้งท้ายว่า ตนชื่นชมในความสำเร็จของจีน แต่ก็มีข้อที่ต้องวิจารณ์ด้วยเช่นกัน แน่นอนในฐานะประเทศไม่ว่าจะจีน รัสเซีย อินเดีย อียู สหรัฐอเมริกา ต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกันเอาไว้ การที่จีนขึ้นมามีบทบาทนำเป็นเรื่องที่น่ายินดี เราไม่สามารถเพิกเฉยกับจีนและอาเซียนได้ แต่เราจะไปฝากความหวังไว้กับเสาต้นใดต้นหนึ่งไม่ได้
ดังนั้นโลกทั้งโลกควรยินดีการเข้ามามีบทบาทของจีน แต่ก็มีสิ่งที่จีนควรจะพัฒนาปรับปรุง นั่นคือการเติบโตของจีนต้องควบคู่ไปกับการเป็นประเทศที่มีความรับผิดชอบด้วย เช่น นโยบายการอุดหนุนสินค้าจีนให้ส่งออกได้อย่างเต็มที่ เรื่องนี้จีนเองควรจะต้องค่อยๆเปิดให้มีความโปร่งใส ไม่ควรอุดหนุนมากเกินไปจนทำให้ประเทศคู่ค้าเสียเปรียบไม่ใช่ว่าจีนไปลงทุนในประเทศอื่นได้หมด แต่มีข้อจำกัดในการเปิดให้ประเทศอื่นเข้าไปลงทุน ต้องแฟร์ คือปฏิบัติต่อประเทศอื่นอย่างเท่าเทียมกันด้วย


