“ถ้าใจรัก เป็นหญิงก็ร็อกได้” เปิดใจ “น้องฟ้า” มือกีตาร์สาวขาร็อกแห่งวงตะโพนไทย
เปิดใจ “พนิตา ดวงอิน” สาวน้อยหน้าใสมือกีตาร์แห่งวงตะโพนไทยที่มาพร้อมลีลาการควงกีตาร์และการโซโล่แบบร็อกสุดๆจนได้ใจแฟนเพลงจำนวนมาก
เปิดใจ “พนิตา ดวงอิน” สาวน้อยหน้าใสมือกีตาร์แห่งวงตะโพนไทยที่มาพร้อมลีลาการควงกีตาร์และการโซโล่แบบร็อกสุดๆจนได้ใจแฟนเพลงจำนวนมาก
*************************
โดย…รัชพล ธนศุทธิสกุล
จากโชว์วาดลวดลายควงกีตาร์พร้อมกับการเล่นที่แผดร้อนดุเดือดของดนตรีร็อกได้อย่างถึงกึ๋น ทำให้ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา “พนิตา ดวงอิน” หรือ “ฟ้า ตะโพนไทย” ชื่อนี้เป็นชื่อที่ใครเห็นก็บอกว่าจ๊าบ!
โดยมือกีตาร์ขาร็อกวัย 15 ปี ยังเริ่มเล่นดนตรีร็อกได้เพียง 2 ปี เท่านั้น ซึ่งเกิดจากความรักในเสียงดนตรีชักชวนให้จับกีตาร์บรรเลงช่วง ม.1
และต่อไปนี้คือเรื่องราวความน่าทึ่งของสาวน้อยวัยคอซองกับการเดินทางมาบรรจบของเส้นทางร็อก
สายเลือดเป็นส่วนหนึ่งให้ร็อก
“พนิตา ดวงอิน” หรือ “ฟ้า” เด็กนักเรียนหญิงชั้นม.3 โรงเรียนโนนคร้อวิทยา ต.หนองโดน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ อาจจะเติบโตเป็นกุลสตรีสาวทั่วไปหากคุณพ่อไม่ได้เล่นกีตาร์ให้ฟังตอนเด็กๆ จนทำให้เธอชอบและกลายมาเป็นหลงรักในเสียงเพลง
“เด็กๆ พอจะเล่นกีตาร์เพลงคาราบาวที่แกชอบให้ฟังบ่อยๆ ถ้าถามว่าได้ความร็อกมาจากพ่อด้วยก็คงมีส่วน” สาวน้อยกล่าวเริ่มต้นจุดถนนดนตรี
ฟ้าบอกต่อถึงเส้นทางดนตรีว่าพอรักชอบในเสียงเพลงก็ฟังเพลงเรื่อยมา โดยเพลงแรกๆ ที่ฟังจะเป็นเพลงแนวหมอลำซึ่งเป็นที่ฮิตมากของคนในพื้นที่จากวัฒนธรรมรถแห่ และด้วยความสนุกของเพลงทำให้เธอต่อยอดฟังในสายดนตรีร็อก เธอได้มีไอดอลเพิ่มในเส้นทางมือกีตาร์เป็น “ธนพล ศรีกาญจนา” หรือ “น็อต” มือกีตาร์แห่ง Retrospect วงร็อกชั้นนำวงหนึ่งของเมืองไทย
“จุดเปลี่ยนจากฟังมาเล่นเกิดตอนม.1 หนูไปเข้าชมรมดนตรี แต่ครั้งแรกชมรมเป็นวงวงโยธวาทิต ทีนี้เล่นกันไปซักพักเพื่อนๆ หลายคนก็เลิกเล่น สมาชิกชมรมเราก็เหลือกัน 5-6 คน ครูดุ๊ก (ธนากร ประเสริฐศรี) ก็เลยชวนกันทำวงดนตรีสากล
“ครูก็ให้เราทั้งหมดเล่นหมดตั้งแต่กลองชุด เบส กีตาร์ คีย์บอร์ดและก็ถามว่าชอบส่วนตัว หนูก็เลือกเล่นเป็นมือกีตาร์ ครูเขาก็ให้ฝึกซ้อมกีตาร์โปร่งก่อนเพื่อเรียนรู้คอร์ด การจับปิ๊กกีตาร์และห้องจังหวะในการดีดอยู่ 3 เดือนถึงให้จับกีตาร์ไฟฟ้าและลงซ้อมวงครั้งแรก”
คิดจะร็อกต้องฝึกหนัก
มือกีตาร์สาวบอกถึงอุปสรรคในการเล่นกีตาร์ไม่ใช่อาการเจ็บนิ้วเวลากดคอร์ดเพราะจับบ่อยเข้ามันก็ชิน หากแต่มันคือการฝึกฝนเนื่องจากว่าหลังจากลาวงครั้งแรกจุดอ่อนของวงคือยังขาดสกิลทักษะอย่างความชำนาญ ความคล่องและแม่นยำ
“ในส่วนตัวของกีตาร์หนูมันก็มีความต่างของกีตาร์โปร่งและไฟฟ้าเรื่องการคลุมเสียง เรื่องเอฟเฟกต์เสียง เพิ่มขึ้นมา”
สมาชิกทุกคนจึงต้องซ้อมลงวงกันในทุกๆ วันเป็นระยะเวลากว่า 3 ชั่วโมง และในแต่ละวันยังมีการบ้านดนตรีที่ต้องกลับไปทบทวนอีกด้วย
“ครูวางช่วงเวลาฝึกซ้อมช่วง 16.00 น. เพื่อที่ไม่ให้กระทบในเรื่องของการเรียน พอซ้อมเสร็จก็กลับบ้านทำการบ้าน จากนั้นก็ซ้อมตามโจทย์ที่ครูสั่ง และพอหนึ่งอาทิตย์ก็จะมีเรียกไปทดสอบ ของหนูหลักๆ ในตอนแรกๆ ก็จะเป็นการไล่นิ้วตามสเกลคีย์ต่างๆ การดีดกวาด (Speed Picking) และก็แบบฝึกหัดพิเศษที่ครูมองว่าเราขาดสกิล”
ฟ้าบอกว่าแม้จะดีใจที่ทุกวันนี้คนชมว่าเธอเก่ง แต่ก็ยังต้องซ้อมอยู่ในรูปแบบตารางดังกล่าว และที่สำคัญเพื่อให้ร็อกได้ยิ่งขึ้นนับวันยิ่งซ้อมหนักขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับความหมายของวงตะโพนไทย ที่ถูกตั้งมาจากชื่อของลูกครูดุ๊ก ที่เกิดพร้อมกับการก่อตั้งวงและจะเติบใหญ่ขึ้น
“การควงกีตาร์ที่หลายคนเห็นก็เป็นโจทย์ใหม่ที่ครูแนะนำให้ซ้อมเพิ่มช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพราะเราเป็นวงร็อกจะใส่อารมณ์แค่โยกอย่างเดียวไม่ได้ ครูก็เอาคลิปมาให้ฝึก แรกๆ ก็ควงมาฟาดโดนไหล่ โดนหัวทุกที
“พอควงได้ตอนจะควงก็จะวาดภาพไว้ก่อน หาฟิวที่มันเหมาะตรงไหนไปท่อนพีค อย่างก่อนไปท่อนฮุกมันจะมีจังหวะเวลาหมุนควงกีตาร์และมาลงท่อนดีดฮุกพอดี” มือกีตาร์สาวขาร็อกเผยก่อนเสริมว่า เพลงแรกที่ควงกีตาร์โชว์คือเพลง ‘ไม่มีเธอ’ ของวง Retrospect ในท่อนดนตรีเปิดก่อนเข้าเนื้อ ซึ่งเป็นการแข่งขันประกวดบนเวที Stopdrink Music Awards 2019 หลังจากซักซ้อม 1 เดือนเต็ม
ขณะที่ภาพสาวน้อยคอซองโซโลเมโลดี้พร้อมกับควงกีตาร์ที่ถูกแชร์ส่งต่อในโลกออนไลน์เป็นงานประกวดต่อมาของทางวงในเวทีการประกวดดนตรีระดับมัธยมศึกษา “GoldCity Thailand Band Knockout 2019” ในบทเพลง Let's Go และซึ่งเวทีนี้เองยังเป็นเวทีได้แชมป์แรกของรายการใหญ่ของวงตะโพนไทยอีกด้วย
ได้ร็อกแล้วต้องไม่กลัว
“เราเชื่อว่าสักวันหนึ่งต้องเป็นวันของเรา จากที่ประกวด 10 กว่าครั้งจะตกรอบหรืออย่างมากที่สุดได้ที่ 3” ฟ้าเล่าถึงกว่าที่เธอหรือวงตะโพนไทยจะก้าวขึ้นมาจุดได้แชมป์และมีผู้คนติดตามให้ความสนใจและได้ไปเล่นเวทีที่ใหญ่ขึ้นอย่างงาน ‘โคตรอินดี้ครั้งที่ 15’
“เหมือนเพลงต้องสู้ เพลงที่ครูแต่งให้กับวงเรา เราประกวดตั้งแต่เวทีแรกร้านหมูกะทะในจังหวัด เวทีตามห้างธรรมดาที่จัดแถวๆ บ้าน ทั้งหมดก็เพื่อทำในสิ่งที่รัก ก็เลยไม่ท้อ มันเป็นเหมือนการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เราปักใจทำไปแล้วก็จะล้มเลิกไม่ได้”
มือกีตาร์วงตะโพนไทยเผยความแข็งแกร่งของเส้นทางที่นอกจากความรักกับดนตรี ดนตรีเองก็ให้บทเรียนในเรื่องการพัฒนาตัวเองโดยที่ไม่หยุดที่จะเรียนรู้
“เราไม่ได้รางวัลเพราะฝีมือเราไม่ถึง มีคนเก่งกว่าเรา เขามาถึงจุดนี้ได้เพราะเรียนรู้สิ่งใหม่มากกว่าเราและฝึกซ้อมมากกว่าเรา ดนตรีมันก็สอนทุกเรื่องอย่างความรับผิดชอบ ความมุ่งมั่น ความขยัน ก็เอามาใช้การเรียนได้ ใช้กับตอนเราผิดหวังเสียใจได้
“เราก็เลยเพิ่มสไตล์จากแค่ร็อกเมทัล เอามาผสมความเป็นไทยใส่แคนลงไปด้วยให้มีกลิ่นไอพื้นบ้านวัฒนธรรมเรา ก็เพิ่งจะปรับเปลี่ยนกันมาเวที ที่เป็นแชมป์ทดลองแนวทางเพลง”
ฝันสร้างสรรค์งานร็อกในฐานะศิลปิน
ฟ้าบอกถึงเป้าหมายในอนาคตอยากจะเป็นศิลปินทุกๆ คนในวงตะโพนไทย รังสรรค์ผลงานให้คนไทยรับฟังเป็นประการด่านแรก ขณะที่เมื่อทำได้แล้วก็จะต่อยอดไปในระดับสากล
“อยากไปให้ไกลที่สุด” มือกีตาร์สาวเผยด้วยรอยยิ้มเต็มดวงหน้าให้กับความฝัน โดยแผนการคร่าวๆ นอกจากการใส่ใจกับงานประกวดล่าสุดบนเวที Hotwave Music Awards 2019 ที่ทางวงตะโพนไทยผ่านเข้าสู่รอบออดิชั่น เป็นหนึ่งใน 29 วง จากทั้งหมด 40 วงของการประกวด เธอยังได้เตรียมลู่ทางของการเป็นศิลปินจะเรียนรู้เพิ่มเติมในเรื่องของการเป็นผู้แต่งทำนองและเนื้อร้องอีกด้วย
“ก็จะเรียนกับครูเพราะครูดูแลเรื่องทำนองให้เราทั้งหมด และก็จะศึกษาเรื่องของการแต่งเนื้อร้องเช่นอ่านหนังสือเยอะๆ เพื่อให้มีคลังคำใช้ในการแต่งเนื้อเพลง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่ม แต่จะเรียนรู้ในอนาคต” เธอกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะไม่ลืมขอบคุณทุกๆ คนที่เชียร์และติดตามผลงาน โดยเธอเองได้ฝากให้กำลังใจคนอื่นๆ ว่าถ้าใจรักเราทำทุกอย่างได้
“ใครที่คิดจะเล่นกีตาร์ เล่นดนตรีร็อกผู้หญิงหรือผู้ชายสามารถเล่นได้หมด แค่ซ้อมและฝึกเยอะๆ เกี่ยวประสบการณ์แล้วจะเล่นได้เอง ชายหรือหญิงไม่มีความแตกต่างยิ่งเรื่องดนตรี ดนตรีสร้างเสรีภาพให้โลก ดนตรีไม่มีความต่าง เพศ หรือเรื่องอื่นๆ ถ้าใจรักเราทำทุกอย่างได้”
ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก : ตะโพนไทย


