"คิม ไทยแลนด์"ตามคดีถูกเซียนพระชักปืนพยายามฆ่า
”คิม ไทยแลนด์ “ตามความคืบหน้าคดีถูกเซียนพระชักปืนพยายามฆ่า ตำรวจเร่งรวบรวบหลักฐานดำเนินการตามกฏหมายกับคู่กรณี
”คิม ไทยแลนด์ “ตามความคืบหน้าคดีถูกเซียนพระชักปืนพยายามฆ่า ตำรวจเร่งรวบรวบหลักฐานดำเนินการตามกฏหมายกับคู่กรณี
เมื่อวันที่ 9 ส.ค.62 เวลา 14.30น. ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี นายอุเทน เหลืองแสงทอง หรือ คิม ไทยแลนด์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 508/9 ถนนสุขุวิท ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมและติดตามความคืบหน้าของคดีทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่า โดยมีคู่กรณีคือนายวีระวัฒน์ วงศ์สุบิน(Boom เมืองชลบุรี) เซียนพระชื่อดังและตัวแทนภาคอาวุโสบริษัทประกันชีวิตเอไอเอ โดยที่ผู้เสียหายและคู่กรณีเป็นหุ้นส่วนร้านจำหน่ายพระและเคยมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ของร้านมาก่อนหน้า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ก.พ.61 เวลา 13.00 น. ภายในร้านบูมเมืองชล ชั้น 3 ห้างพันธุ์ทิพย์ สาขางามวงศ์วาน ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี
นายอุเทน หรือ คิม ไทยแลนด์ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันนี้ตนเดินทางมาสอบปากคำเพิ่มเติมและติดตามความคืบหน้าของคดี ว่าคดีดำเนินการไปถึงไหน ซึ่งคดีดังกล่าวเป็นเรื่องของการมีปัญหาทางด้านธุรกิจกันหลังมีการตกลงกันและทะเลาะวิวาทกันกับคู่กรณีมีการพกพาอาวุธมาซึ่งทางเราได้แจ้งความดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่า ในวันเกิดเหตุคู่กรณีได้ชักปืนออกมาแล้วมีการหันมาทางตนจากนั้นเขาได้เข้ามาประชิดตัว ตนมีสติจึงได้ล็อคมือเขามีการยื้อกัน ซึ่งในขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบผ่านมาพอดีได้เข้ามาระงับเหตุและยึดอาวุธปืนไป
นายอุเทน กล่าวต่อ ปัญหาที่มีปากเสียงกันกับคู่กรณีเป็นเรื่องธุรกิจพระเครื่องรวมมูลค่าหลายสิบล้านบาท ตนกับคู่กรณีและเพื่อนร่วมหุ้นลงทุนทำกันมา 3 ปี แต่ไม่มีกำไร แถมเข้าเนื้อตลอด เลยตัดสินใจขอมาเคลียบัญชี แต่คู่กรณีกลับบ่ายเบี่ยงและแจ้งว่ามีการจดบันทึกไว้หมด
“ผ่านมา 2 ปีกว่า ไม่ได้รับคำตอบเรื่องผลประโยชน์เลย ตนจึงได้มาติดตามทวงถามแต่กลับได้รับคำตอบว่าพระที่ได้มาไม่ได้ขายเลย ส่วนรายได้ที่ได้มานำมาจ่ายค่าร้านและค่าอื่นๆหมด”
ในวงการพระทุกคนรู้กันหมดว่าใครขายพระอะไร รายได้เท่าไร เช็คตรวจสอบกันได้ ตนได้ร่วมลงทุนทั้งเงินสดและพระเครื่อง ตนจึงได้ยื่นขอเสนอกับคู่กรณีไปขอแค่เงินที่ลงทุนไปคืน แต่เขาได้มีการตกลงกับหุ่นส่วนอีกราย มีการคืนเงินให้เขาไปแต่กับของตนไม่ได้รับเงินคืน
"ผมต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีตามความจริงและดำเนินคดีไป จะเข้าข้อหาพยายามฆ่าหรือไม่ตนไม่ติดใจ ต้องการให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด" นายอุเทน กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.กิติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ กล่าวว่าจากการสอบสวนทั้ง 2 ฝ่ายเป็นเพื่อนกันความขัดแย้งเกิดจากการทำธุรกิจในวันที่เกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ได้รับแจ้งมีผู้พกพาอาวุธปืนในห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงศ์วาน ตำรวจไปพบและจับกุมได้เอาตัวมาสอบสวน ทราบว่าขัดแย้งกันเรื่องพระเครื่องผู้เสียหายได้เข้าไปทวงเรื่องผลประโยชน์กันทางคู่กรณีเกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงได้ใช้อาวุธปืนมาป้องกันตัวหลังจากการสอบสวนมีพยานที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เดินอยู่ภายในห้างเป็นคนกลางตอนนี้ทางร้อยเวรได้สอบปากคำทางผู้เสียหายเรียบร้อยแล้วได้รวบรวมพยานหลักฐานผลการทำร้ายร่างกายจากแพทย์สำนวนใกล้เสร็จแล้ว พนักงานสอบสวนได้เรียกพยานนัดมาสอบสวนแล้วไม่ตรงกันเลยช้าไปบ้างสำนวนใกล้เสร็จผู้เสียหายมาตามผลพอดี
วันนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติมเพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุเรียบบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมเพื่อดำเนินคดีต่อไป


