เปิดกติกาหาเสียงออนไลน์ งดโชว์ภาพนอมินี
เปิดสาระสำคัญร่างระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง สส. 2561 คุมเข้มการหาเสียงออนไลน์
เปิดสาระสำคัญร่างระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง สส. 2561 คุมเข้มการหาเสียงออนไลน์
******************************
โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์
แม้การกำหนดวันเลือกตั้งมีความจำเป็นต้องเลื่อนจากวันที่ 24 ก.พ. 2562 ไปเป็นช่วงเดือน มี.ค. 2562 แต่ในด้านการเตรียมพร้อมรับมือการเลือกตั้งไม่อาจหยุดนิ่ง ล่าสุดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเห็นชอบร่างระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง สส. 2561 ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนนำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา
สาระสำคัญของระเบียบดังกล่าว กำหนดเกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติ ข้อห้ามไม่ให้ปฏิบัติสำหรับผู้สมัคร พรรคการเมือง และผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น โดยสามารถแจกเอกสาร วีดิทัศน์ที่เกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งในเขตชุมชน สถานที่ งานพิธีต่างๆ ได้ รวมทั้งจัดรถหาเสียงและเวทีหาเสียง ใช้เครื่องขยายเสียงช่วยหาเสียงได้
“ทั้งนี้สามารถนำภาพของผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ หัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรค ลงโฆษณาหาเสียงได้เท่านั้น”
โดยการดำเนินการในส่วนของรถหาเสียงและเวทีหาเสียง ให้นับรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง หาเสียงผ่านจดหมาย สิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ ทำเอกสารที่มีการกากบาทในช่องคะแนนเลือกตั้งให้กับตนเองได้ แต่เอกสารต้องไม่มีลักษณะหรือสีคล้ายกับบัตรเลือกตั้ง
นอกจากนี้ สามารถตั้งผู้ช่วยหาเสียงได้ โดยผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งมีผู้ช่วยหาเสียงในเขตได้ไม่เกิน 20 คน/เขต ส่วนของพรรคที่ส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ มีผู้ช่วยหาเสียงได้ไม่เกิน 10 เท่าของจำนวนเขตที่พรรคนั้นส่งผู้สมัครแบบแบ่งเขต
ส่วนการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์นั้น กำหนดให้ผู้สมัคร พรรคการเมือง สามารถหาเสียงด้วยตนเองหรือว่าจ้างบุคคล นิติบุคคลดำเนินการได้ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท ทั้งยูทูบ เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น อีเมล เอสเอ็มเอส โดยผู้สมัครต้องแจ้งวิธีการรายละเอียดช่องทางระยะเวลาการหาเสียง รวมถึงหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้ผู้อำนวยการ กกต.ประจำจังหวัดทราบตั้งแต่วันสมัครหรือก่อนหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์
สำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้สมัครหรือสมาชิกพรรค หากต้องการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ให้กับผู้สมัครพรรคการเมืองใด ต้องแจ้งชื่อ-สกุล นิติบุคคล หรือเครื่องหมายใดๆ ที่สามารถเจาะจงตัวบุคคลที่ดำเนินการได้ โดยค่าใช้จ่ายในการหาเสียงส่วนนี้หากเกินกว่า 1 หมื่นบาท ต้องแจ้งให้ผู้สมัครพรรคการเมืองทราบ และให้แจ้งต่อผู้อำนวยการ กกต.จังหวัด และเลขาฯ กกต.ทราบ และการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ให้นับรวมเป็นค่าใช้จ่ายของผู้สมัครพรรคการเมืองนั้น
กรณี กกต.พบว่ามีการใช้ถ้อยคำรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม หรือนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้อง สามารถสั่งให้แก้ไขเปลี่ยนแปลง ลบข้อมูลนั้น หากผู้สมัครพรรคการเมืองไม่ดำเนินการในเวลาที่กำหนด เลขาฯ กกต. สามารถแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ให้บริการ ดำเนินการ โดยผู้สมัครพรรคการเมืองต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย และการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ลบข้อมูล ไม่สามารถลบล้างความผิดที่ได้กระทำสำเร็จแล้วได้ ซึ่ง กกต.สามารถนำมาสืบสวนและวินิจฉัยได้
ส่วนข้อห้ามไม่ควรปฏิบัติในการหาเสียงนั้นกำหนดไว้กว้างๆ คือ ห้ามผู้สมัครพรรคการเมืองหรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียง ห้ามผู้สมัครพรรคการเมืองหรือผู้ใด ให้ผู้ประกอบอาชีพเจ้าของกิจการวิทยุโทรทัศน์ สื่อมวลชน สื่อโฆษณา หรือนักแสดง
นักดนตรีพิธีกร ใช้ความสามารถทางวิชาชีพเอื้อประโยชน์ในการหาเสียงให้แก่ตน แต่ถ้าผู้สมัครมีความรู้ความสามารถทางศิลปะเป็นของตนเอง สามารถใช้หาเสียงให้กับตัวเองได้ แต่ต้องไม่ใช้อุปกรณ์ในการแสดง
นอกจากนี้ ยังห้ามไม่ให้มีการแจกจ่ายเอกสารที่เกี่ยวกับการหาเสียงโดยใช้วิธีการวาง หรือโปรยในที่สาธารณะ ไม่ใช้ถ้อยคำรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย หรือปลุกระดม และไม่ช่วยเหลือเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ให้แก่ผู้ใดตามประเพณี


