"บิ๊กแดง"ลั่นพร้อมปกป้องสถาบัน
ผบ.ทบ. เปิดใจ พร้อมใช้ศักยภาพและขีดความสามารถทุกอย่าง ปกป้องสถาบัน ชี้ คนหมิ่นสถาบัน ส่วนใหญ่ มักสติไม่ปกติ ก็ไร้แผ่นดินอยู่
ผบ.ทบ. เปิดใจ พร้อมใช้ศักยภาพและขีดความสามารถทุกอย่าง ปกป้องสถาบัน ชี้ คนหมิ่นสถาบัน ส่วนใหญ่ มักสติไม่ปกติ ก็ไร้แผ่นดินอยู่
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงดำรงตำแหน่งเป็นองค์จอมทัพไทย ซึ่งบางครั้งยังมีทหารบางคนยังลืม ตนจะเตือนสติเขาว่าผู้บังคับบัญชาสูงสุดคือองค์พระมหากษัตริย์ เนื่องจากพระองค์ท่านทรงดำรงพระอิสริยยศและดำรงตำแหน่งเป็นจอมทัพไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่เหนือกว่าสิ่งอื่นใด ในส่วนของกองทัพบกถือเป็นข้ารองบาทมีหน้าที่และหัวใจปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งและเป็นศูนย์รวมจิตใจ โดยกองทัพบกจะใช้ศักยภาพและขีดความสามารถทุกอย่างในการปกป้องสถาบัน สำหรับการหมิ่นสถาบันและการก้าวล่วงที่เกิดขึ้นในหลายครั้งก็เกิดจากคนสติไม่สมประกอบ
“คนที่หมิ่นสถาบันส่วนใหญ่เป็นคนที่จิตไม่ปกติ ส่วนคนที่จิตปกติแต่มีความคิดแปลกๆ แต่ก็อยู่ไม่ได้อยู่เมืองไทย มีการหนีไปอยู่ต่างประเทศ เพราะอยู่เมืองไทยไม่ได้ ในเมื่อเราอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า ทำไมไม่สำนึกถึงบุญคุณแผ่นดินเกิด ไม่มีใครเขาไม่รักแผ่นดินเกิด รัฐบาลผลัดเปลี่ยนไปแต่องค์พระมหากษัตริย์ต้องอยู่คู่ฟ้าคู่แผ่นดินไทยไปตลอด นี่คือหน้าที่ของกองทัพบก และผมจะปกป้องสถาบันด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมี” ผบ.ทบ. กล่าว
นโยบายการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผบ.ทบ.กล่าวว่า ตนจะลงไปในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อมอบนโยบายการทำงานอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนเคยรับราชการเป็นผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 24 ที่จ.สตูล และเป็นผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่อ.ธารโต และอ.เบตง จ.ยะลา มีความคุ้นเคยกับหน่วยและพื้นที่พอสมควร สำหรับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในฐานะที่เป็นผบ.ทบ.ในขั้นต้นยังไม่ได้มอบนโยบายไป แต่ได้บอกกล่าวกับหน่วยปฏิบัติไปแล้วว่าให้ร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแยกแยะแต่ละคดีความให้ออก ซึ่งหากมองย้อนไปเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมาก็มีเหตุการณ์ปล้น และฆ่ากันเหมือนกับที่กทม. แต่ขอให้แยกแยะเหตุการณ์ว่าเหตุการณ์ใดเป็นก่อการร้าย หรือเหตุการณ์ไหนเป็นเรื่องส่วนตัว หรือเป็นการปล้นฆ่า ซึ่งต้องยอมรับว่าไม่มีพื้นที่ไหนในโลกที่ไม่มีการปล้นและฆ่ากัน ดังนั้นต้องแยกแยะเหตุการณ์
“การทำสถิติของเหตุการณ์มีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่สำคัญผมจะเข้มงวดกำลังพลให้มากกว่านี้ และได้เชิญพล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 มาประชุมเพื่อมอบนโยบาย และผมจะลงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าจะทำตามพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี ซึ่งเป็นอดีตผบ.ทบ.ได้เคยดำเนินการไว้ เช่น การไปค้างคืนในพื้นที่เป็นเวลา 1-2 คืน เดือนละครั้งและจะทำเช่นนี้ให้ได้” ผบ.ทบ. กล่าว