posttoday

การให้อาหารนกพิราบในที่สาธารณะถือเป็นความผิดตามกฎหมาย

28 กันยายน 2561

สถ.กำชับอปท.ทั่วประเทศเร่งจัดระเบียบการให้อาหารนกในพื้นที่สาธารณะหาทางรณรงค์ให้ประชาชนเกิดความตื่นตัวป้องกันตนเองจากการติดเชื้อโรคต่างๆจากนกพิราบ

สถ.กำชับอปท.ทั่วประเทศเร่งจัดระเบียบการให้อาหารนกในพื้นที่สาธารณะหาทางรณรงค์ให้ประชาชนเกิดความตื่นตัวป้องกันตนเองจากการติดเชื้อโรคต่างๆจากนกพิราบ

เมื่อวันที่ 28 ก.ย.61 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กรุงเทพมหานคร จังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จัดระเบียบการให้อาหารนกในพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ส่วนบุคคล ที่ส่งผลกระทบต่อผู้พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียง สร้างความรำคาญ และเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค โดยหาวิธีแก้ไขให้เกิดความสะอาดขอความร่วมมือจากประชาชนในการงดให้อาหารนก เพื่อลดจำนวนนก

ทั้งนี้ อปท. มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ในการรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง และการป้องกันและควบคุมโรค จึงกำชับให้ อปท. ดำเนินการสร้างความเข้าใจกับประชาชน เกี่ยวกับอันตรายและโรคที่เกิดจากนกพิราบ ซึ่งเป็นพาหะนำโรค อาจก่อให้เกิดโรคไข้สมองอักเสบ หรือโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยขอให้ร่วมมือกันประชาสัมพันธ์งดให้อาหารนกพิราบในพื้นที่ที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน รวมถึงในเขตพื้นที่โรงเรียน วัด สถานที่ท่องเที่ยว และโบราณสถาน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค โดยจะต้องไม่เป็นการทำร้ายสัตว์

"การให้อาหารนก อาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 ตามมาตรา 32 (1) และ (2) ประกอบมาตรา 54 ที่มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และอาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2560 ตามมาตรา 27 และมาตรา 28 ประกอบมาตรา 74 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือจับไม่เกิน 25,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับด้วย" นายสุทธิพงษ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าวเป็นเพียงเครื่องมือท้ายๆที่จะใช้บังคับเพื่อให้สังคมอยู่ได้ด้วยความสุข สิ่งที่สำคัญที่สุดของทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ต้องช่วยกันคือการช่วยกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนเกิดความตื่นตัวที่จะป้องกันตนเองจากการติดเชื้อโรคต่างๆจากนกพิราบ ด้วยการไม่ส่งเสริมให้นกพิราบมาอยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่จากการให้อาหาร รวมถึงการตรวจตราอาคาร บ้านเรือน ไม่ให้เป็นที่อยู่อาศัยของนกพิราบที่นำไปสู่การสะสมเชื้อโรคจากมูลของนก และพิษภัยของการติดเชื้อไวรัสจากนกพิราบที่ร้ายแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

 

ข่าวล่าสุด

SME D Bank จัด 'Culture Day' ขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กร "ประสานพลัง-พัฒนาเรียนรู้" สู่การเติบโต