"อาเซียนศึกษา" เบื้องหลังทักษะพูดอังกฤษของ "อดุลย์" ทีมหมูป่า
เจาะลึกการเรียนหลักสูตรอาเซียนศึกษาที่ทำให้ อดุลย์ สามอ่อน สมาชิกทีมหมูป่าสามารถใช้ทักษะภาษาอังกฤษสื่อสารกับนักดำน้ำต่างชาติจนได้รับเสียงชื่นชมไปทั่วโลก
เจาะลึกการเรียนหลักสูตรอาเซียนศึกษาที่ทำให้ อดุลย์ สามอ่อน สมาชิกทีมหมูป่าสามารถใช้ทักษะภาษาอังกฤษสื่อสารกับนักดำน้ำต่างชาติจนได้รับเสียงชื่นชมไปทั่วโลก
----------------------------------------
โดย…วิรวินท์ ศรีโหมด
ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากสำหรับ ด.ช.อดุลย์ สามอ่อน เด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านเวียงพาน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย หนึ่งในเยาวชนทีมฟุตบอลหมูป่าที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน หลังมีการเผยแพร่คลิปโชว์ทักษะพูดตอบโต้ กับอาสากู้ชีพนักดำน้ำจากอังกฤษที่เข้าไปพบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทว่าจุดเริ่มต้นทักษะการใช้ภาษาของ อดุลย์ ได้รับความรู้มาจากการเรียนภาษาในโครงการศูนย์อาเซียนศึกษา ที่โรงเรียนเป็น 1 ใน 24 สถานศึกษาแนวชาติแดนที่เข้าร่วมโครงการ
จักรพันธ์ ขันอุระ คุณครูหัวหน้าฝ่ายวิชาการ ในฐานะหัวหน้าศูนย์อาเซียนศึกษา โรงเรียนบ้านเวียงพาน จะมาบอกเล่าแบบเจาะลึกถึงหลักสูตรดังกล่าวฯ ว่ามีที่มาและรายละเอียดอย่างไร จนทำให้เด็กนักเรียนของเขาได้รับการชื่นชมเรื่องการใช้ภาษาจากคนทั่วโลก
4 ภาษาที่นักเรียนชายแดนต้องเรียน
โรงเรียนบ้านเวียงพาน ปัจจุบันมีนักเรียน 1,160 คน เด็กส่วนใหญ่กว่า 80% เป็นกลุ่มชาติพันธุ์มากกว่า 10 ชาวชนเฝ่า อาทิ ไทใหญ่ ไทลื้อ ไทเขิน มะขิ่น รั้ว อาข่า จีนฮ่อ เป็นต้น
คุณครูจักรพันธ์ เล่าว่าโครงการศูนย์อาเซียนศึกษาของโรงเรียนเริ่มมาตั้งแต่ปี 2553 ตามนโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เนื่องจากวัตถุประสงค์ต้องการให้เด็กนักเรียนที่อยู่ตามแนวชายแดน เตรียมพร้อมและมีความรู้เรื่องภาษาประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงรู้จักสังคมและวัฒนธรรมของชาติในอาเซียน ก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียนปี 2559
ฉะนั้นเมื่อโรงเรียนบ้านเวียงพาน ตั้งอยู่ทางภาคเหนือและติดกับประเทศเมียนมา จึงเน้นการเรียนการสอน 4 ภาษา คือ ไทย เมียนมา จีน อังกฤษ โดยเด็กตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 จะได้รับความรู้เรื่องภาษาวัฒนธรรมประเทศในอาเซียน ผ่านคุณครูคนไทยและชาวต่าง โดยมีครูวิชาเมียนมา 2 คน จีน 2 คน และครูอังกฤษ 7 คน
เจาะลึกหลักสูตรศึกษาอาเซียน โรงเรียนบ้านเวียงพาน
หัวหน้าครูศูนย์อาเซียนศึกษารายนี้ บอกว่าหลักสูตรการเรียนของแต่ละระดับชั้นจะมีความแตกต่างกันดังนี้
-ชั้นอนุบาล เรียนภาษาเมียนมาและจีนสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง รูปแบบการสอนเน้นให้เด็กฟังและซึมซับภาษาจากการเล่นเกม เพื่อไม่ให้น่าเบื่อ
-ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 เรียนภาษาภาษาเมียนมาและจีนสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง ภาษาอังกฤษสัปดาห์ละ 5 ชั่วโมง หากเป็นห้องเรียนพิเศษจะเรียนอังกฤษสัปดาษ์ละ 10 ชั่วโมง รูปแบบการสอนเน้นให้จดจำคำศัพท์ก่อน
-ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ชั่วโมงเรียนคล้ายระดับประถมศึกษาตอนต้น แต่รูปแบบการสอนเน้นคำศัพท์เป็นประโยค และบทสนทนาตอบโต้
-ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จะไม่เน้นการเรียนภาษา แต่ในมีวิชาอาเซียนศึกษาเนื้อหาการสอนเน้นเกี่ยวกับวัฒนธรรม สังคมและประวัติของชาติในอาเซียน ซึ่งเรียนสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง นอกนั้นจะพยายามให้เด็กได้ฝึกใช้ภาษาในสถานการณ์จริง โดยคุณครูอาจพาเด็กไปเจอชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวบริเวณจุดผ่านแดนถาวรแม่สาย ซึ่งเด็กก็จะไปคอยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ตรงนี้ทำให้เด็กไม่กลัวและกล้าใช้ภาษากับต่างชาติ
คุณครูจักรพันธ์ บอกว่านอกจากการเรียนภาษาในโรงเรียน ผู้ปกครองหลายคนยังสนับสนุนให้ไปเรียนพิเศษด้วย เนื่องจากมองว่าหากเด็กมีความรู้มากก็สามารถนำมาต่อยอดใช้ในอนาคตได้
หัวหน้าครูศูนย์อาเซียนศึกษา ทิ้งท้ายว่า การใช้ภาษาในโลกปัจจุบันมีความจำเป็นมาก แต่ละคนพูดได้มากกว่า 2 ภาษา ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนตระหนักเรื่องภาษา ขอให้เปิดใจและกล้าเรียนรู้ ไม่ต้องเก่งแต่ขอให้พอสื่อสารได้ เพราะทุกวันนี้เรากำลังอยู่โลกไร้พรมแดนเรื่องการสื่อสาร


