"บิ๊กตู่"ย้ำอังกฤษมีการเลือกตั้งปีหน้าแน่นอน
พล.อ.ประยุทธ์ พบหารือ นายกฯอังกฤษ มุ่งสู่อนาคตหุ้นส่วนการค้า การลงทุน ร่วมกัน ยืนยันไทยมีการเลือกตั้งปีหน้าแน่นอน ขณะที่ นางเทรีซา เมย์ มั่นใจไทยกำลังเดินทางสู่ประชาธิปไตยที่มั่นคง
พล.อ.ประยุทธ์ พบหารือ นายกฯอังกฤษ มุ่งสู่อนาคตหุ้นส่วนการค้า การลงทุน ร่วมกัน ยืนยันไทยมีการเลือกตั้งปีหน้าแน่นอน ขณะที่ นางเทรีซา เมย์ มั่นใจไทยกำลังเดินทางสู่ประชาธิปไตยที่มั่นคง
เวลา 16.15 น.วันที่ 20 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงลอนดอน ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้พบหารือกับนางเทรีซา เมย์ (Theresa May) นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนสหราชอาณาจักร พล.ท. วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีขอบคุณที่รัฐบาลอังกฤษให้การต้อนรับการในเยือนครั้งนี้ โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมนางเทรีซา เมย์ ในการเป็นผู้นำที่เข้มแข็งในการเจรจาให้สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปด้วยเงื่อนไขที่ดีที่สุด รวมถึงนโยบาย Global Britain ที่ยึดมั่นในการค้าเสรี และเป็นโอกาสดีที่สหราชอาณาจักรจะเพิ่มพูนปฏิสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศต่าง ๆ ทั้งในและนอกยุโรป พร้อมชื่นชมที่สหราชอาณาจักรให้ความสำคัญต่อการรักษาความมั่นคงและความสงบระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไทยให้ความสำคัญเช่นกัน ทั้งนี้ ยังยืนยันว่า ไทยจะมีการเลือกตั้งแน่นอนในปีหน้า เพราะร่างกฎหมายสำคัญได้ผ่านการพิจารณาแล้ว รวมถึงจะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่จะมีขึ้นเช่นกัน
นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กล่าวว่า ได้ติดตามพัฒนาการทางการเมืองและเศรษฐกิจของไทยอย่างใกล้ชิด และมั่นใจว่าไทยกำลังเดินทางสู่ประชาธิปไตยที่มั่นคง ยั่งยืน รวมทั้งเล็งเห็นถึงความสำคัญความสัมพันธ์ระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร เนื่องด้วยประเทศไทยมีศักยภาพ และมีขนาดทางเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคอาเซียน พร้อมที่จะเป็นประตูการค้าสู่ภูมิภาค และดำเนินความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน โดยจะดำเนินการเจรจาเกี่ยวกับการเปิดการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหราชอาณาจักร ตลอดจนความเชื่อมั่นที่มีต่อนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 และยินดีสนับสนุนให้ภาคเอกชนอังกฤษร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC)
โดยในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีได้หยิบยกประเด็นการพัฒนาด้านการศึกษาซึ่งประเทศไทยประสงค์ที่จะร่วมมือกับสหราชอาณาจักร เพื่อให้การศึกษาเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะพัฒนาคน เพื่อรองรับทิศทางการพัฒนาประเทศ และเป็นกลไกขับเคลื่อนการพัฒนาทางเศรษฐกิจต่อไป