posttoday

"อ้อ ชญาภา" จากเด็กดอยสู่คุณครูผู้เสียสละ หัวเข่าพังเพื่อนักเรียน

17 มิถุนายน 2561

เปิดใจคุณครูสาวผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่หัวเข่า หลังฝ่ากระแสน้ำนำอาหารขึ้นไปให้นักเรียน

เปิดใจคุณครูสาวผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่หัวเข่า หลังฝ่ากระแสน้ำนำอาหารขึ้นไปให้นักเรียน

--------------------------------

โดย...วรรณโชค ไชยสะอาด

คุณครูสาวทุ่มเททำเพื่อเด็กๆ ชาวดอยและรัฐบาลด้วยการหอบข้าวปลาอาหารสดฝ่าน้ำป่าและเม็ดฝนที่กระหน่ำอย่างต่อเนื่อง เดินข้ามลำหวยกว่า 20 จุด จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่หัวเข่า และใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงกว่าเธอจะถึงมือแพทย์

นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ อ้อ ชญาภา ธนพงษ์โชติ คุณครูประจำโรงเรียนบ้านห้วยหมูพิทยา ที่ตั้งอยู่ ม.3 บ้านห้วยกองแป ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน 
จากเด็กดอยแก้มแดงที่มีความฝันตั้งแต่วัยเด็กว่าอยากเป็นครู วันนี้เธอยืนอยู่ตรงนั้นแล้วอย่างน่าชื่นชม

ครูอ้อ เกิดที่ตำบลแม่นาเติง อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เรียนจบจากคณะครุศาสตร์ เอกภาษาไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ อาชีพครูเป็นความฝันและเป้าหมายตั้งแต่ยังเด็กที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

“เล่นกับเพื่อนๆ ก็จะชอบรับบทบาทเป็นครู รู้สึกมีความสุข พี่แถวบ้านที่เรายกให้เป็นไอดอลก็เป็นครู เราเห็นสิ่งที่เขาทำแล้วเราชอบ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงความคิดเลย”

บ้านห้วยหมูพิทยา เป็นโรงเรียนแห่งในแรกของเธอในฐานะข้าราชการครู หลังก่อนหน้านี้ทำหน้าที่ในฐานะครูอัตราจ้างกับโรงเรียนอื่นมาหลายปี โดยรับผิดชอบดูแลเด็กในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4

หน้าที่รับผิดชอบของคุณครูในโรงเรียนที่ตั้งอยู่ตามเขาตามดอยแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับครูในเมือง ต้องทำหน้าที่สอนหนังสือเด็กทุกวิชา 8 กลุ่มสาระสำคัญ นอกจากนั้นยังมีหน้าที่เป็นแม่บ้านไปจ่ายตลาดทุกสัปดาห์ เป็นแม่ครัวทำอาหาร เป็นผู้ปกครองยามเด็กเจ็บไข้ได้ป่วยและเป็นนักการภารโรงดูแลความเรียบร้อยของสถานที่ต่างๆ ภายในโรงเรียน

"อ้อ ชญาภา" จากเด็กดอยสู่คุณครูผู้เสียสละ หัวเข่าพังเพื่อนักเรียน

เมื่อสัปดาห์ก่อนครูอ้อและเพื่อนครูตื่นเช้าเดินทางลงจากดอยด้วยรถมอเตอร์ไซค์ไปซื้อหาอาหารสดที่ตลาดภายในตัวเมือง อ.แม่สะเรียง เพื่อนำมาประกอบอาหารกลางวันให้กับนักเรียน เส้นทางนี้ปกติรถยนต์สามารถไปได้ประมาณ 42 กม. จากนั้นอีกประมาณ 8 กม. ต้องใช้รถจักรยานยนต์ขับไปตามถนนเลียบลำห้วย บางช่วงต้องขับในลำห้วย ซึ่งในช่วงฤดูฝน ต้องเดินเท้าอย่างเดียวเท่านั้น

ระหว่างเดินทางกลับวันนั้นกลุ่มของครูอ้อเจอฝนตกอย่างหนัก ระดับน้ำสูงขึ้นในทุกๆ ท่าน้ำ และรถมอเตอร์ไซค์ไม่สามารถลุยต่อได้

ทุกคนตัดสินใจเลือกจอดมอเตอร์ไซค์ทิ้งไว้และเดินเท้าต่อ โดยมีชาวบ้านที่เจอกันระหว่างทางร่วมเดินและช่วยขนของไปด้วย อย่างไรก็ตามหลังผ่านไปราว 20 ท่า อันตรายก็เกิดขึ้นกับคุณครูสาว

“ฝนตกและน้ำแรงมาก จังหวะนั้นขาเรายันพื้นทรายไม่ได้ ถูกน้ำพัดจนได้ยินเสียงดังกรุบและเจ็บมากที่หัวเข่าด้านขวา ร้องไห้น้ำตาไหล ตอนนั้นนึกว่าเป็นตะคริว ตะโกนบอกเพื่อนครูให้มาช่วย ทุกคนก็แบกเราขึ้นฝั่งได้สำเร็จ”

"อ้อ ชญาภา" จากเด็กดอยสู่คุณครูผู้เสียสละ หัวเข่าพังเพื่อนักเรียน

ไม่นานชาวบ้านในหมู่บ้านที่อยู่ห่างออกไปเกือบ 2 กิโลเมตรได้ข่าวพากันเอาเปลและช่วยยกเธอไปหาหมอประจำหมู่บ้าน อย่างไรก็ตามเมื่อดูอาการแล้วหนักเกินกว่าความสามารถและเครื่องมือที่มี ทำให้ทุกคนต้องสลับกันหามเธอไปต่อถึงหมู่บ้านห้วยแห้งโดยใช้เวลาหลายชั่วโมง เพื่อส่งเธอขึ้นรถยนต์ต่อไปโรงพยาบาลแม่สะเรียง

“ปวดมาก ถึงโรงพยาบาลตอน 3 ทุ่ม คุณหมอฉีดยาและใส่เฝือกดาม ขอบคุณชาวบ้านและเพื่อนครูทุกคนมากที่ช่วยเหลือเรา” ครูอ้อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่ได้พบกับความเจ็บปวดพร้อมๆ กับน้ำใจอันยิ่งใหญ่ของชาวบ้าน โดยเบื้องต้นคุณหมอบอกว่าสะบ้าหัวเข่าหลุด อยู่ระหว่างพักฟื้นและจะเข้ารับการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลนครพิง วันที่ 21 มิ.ย. นี้

ระหว่างที่นอนพักรักษาตัวอยู่บ้านว่าเธอบอกด้วยน้ำเสียงไพเพราะว่า เมื่อหายเจ็บจะกลับไปทำหน้าที่คุณครูต่อไป ชีวิตนี้เลือกแล้วว่าจะเป็นครู ไม่ว่าอยู่โรงเรียนไหนก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

“ได้ชวยเหลือให้เด็กๆ มีความรู้แล้วมีความสุข เป็นครูที่ไหนก็ได้ ชีวิตนี้เลือกไปแล้วว่าอยากเป็นครู หวังว่าร่างกายจะกลับมาแข็งแรง ไม่เป็นอะไรมากที่หัวเข่า สตาร์ทมอเตอร์ไซค์เดินขึ้นดอยไปสอนหนังสือเด็กๆ ได้เหมือนเดิม”

"อ้อ ชญาภา" จากเด็กดอยสู่คุณครูผู้เสียสละ หัวเข่าพังเพื่อนักเรียน

ในฐานะเรือจ้างปัญหาในวงการศึกษาที่คุณครูวัย 29 ปีอยากถ่ายทอดคือภาระหน้าที่นอกห้องเรียนที่มากเกินไปจนไม่มีเวลาโฟกัสเรื่องการสอนอย่างเต็มความสามารถ

“ครูดอยทำแถบทุกอย่าง ไปจ่ายตลาด ทำครัวเอง ปลูกต้นไม้ ปรับพื้นที่บริเวณโรงเรียน เด็กๆ ไม่สบายก็ต้องพาลงมาหาหมอข้างล่าง เพราะผู้ปกครองไม่ได้มีความรู้เรื่องโรคภัย ป่วยทีก็พามาหาครู” เธอบอกถึงสภาพปัญหาที่คุณครูในพื้นที่ห่างไกลต้องเผชิญ

โดยโรงเรียนบ้านห้วยหมูพิทยาปัจจุบันมีนักเรียนทั้งหมด 49 คน มีครูผู้สอน 3 คน ครูพี่เลี้ยงที่ได้รับงบประมาณจาก อบต. 1 คน และครูธุรการที่หมุนเวียนในแต่ละสัปดาห์ 3 โรงเรียนอีก 1 คน

ทั้งหมดนี้คือประสบการณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงภาระหน้าที่ความทุ่มเทของคุณครูสาวผู้เสียสละเพื่อนักเรียนที่เขารัก โดยไม่หวั่นกลัวว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอันตราย

"อ้อ ชญาภา" จากเด็กดอยสู่คุณครูผู้เสียสละ หัวเข่าพังเพื่อนักเรียน

"อ้อ ชญาภา" จากเด็กดอยสู่คุณครูผู้เสียสละ หัวเข่าพังเพื่อนักเรียน

 

"อ้อ ชญาภา" จากเด็กดอยสู่คุณครูผู้เสียสละ หัวเข่าพังเพื่อนักเรียน

"อ้อ ชญาภา" จากเด็กดอยสู่คุณครูผู้เสียสละ หัวเข่าพังเพื่อนักเรียน สภาพเส้นทางที่ครูดอยต้องเผชิญ

ภาพจากเฟซบุ๊กเพจ KooAor Chayapa Tanapongchod

 

 

ข่าวล่าสุด

จากดราม่า ‘น้องหมากินข้าวร่วมโต๊ะในร้าน’ สู่การส่องกฎหมาย Pet Friendly ของ ‘เกาหลีใต้’