posttoday

เกษตรกรร้องดีเอสไอถูกหลอกปลูกมันญี่ปุ่นสูญกว่า 5 ล้านบาท

03 พฤษภาคม 2561

เกษตรกรทั่วประเทศกว่า 50 คน ร้องดีเอสไอ ถูกหลอกให้ปลูกมันญี่ปุ่นและไม่รับซื้อคืน เสียหายกว่า 5 ล้านบาทสงสัยอาจเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่

เกษตรกรทั่วประเทศกว่า 50 คน ร้องดีเอสไอ ถูกหลอกให้ปลูกมันญี่ปุ่นและไม่รับซื้อคืน เสียหายกว่า 5 ล้านบาทสงสัยอาจเข้าข่ายแชร์ลูกโซ่

เมื่อวันที่ 3 พ.ค.เวลา 10.30น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายศรีสุวรรณ จรรยา พร้อมด้วยนางธัญชนก ฤทธิ์บำรุง แกนนำกลุ่มเกษตรปลูกเทศมันญี่ปุ่น นายสมบัติ สมแสง เกษตรกร จ.พิษณุโลก  และตัวแทนเกษตรกรผู้เสียรวม 50 คน จากทั่วประเทศ เข้ายื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ โดยมี พ.ต.จรัล แสงหิรัญ รองผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ รับเรื่องแทน

นางธัญชนก กล่าว่า ส่วนตัวลงทุนปลูกมันเทศญี่ปุ่น 1ไร่ เงินลงทุนประมาณ 6 หมื่นบาท โดยตนและกลุ่มเกษตรกรปลูกมันเทศญี่ปุ่นถูกบริษัท พีพี. เท็นกรุ๊ป จำกัด โฆษณาชักชวนให้เกษตรกรจำนวนมากให้เข้าร่วมโครงการเพาะปลูกมันเทศญี่ปุ่นในสายพันธ์ต่างๆเช่น พันธุ์โอกินาวา พันธุ์ฮาวาย ฯลฯ เพื่อผลิตยอดพันธุ์ขายให้กับทางบริษัท ซึ่งบริษัท ได้กำหนดให้มีตัวแทนเกษตรกรหรือผู้นำกลุ่ม ขึ้นมาเพื่อชักชวนสมาชิกเกษตรกรให้เข้าร่วมโครงการ โดยมีค่าตอบแทนให้ผู้นำหรือผู้ชักชวนและลูกทีมตั้งแต่ราคา 200-500 บาท ซึ่งปัจจุบันมีการกำหนดราคาให้หาสมาชิกใหม่จะได้ค่าชักชวน 900-1500 บาท ทั้งนี้การปลูกมันเทศญี่ปุ่นทางบริษัทอ้างว่าเป็นการช่วยปลดหนี้ให้เกษตรกรเพื่อเป็นสิ่งล่อใจทำให้เกษตรกรเชื่อถือและทยอยเข้าร่วมโครงการหลายร้อยคน โดยเป็นเกษตรกรในพื้นที่มากกว่า 25 จังหวัด อาทิ จ.นครราชสีมา พิษณุโลก ชัยภูมิ ศรีษะเกษ บุรีรัมย์ มหาสารคาม เลย อุดรธานี หนองคาย สกลนคร เชียงใหม่ ลพบุรี ขอนแก่น อุทัยธานี สุพรรณบุรี สุโขทัย สระบุรี กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ สระแก้ว นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ ปราจีนบุรี พิจิตร และร้อยเอ็ด


"นอกจากนี้ น.ส.พบพร พิภพโยพิณกุล ผู้จัดการของบริษัทฯ และนายธนกฤต ผันสำโรง ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมการตลาด ได้ลงพื้นที่เพื่อชักชวน และทำการจัดอบรมให้ความรู้การปลูกมันเทศญี่ปุ่น เพื่อเอายอดพันธุ์ส่งขายให้กับบริษัทฯ โดยจะต้องจะทำหนังสือข้อตกลง ซื้อยอดพันธุ์กับทางบริษัทฯเท่านั้นในราคายอดละ 10 บาท อย่างไรก็ตามเมื่อแตกยอดเก็บเกี่ยวก็สามารถตัดยอดส่งบริษัทฯได้ โดยบริษัทอ้างว่าจะรับซื้อคืนทุกยอดหากมีความสมบูรณ์และมีความยาว 30 เซนติเมตร และจะรับซื้อตามที่ตกลงราคากันไว้ ยอดละ 4.50 บาท และจะนำรถไปรับผลผลิตของเกษตรกรถึงแปลงปลูก" นางธัญชนก กล่าว

นางธัญชนก กล่าวว่า เมื่อเกษตรกรเพาะปลูกตามที่บริษัทต้องการ ทางบริษัทฯกลับแจ้งว่าให้เกษตรกรนำผลผลิตมาส่งเองยังบริษัทฯ โดยจะจ่ายค่าเดินทางให้ ซึ่งเมื่อเกษตรกรนำผลผลิตมาส่งบริษัทฯ แต่กลับไม่ได้ค่าเดินทางตามที่อ้างไว้ตั้งแต่แรก อีกทั้งเมื่อไปสอบถามบริษัทฯก็กลับแจ้งว่าผลผลิตเกษตรกรเน่าเสียหรือความยาวยอดพันธุ์ไม่ถึงเกณฑ์กว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จึงไม่สามารถจ่ายค่ายอดให้เกษตรกรได้ ทำให้ต้องตัดจำนวนยอดหรือจำนวนนำส่งออก และค่าน้ำมันจะให้เพียงกิโลเมตรละ 1 บาท จึงทำให้เกษตรกรได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก เมื่อเกษตรกรรวมตัวเรียกร้องให้บริษัทฯชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว แต่บริษัทฯชี้แจงว่าจะโอนให้ภายหลัง โดยกำหนดนัดวันให้ แต่เมื่อถึงเวลากลับไม่โอนเงินให้ และมีการไม่รับสายโทรศัพท์เมื่อเกษตรกรโทรถาม ซึ่งการกระทำดังกล่าวคล้ายลักษณะแชร์ลูกโซ่หรือไม่

ขณะที่ นายสมบัติ กล่าวว่า บริษัทดังกล่าวได้มีการชักชวนเกษตรกรในพื้นที่ซึ่งต้องการปลูกมันเทศญี่ปุ่นด้วยการสร้างแรงจูงใจว่าหากปลูกประมาณ 40-50 ไร่ ก็จะมีการดาวน์รถยนต์ให้พร้อมส่งค่างวดรถยนต์ให้ด้วยเช่น ตนจึงเป็นคนช่วยประสานเกษตรกรในจังหวัดกับบริษัทดังกล่าว และช่วยหายอดปลูกเพิ่มให้กับบริษัทด้วย โดยตนและกลุ่มเกษตรกร มีการปลูกรวมกัน 30 กว่าไร่ ทำให้บริษัทพาตนไปดาวน์รถยนต์และใช้ชื่อตนเป็นคนซื้อ จากนั้น มีการส่งยอดปลูกได้ประมาณ 2 รอบ พบว่าการเงินเริ่มไม่มั่นคง เพราะส่งยอดปลูกให้กับบริษัทแล้วแต่ได้รับเงินช้า กระทั่งไม่มีเงินส่งค่างวดรถยนต์เลยต้องไปกู้เงินจากคนรู้จักมาส่งก่อนเบื้องต้น ล่าสุดจ่ายค่างวดรถยนต์มาเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว

"ต่อมา บริษัทดังกล่าวบอกว่าจะนำรถยนต์ไปมอบให้กับตัวแทนคนอื่นต่อ ซึ่งผมก็ยอมรับได้แต่ขอเงินที่ส่งค่ารถยนต์ทั้งหมดที่ผ่านมาคืน ทั้งหมดประมาณ 150,000 บาท โดยตอนแรกบริษัทก็รับปากจะคืนให้ จนมาช่วงกลางเดือน เม.ย.61  บริษัทนัดขอรถยนต์คืนเพื่อนำไปให้ตัวแทนท่านอื่นและจะเอากลับคืนไปฟรีๆ เพราะอ้างว่าผมไม่ส่งต่อเอง จนกระทั่งขณะนี้ไม่มีการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด ทั้งนี้  ผมเห็นความไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง เช่น เกษตรกรบางคนได้เงินช้าบ้าง ขาดทุนบ้าง หรือ ได้เพียงแค่เงินต้นทุนคืนเท่านั้น" นายสมบัติกล่าว

พ.ต.จรัล กล่าวว่า เบื้องต้นรับเรื่องไว้พิจารณาว่าเข้าข่ายคดีพิเศษหรือไม่ พร้อมส่งเรื่องให้อธิบดีดีเอสไอพิจารณาต่อไป