"ผอ.เขตประเวศ" แจง "หมู่บ้านเสรี" อยู่ในโซนตั้งตลาดได้ ชี้คดีฟ้องร้องยังไม่สิ้นสุด
ผอ.เขตประเวศแจง หมู่บ้านเสรีวิลล่าเป็นที่ดินจัดสรร ไม่ใช่หมู่บ้านจัดสรรที่มีนิติบุคคลดูแล อยู่ในโซนสีเหลืองจัดตั้งตลาดได้ไม่ขัดกฎหมายผังเมือง
ผอ.เขตประเวศแจง หมู่บ้านเสรีวิลล่าเป็นที่ดินจัดสรร ไม่ใช่หมู่บ้านจัดสรรที่มีนิติบุคคลดูแล อยู่ในโซนสีเหลืองจัดตั้งตลาดได้ไม่ขัดกฎหมายผังเมือง
เมื่อวันที่ 20 ก.พ. นายธนะสิทธิ เมธพันธ์เมือง ผู้อำนวยการเขตประเวศ ได้ชี้แจงประเด็นการตั้งตลาดในซอยหมู่บ้านเสรีวิลล่า แยก 2 เขตประเวศผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง3 หลังจากที่ น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ เจ้าของบ้านที่มีข้อพิพาทกับผู้ที่จอดรถขวางหน้าบ้านได้ระบุว่า มีการออกใบอนุญาตตลาดทั้งที่เป็นพื้นที่อยู่อาศัย โดยมีรายละเอียดดังนี้
พื้นที่เป็นโซนสีเหลืองสามารถจัดตั้งตลาดได้
นายธนะสิทธิ กล่าวว่า หมู่บ้านเสรีวิลล่า ทำเป็นที่ดินจัดสรรตั้งแต่ปี 2526 หรือ 34 ปีที่แล้ว โดยจัดสรรเป็นที่ดินแปลงเปล่า บ้านไหนพร้อม ท่านใดพร้อม ก็มาปลูกบ้าน ด้วยความเจริญที่ต่อเนื่องขึ้นมา และพื้นที่นี้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจไปแล้ว ก็จะมีเจ้าของที่ดินบางท่านที่ไม่อยากปลูกบ้านแล้ว ก็จะมาปลูกอย่างอื่นแทน
การอนุญาตให้จัดตั้งตลาดดูจาก พ.ร.บ.ผังเมือง ในขณะนั้น ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เป็นผังเมือง "ย.3" สีเหลือง จะปลูกสร้างอาคารได้สูงไม่เกิน 15 เมตร ในส่วนของตลาดสามารถจัดตั้งได้
เป็นที่ดินแปลงเปล่า ไม่ได้เป็นหมู่บ้านจัดสรรหรือมีนิติบุคคลดูแล
ที่ดินดังกล่าวเป็นการโฆษณาขายพื้นที่ ซึ่งไม่ได้อยู่ในลักษณะเป็นหมู่บ้านจัดสรร ไม่มีรั้วรอบขอบชิด หรือมีนิติบุคคลอยู่ ตรงนี้เป็นที่ดินแปลงเปล่า แล้วลักษณะของการขออนุญาตจัดตั้งตลาด ต้องบอกว่าขอได้ และเมื่อก่อนการขออนุญาตจัดสร้างอาคารเกี่ยวกับตลาด ขอที่สำนักโยธาธิการ และได้เปลี่ยนมาเป็นมาขอที่สำนักงานเขต และวันที่ 19 มี.ค.2560 ก็ให้กลับไปขอที่สำนักโยธาธิการอีกแล้ว
ประเด็นสำคัญ การฟ้องร้องยังอยู่ในกระบวนการชั้นศาล
นายธนะสิทธิ กล่าวว่า เมื่อสามารถสร้างตลาดได้ ก็ไม่มีกฎหมายที่จะระบุไว้ว่า สร้างได้แค่ 1 ตลาด หรือในรัศมีแค่นี้จะไม่มีตลาดอื่นเลย ฉะนั้นถ้ายื่นขอใบอนุญาตแล้วถูกต้องตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข 2535 ในสมัยนั้น ก็สามารถที่จะสร้างตลาดได้ มันถึงมีการสร้างตลาดหนึ่ง ตลาดสอง ตลาดสาม กลายเป็นความเดือดร้อนของคุณป้า
เมื่อสร้างตลาดได้ ก็ต้องมาดูว่าความเดือดร้อนของประชาชน ศาลท่านก็รับฟัง เขตก็รับฟัง เมื่อเกิดเรื่องสำนักงานเขตไม่ได้เพิกเฉย ทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ก็ดำเนินคดีกับทุกตลาด ศาลแขวงก็เปรียบเทียบปรับ และสั่งให้ยื่นขอทำให้ถูกต้อง จากนั้นก็มีการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครอง
ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายกเลิกคำสั่งศาลชั้นต้น
พอร้องศาลปกครองก็กลายเป็นว่าฟ้องออกมา คุณป้าบุญศรีชนะครับ ศาลปกครองชั้นต้นสั่งให้มีการยกเลิกและให้ดำเนินการกับผู้ถูกร้องภายใน 30 วันนับตั้งแต่คดีสิ้นสุด แต่มีจุดเปลี่ยนตรงที่ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษามา คือ ผู้ร้องได้อุทธรณ์ เพราะมีผู้ถูกฟ้องดำเนินคดีกับ 4 ท่าน คือ ผู้ว่าฯกทม. ผู้อำนวยการเขตประเวศสมัยนั้น สำนักงานเขตประเวศ และ กรุงเทพมหานคร
ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษายกเลิกคำสั่งศาลชั้นต้น โดยคำพิพากษาระบุว่า "ให้ศาลปกครองชั้นต้นดำเนินการพิจารณาให้ถูกต้องและมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งใหม่ตามรูปแบบคดีต่อไป"
อันนี้คือจุดเปลี่ยน คือศาลปกครองสูงสุดได้ยกเลิกคำสั่งศาลชั้นต้น ทำให้ทางสำนักงานเขตยังดำเนินการไม่ได้ เนื่องจากยังอยู่ในกระบวนการของชั้นศาล
เข้าผลักดันผู้ค้าที่ขวางหน้าบ้าน ตามคำสั่งคุ้มครองแล้ว
นายธนะสิทธิ กล่าวว่า ทางสำนักงานเขตและกทม.ก็ไม่ได้รอ เพราะสำนักงานเขตได้เข้าผลักดันผู้ค้าที่อยู่หน้าบ้าน ที่เกะกะ ตามที่ศาลได้มีคำสั่งคุ้มครองโดยผลักดันเข้าตลาดหมด และวันนี้ได้ประชุมกับเจ้าของตลาดแล้วว่า จะไม่เก็บค่าจอดรถใน 3 ตลาดคือ ตลาดสวนหลวง ตลาดยิ่งนรา และ ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ตที่ให้ฟรี ส่วนตลาดรุ่งวาณิชย์ลดค่าจอดรถจาก 50 บาทเหลือ 20 บาทมีผลนับตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.2561 เป็นต้นไป รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลในจุดห้ามจอด ซึ่งเป็นสิ่งที่สำนักงานเขตทำควบคู่กับการรอคำสั่งศาล
ต่อมา นายธนะสิทธิ์ ได้แถลงเพิ่มเติมที่ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครว่า ปี 2558 ศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองบริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากมีผู้ค้ามาวางขายสินค้าบนทางเท้าขวางบริเวณหน้าบ้าน สำนักงานเขตประเวศ จึงดำเนินการจัดระเบียบผู้ค้า จำนวน 230 ราย ซึ่งผู้ค้าดำเนินกิจการบนฟุตปาธหน้าบ้านหลังดังกล่าว ทำให้บรรดาผู้ค้าพากันย้ายเข้าไปประกอบการในตลาดทั้ง 4 ตลาดที่ตั้งขนาบข้างซ้าย-ขวา คือ ตลาดสวนหลวง ร.9 ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต ตลาดยิ่งนรา และ ตลาดรุ่งวาณิชย์
นายธนะสิทธิ์ กล่าวว่า ในปี 2559 ทั้ง 4 ตลาดถูกแจ้งดำเนินคดีใน 2 ส่วน คือ ในส่วนของอาคาร และ การสาธารณสุข ซึ่งศาลแขวงมีคำพิพากษาเปรียบเทียบปรับทั้ง 4 ตลาด และสั่งให้เจ้าของตลาดทั้ง 4 ดำเนินการขอใบอนุญาตประกอบกิจการให้ถูกต้องตามขั้นตอนทันทีที่คดีถึงที่สุด
จากการตรวจสอบ พบว่า ตลาดสวนหลวง ร.9, ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต และตลาดยิ่งนรา ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงตลาดรุ่งวาณิชย์ ที่คดียังไม่ถึงที่สุด เนื่องจากศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้ศาลปกครองกลางทบทวนการพิพากษาเมื่อปี 2559 เขตประเวศ จึงสามารถควบคุมได้เพียงเรื่องของความสะอาดไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในพื้นที่เท่านั้น
ส่วนการจอดรถที่พบริมทาง เป็นหน้าที่ของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประเวศ ดูแลโดยถนนเส้นนี้ มีการระบุเวลาในการห้ามจอด 2 ช่วง คือ ห้ามจอดตั้งแต่ 05.00 – 10.00 น. และ 16.00 – 20.00 น.
อย่างไรก็ตาม สำนักงานเขตประเวศ ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น หากศาลมีคำตัดสินอย่างไร สำนักงานเขตพร้อมที่จะดำเนินการตามคำสั่งศาลทันที ระหว่างนี้ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าของตลาด ให้จัดการจราจรในพื้นที่ดังกล่าว และเขตจะส่งเจ้าหน้าที่ไปอำนวยความสะดวกด้วย
ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบพื้นที่บ้านพักของ น.ส.บุญศรี ในแผนผังกำหนดใช้ประโยชน์ที่ดินตามที่ได้จำแนกประเภทท้ายกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมกรุงเทพฯ พ.ศ.2556 พบว่า บ้านพักของ น.ส.บุญศรี อยู่ในโซนพื้นที่ "ย.3-63" ซึ่งเป็นโซนสีเหลือง
ตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2556 ระบุรายละเอียดของพื้นที่ "ย.3" ไว้ใน ข้อ 10 ว่า
ที่ดินประเภท ย. 3 เป็นที่ดินประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อดํารงรักษาการอยู่อาศัยที่มีสภาพแวดล้อมดีในบริเวณชานเมือง
ซึ่งที่ดินประเภทดังกล่าวถูกระบุว่าห้ามใช้ประโยชน์เพื่อกิจการประเภท "ตลาด" แต่มีข้อยกเว้นให้ทำได้ดังนี้
(ก) ตลาดที่มีพื้นที่ประกอบการไม่เกิน 1,000 ตารางเมตร ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า 12 เมตร หรือตั้งอยู่ภายในระยะ 500 เมตร จากบริเวณโดยรอบสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน
(ข) ตลาดที่มีพื้นที่ประกอบการเกิน 1,000 ตารางเมตร แต่ไม่เกิน 2,500 ตารางเมตรที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า 16 เมตร หรือตั้งอยู่ภายในระยะ 500 เมตรจากบริเวณโดยรอบสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน
(ค) ตลาดที่มีพื้นที่ประกอบการเกิน 2,500 ตารางเมตร ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า 30 เมตร หรือตั้งอยู่ภายในระยะ 500 เมตร จากบริเวณโดยรอบสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน


