ทลายแก๊งลวงสาวลาวค้ากาม
ปคม.แถลง จับ 2 หนุ่มลพบุรี ลวง 50 สาวลาว ค้ากามเยี่ยงทาส ร้านคาราโอเกะ
ปคม.แถลง จับ 2 หนุ่มลพบุรี ลวง 50 สาวลาว ค้ากามเยี่ยงทาส ร้านคาราโอเกะ
กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) นายวิฒิกร อินทรภูวศักดิ์ ผู้ช่วย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายปกรณ์ พันธุ อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ นายคำไพ พันทองดี เลขานุการโท สถานเอกอัครราชทูตลาวประจำประเทศไทย พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผกก.3 บก.ปคม. ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายทองสุข ทรัพย์นิมิตร อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 7 ต.นาขันหมาก อ.เมือง จ.ลพบุรี และ นายวีระ อิ่มสำราญ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 ซอยพระยาอนุชิต ถนนเทศบาล 1 ต.ทะเลชุบศร อ.เมือง จ.ลพบุรี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2231 และ 2232/2553 ลงวันที่ 7 ต.ค.53 ในข้อหาร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ค้ามนุษย์ โดยแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไป ซึ่งเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และเด็กอายุกว่า 15 แต่ไม่เกิน 18 ปี เพื่อให้บุคคลนั้น ค้าประเวณี โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ หรือข่มขืนใจด้วยวิธีอื่นใด อันเป็นการกระทำทารุณกรรมต่อร่างกาย หรือจิตใจเด็ก โดยสามารถจับกุมได้ที่ร้านชนาธิปคาราโอเกะ อ.เมือง จ.ลพบุรี
โดย พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อนหญิงได้พาผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเด็กสาวชาวลาว 2 ราย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปคม. ให้ดำเนินคดีกับ นายไพโรจน์ สุขพิทักษ์ อายุ 47 ปี เจ้าของร้านชนาธิปคาราโอเกะ กับพวก หลังจากทั้งสองถูกหลอกมาจากประเทศลาว ตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา และถูกบังคับให้ค้าประเวณีเยี่ยงทาสที่ร้านดังกล่าว โดยทั้งสองระบุว่า ยังมีเพื่อนเด็กสาวชาวลาวอีกกว่า 50 คน ที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน หากรายใดไม่ยินยอมก็จะถูกทุบตีทำร้ายร่างกายอย่างทารุณ ได้กินอาหารเพียงวันละ 1-2 มื้อ เท่านั้น
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น ชุดสืบสวน กก.3 บก.ปคม. ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับนายไพโรจน์ กับพวก กระทั่งเมื่อวันที่ 2 ส.ค. จึงสามารถติดตามจับกุมนายไพโรจน์ ไว้ได้ พร้อมกับได้เข้าช่วยเหลือเด็กสาวชาวลาว 14 คน ซึ่งขณะนี้ ได้ส่งให้สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพ บ้านเกร็ดตระการ รับตัวไปฟื้นฟูสภาพจิตใจแล้ว ซึ่งจากการสอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียดทราบว่า น.ส.นัท ไม่ทราบนามสกุล หนึ่งในเหยื่อ ได้ถูกทำร้ายร่างกาย จนเสียชีวิตลง และมีการนำศพไปฌาปนกิจที่วัดแห่งหนึ่ง เพื่ออำพรางคดีด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลดังนั้น จึงขยายผลเข้าติดตามจับกุมนายทองสุข และนายวีระ ได้ดังกล่าว
ทั้งนี้ จากการสอบสวนทั้งสองยังให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงผู้เสียหายมาค้าประเวณี รวมทั้งทำร้ายร่างกายตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด มีหน้าที่เพียงดูแลร้านคาราโอเกะให้กับนายไพโรจน์ เท่านั้น
เบื้องต้น ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.รับไว้ดำเนินคดี จากนั้น จะเร่งสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมกระทำความผิดที่เหลือ รวมทั้งประสานเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ เร่งติดตามผู้เสียหายอีกหลายราย เพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป


