เรื่องต้องรู้! "3รูปแบบ-2ลักษณะการทำงาน"ด่านตำรวจไทย ผิดจากนี้ไม่ใช่ชัวร์!
ไขประเด็นข้องใจจากปาก "รองโฆษกตำรวจ" ด่านตรวจของตำรวจไทยมีกี่แบบ และมีการปฏิบัติหน้าที่ในลักษณะใดบ้างกันแน่?
โดย…วิรวินท์ ศรีโหมด
“ประชาชนทุกคนเป็นเครื่องมือการขับเคลื่อนของผม พบที่ไหน เห็นที่ไหนถ่ายส่งมาถ้าเห็น “ด่านลอย” การไปซุ่มตัวตามพุ่มไม้มันไม่ใช่” คำพูดของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ช่วงเข้ารับตำแหน่งใหม่ ต.ค.2558
“การจราจรเป็นปัญหาหนักของประชาชนในกรุงเทพมหานคร ก็เล็งเห็นว่าการตั้งด่านจราจร ยังไม่บรรลุเป็นผลที่ดี ผมคิดว่าการตั้งด่านจราจรควรหยุด เพื่อไปควบคุมการจอดรถกีดขวาง เมาแล้วขับ แต่ด่านจราจรคงไม่ให้ตั้ง” พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. กล่าวไว้เมื่อช่วงรับตำแหน่งใหม่ ต.ค.2560
2 วาทะของผู้นำองค์กรผู้บังคับใช้กฎหมายนี้ หวังสร้างความสัมพันธ์น่าเชื่อถือจากประชาชน แต่ทว่าที่ผ่านมาการตั้งด่านหรือจุดตรวจยังถูกวิจารณ์ และตำรวจจะอธิบายว่าการปฏิงานดังกล่าวคือ ด่านความมั่นคง ด่านตรวจสิ่งผิดกฎหมาย หรือด่านตรวจแอลกอฮอล์ นี่จึงเป็นข้อสงสัยจากประชาชนว่า “แล้วด่านแบบไหนถูกหรือผิดกันแน่?”
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมาไขข้อสงสัยให้ประชาชนรับทราบว่า การตั้งด่านของตำรวจมีกี่ประเภท และลักษณะการทำงานแต่ละแบบเป็นอย่างไร
3 แบบ 2 ลักษณะการทำงาน ของด่านตำรวจไทย
รองโฆษกตำรวจ กล่าวว่า การตั้งด่านเป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) สามารถตรวจค้น ยึดสิ่งของผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด ทรัพย์สินจากการลักทรัพย์ อาวุธปืน ฯลฯ. ได้เพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นทุกมิติ
ด่านเจ้าหน้าที่ตำรวจมี 3 ประเภทหลัก คือ ด่านตรวจ จุดตรวจ จุดสกัด
หลักการปฏิบัติงานทุกด่านต้อง มีเจ้าหน้าที่สัญบัตรยศร้อยตำรวจตรี ขึ้นไปเป็นหัวหน้าชุด แต่งเครื่องแบบปฏิบัติหน้าที่แสดงตนชัดเจน ใช้กิริยาวาจาสุภาพอธิบายว่าตั้งด่านเพื่ออะไร มีเครื่องหมายจราจรเช่น ป้ายหยุด ป้ายแสดงรายละเอียดผู้ควบคุม ป้ายชื่อและเบอร์โทรผู้บังคับบัญชา หากปฏิบัติงานช่วงกลางคืนต้องมีแสงสว่างมองเห็นได้ไม่น้อยกว่า 150 เมตร
สำหรับรูปแบบของ “ด่านตรวจ” มีจุดการตั้งถาวร ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี ผู้มีอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยทางหลวง หรือ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เช่น ด่านตรวจถาวรตามเส้นทางหลักระหว่างจังหวัดที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ร่วมปฏิบัติงาน
“จุดตรวจ” เป็นจุดปฏิบัติงานชั่วคราวขนาดเล็กกว่าด่านตรวจ สามารถเคลื่อนย้ายง่าย ข้อบังคับห้ามปฏิบัติงานเกิน 24 ชั่วโมง ด่านลักษณะนี้ประชาชนมักเห็นเป็นประจำ เช่น ด่านตรวจทั่วไป ด่านความมั่นคง ด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ด่านตรวจควันดํา เป็นต้น
“จุดสกัด” มีขนาดเล็กใช้ปฏิบัติงานกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเร่งด่วนหลังได้รับแจ้งเหตุ เช่น สกัดจับการลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมาย หรือสกัดจับบุคคล การทำงานจบหลังเสร็จสิ้นภารกิจ จุดสกัดถือว่ามีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์มาก
ลักษณะการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ยังแยกออกได้อีก 2 แบบ คือ เพื่อกวดขันวินัยจราจร และตรวจค้นปราบปราม
“การกวดขันวินัยจราจร” เจ้าหน้าที่จะเรียกตรวจหากพบผู้ขับขี่มีความผิดซึ่งหน้า เช่น ไม่สวมหมวกกันน็อก ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร หรือคุยโทรศัพท์ขณะขับรถ ก่อนแจ้งรายละเอียดเหตุการกระทำความผิด และเขียนใบสั่งเพื่อให้นำไปชำระพร้อมกับออกใบเสร็จ
ตรวจค้นเพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรม เมื่อขับรถเข้าด่านเจ้าหน้าที่จะประเมิณ หากสงสัยจะเรียกจอดข้างทาง ก่อนสั่งให้เปิดประตูและกระโปรงรถ พร้อมเชิญผู้ขับขี่ลงก่อนตรวจค้น หากพบสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จะเชิญเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองสิ่งผิดกฎหมาย ไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ ก่อนเขียนบันทึกจับกุมโดยระบุว่ารับหรือไม่รับสารภาพ จากนั้นส่งตัวดำเนินคดีต่อศาล ทั้งนี้การทำผิดประเภทนี้พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจปรับ แต่ศาลจะเป็นผู้พิจารณาลงโทษ
ตำรวจตั้งด่านได้ทุกแบบ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
รองโฆษกตำรวจ กล่าวว่า ด่านหรือจุดตรวจทั้ง 3 แบบสามารถตั้งได้ตลอด ขึ้นอยู่กับดุลพินิจผู้บังคับบัญชาส่วนสาเหตุในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีคำสั่งยกเลิกด่านจราจร เนื่องจาก ผบช.น.เกรงอาจกระทบกับการจราจรจึงสั่งยกเลิกด่านจราจร
หากประชาชนพบปัญหาหรือส่งสัยว่า เจ้าหน้าที่มีเจตนารมณ์ผิดวัตถุประสงค์การตั้งด่าน เช่น รีดไถ สามารถร้องทุกข์ผ่านสายด่วน 191 และ 1599 หรือโพสต์ลงโซเชียล เพื่อจะได้ดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งเรื่องนี้ ผบ.ตร.เน้นย้ำว่า ต้องเป็นไปตามกรอบของกฎหมายและนโยบายการจราจรและตั้งด่าน
แต่ขออย่านำอารมณ์ส่วนตัว พยายามจับผิดและนำคลิปมาเผยแพร่ในโซเชียล ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการพยายามจงใจทำให้องค์กรตำรวจเสื่อมเสีย หากพิสูจน์ทราบว่าเจ้าหน้าที่ทำถูก อาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
“มองได้ 2 ส่วน ทั้งลิดรอนสิทธิประชาชน และการป้องกันความปลอดภัย ประชาชนมักมองว่า การตั้งด่านจุดสกัดทำให้เสียเวลา แต่อยากให้มองว่า เจ้าหน้าที่ก็ไม่อยากไปทำให้เสียเวลาการเดินทาง แต่ต้องทำเพื่อคัดกรองสิ่งผิดกฎหมาย และที่ผ่านมาสามารถสกัดยาเสพติดได้หลายครั้ง ซึ่งตำรวจพยายามทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด”
ตำรวจไทย 4.0 ต้องทำงานคู่เทคโนโลยี
การทำงานกวดวินัยจราจรปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น เช่น กล้องจับความเร็ว กล้องเลนเชนจ์หรือระบบตรวจจับรถฝ่าฝืนช่องเดินรถในเขตห้าม เพื่อลดความไม่เข้าใจและขัดแย้งระหว่างประชาชนกับตำรวจ ซึ่งเทคโนโลยีนี้เป็นความหวังการแก้ปัญหาด้านการจราจรในอนาคต
“การนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อลดความขัดแย้ง และเป็นการยืนยันว่ามีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมซึ่งอนาคตจะมีการใช้กล้องดูแลเรื่องจราจรมากขึ้น”
แต่ถึงอย่างไร จะไม่ยกเลิกการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ แต่อาจทำคู่กันเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตำรวจกับประชาชนดีมากขึ้นด้วย
เมื่อถามว่า คิดอย่างไรกับการที่ประชาชนบางกลุ่มมองว่า ตำรวจตั้งด่านเพื่อหาค่าปรับมากกว่า หวังแก้ปัญหาการจราจร พ.ต.อ.กฤษณะ ระบุว่า หากไม่มีผู้กระทำผิดตำรวจก็ไม่ออกใบสั่ง ทางกลับกันทำไมประชาชนไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร 100% ตำรวจจะได้ไม่ต้องออกใบสั่ง และอีกอย่างตำรวจปฏิบัติตามกฎหมายเหมือนหน่วยงานอื่น เช่น กรมศุลกากร ปปง. ป.ป.ส. แต่ถูกวิจารณ์ และเงินส่วนแบ่งค่าปรับก็ไม่ได้มาก
รองโฆษกตำรวจ ทิ้งท้ายว่า หากไม่มีผู้กระทำความผิด ตำรวจก็ไม่สามารถแจกใบสั่งได้ ซึ่งตำรวจก็ไม่อยากเห็นคนทำผิดเช่นกัน


