posttoday

The King can do no wrong พระราชดำรัสประชาธิปไตย

13 ตุลาคม 2560

ตลอดรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ต้องยอมรับว่าประเทศไทยได้เกิดวิกฤตทางการเมืองหลายครั้ง

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

ตลอดรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ต้องยอมรับว่าประเทศไทยได้เกิดวิกฤตทางการเมืองหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ 14 ต.ค. 2516 หรือเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 หรือแม้แต่ภัยคุกคามจากภายนอก โดยเฉพาะการแผ่อิทธิพลของลัทธิคอมมิวนิสต์

แต่ประเทศไทยก็สามารถยืนเด่นเป็นสง่าและผ่านวิกฤตการณ์มาได้ทุกวันนี้ เพราะด้วยพระอัจฉริยภาพของพระองค์ ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

อย่างในช่วงปี 2548 อันเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งทางการเมืองของไทย เวลานั้นได้เกิดความไม่ลงรอยกันในทางความคิดเห็นระหว่างรัฐบาลและภาคประชาชน ถึงขั้นมีการอภิปรายถึงพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตรงไปตรงมาอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

จากนั้นในวันที่ 4 ธ.ค. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้มีพระราชดำรัสพระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคล ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยเข้าใจถึงระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อย่างถ่องแท้มากขึ้น โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

"ความจริง The King can do no wrong  คือ การดูถูกเดอะคิงอย่างมาก เพราะว่าเดอะคิงทำไม can do no wrong ไม่ได้ do wrong แสดงให้เห็นว่าเดอะคิงไม่ใช่คน แต่เดอะคิงทำ wrong ได้ สำคัญที่สุด ข้าพเจ้าเป็นเดอะคิง และเขาบอกว่า do no wrong เราก็เห็นด้วยกับเขา เพราะการทำอะไร ถ้าคนเราถือว่าต้องมีสติ คือ หมายความว่า รู้ว่าทำอะไร คิดอะไร และไม่ปล่อยให้ผิดออกมา ก็ไม่ผิด ผิดไม่ได้ อันนี้ก็เป็นการพูดว่าข้าพเจ้าเองไม่ผิด ไม่มีวันผิด ถ้าสมมติพูดผิดเพราะไม่รู้ แต่ผิดโดยรู้ว่าผิด การทำผิดโดยรู้ไม่ดี แต่บางทีไม่รู้เพราะว่าไม่มี ขอโทษนะ พูดไม่มีสติ ขาดสติ คือ ไม่ระวังตัว ทีหลังก็เสียใจ"

"เมื่อก่อน ก่อนจะเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เป็นคิง ก็เสียใจหลายครั้ง แต่ตอนเป็นพระเจ้าแผ่นดิน แล้วเป็นคิง คิงแบบไทยๆ ฝรั่งบอกเป็นเดอะคิง เข้าใจว่าน้อยครั้งที่ทำผิด เพราะระวัง ถ้าไม่ระวัง ป่านนี้ตายแล้ว ลำบาก ต้องระวัง ไม่ระวังก็ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติ ที่เรียกว่าการเมือง หรือการอยู่ในสายตาของคน สายตาคนฆ่าได้ถ้าเราไม่ระวัง เราตาย ก็เลยถึงบอกได้ว่าทำไมการที่บอกว่า The King can do no wrong เพราะต้อง can do no wrong..."

"แต่แท้จริง ที่พูด ที่ออกข่าว ให้สัมภาษณ์บอกว่าอย่าไปวิจารณ์เดอะคิง ต้องบอกว่า อย่าไปวิจารณ์พระเจ้าอยู่หัว เพราะว่าไม่ควร ในรัฐธรรมนูญก็มีอยู่ว่าละเมิดมิได้ นักกฎหมายก็พยักหน้าอีกแล้วว่าถูกต้อง ว่าไม่ควรจะวิจารณ์ วิจารณ์ไม่ได้ ละเมิดไม่ได้ แต่ว่าถ้าพูดว่าพระเจ้าอยู่หัวทำถูก พูดถูก ไม่ใช่ละเมิด เป็นการถ้าพูดภาษาอังกฤษก็ approve พระเจ้าอยู่หัว เห็นชอบด้วย"

"แต่ไม่เคยมีใครมาบอกเห็นชอบว่า พระเจ้าอยู่หัวพูดดี พูดถูก แต่ว่าความจริง ก็จะต้องวิจารณ์บ้างเหมือนกัน แล้วก็ไม่กลัว ถ้าใครจะวิจารณ์ว่าทำไม่ดีตรงนั้นๆ จะได้รู้ เพราะว่าถ้าบอกว่าพระเจ้าอยู่หัวไปวิจารณ์ท่านไม่ได้ ก็หมายความว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่เป็นคน ไม่วิจารณ์ เราก็กลัวเหมือนกัน ถ้าบอกไม่วิจารณ์ แปลว่าพระเจ้าอยู่หัวไม่ดี รู้ได้อย่างไร..."

"...ฉะนั้น ก็บางโอกาสขอให้ละเมิด จะได้รู้กันว่าใครดี ใครไม่ดี นี่พูดเลยเถิด พูดมากไป แต่ว่าคนที่อยู่ข้างหน้านี่ ไม่ต้องกลัว เพราะว่าไม่ได้มีความผิด คนที่นึกว่ามีความผิดพยักหน้า พยักหน้าว่ามีความผิดจริงๆ ความจริงเขาไม่มีความผิด คนที่มาก่อนน่ะมีความผิด แล้วกลัวคนที่พยักหน้าเนี่ยไม่ได้แก้ไข นี่ผิดตรงนี้ ไม่ได้แก้ไข หลบความรับผิดชอบ มันเป็นอย่างนั้น ในเมืองไทยนี่ คนไหนที่ทำอะไรไม่เข้าร่องเข้ารอยก็ลาออก ลาออกแล้วไม่มีอะไรผิดเลย แม้จะทำอะไรผิดอย่างมากๆ"

"ถ้าเป็นข้าราชการ ก็เรียกเข้ากระทรวง เข้ากรุงเทพฯ แล้วก็หมดเรื่อง นานๆ ทีมีเข้าคุก นี่พูดอย่างนี้ชักจะหนัก ใช้คำว่าเรียกเข้ากรุงเทพฯ หรือเข้าคุก แต่มีที่เกิดเรื่องเข้าคุก แต่อย่างไรก็ตาม เข้าคุกแล้ว ถ้าเป็นการละเมิดพระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์เองเดือดร้อน เดือดร้อนหลายทาง ทางหนึ่ง ต่างประเทศเขาบอกว่าเมืองไทยนี่ พูดวิจารณ์พระมหากษัตริย์ ไม่ได้ ว่าวิจารณ์ไม่ได้ก็เข้าคุก มีที่เข้าคุก เดือดร้อนพระมหากษัตริย์ ต้องบอกว่าเข้าคุกแล้วต้องให้อภัย ที่เขาด่าเรา อย่างหนัก ฝรั่งเขาบอกว่าในเมืองไทยนี่ พระมหากษัตริย์ถูกด่า ต้องเข้าคุก"

"ที่จริงควรเข้าคุก แต่เพราะฝรั่งบอกอย่างนั้น ก็ไม่ให้เข้า ไม่มีใครกล้าเอาคนที่ด่าพระมหากษัตริย์เข้าคุก เพราะพระมหากษัตริย์เดือดร้อน เขาหาว่า พระมหากษัตริย์เป็นคนที่ไม่ดี อย่างน้อยที่สุด ก็เป็นคนที่จั๊กจี้ ใครว่าไรซักนิด ก็บอกให้เข้าคุก ที่จริงพระมหากษัตริย์ไม่เคยบอกให้เข้าคุก ตั้งแต่สมัยรัชกาลก่อนๆ เป็นกบฏ ก็ยังไม่จับใส่คุก ไม่ลงโทษ รัชกาลที่ 6 ท่านไม่ลงโทษ ไม่ได้ลงโทษผู้ที่เป็นกบฏ มาจนถึงต่อมา รัชกาลที่ 9 ใครเป็นกบฏ ก็ไม่เคยมีแท้ๆ ที่จริงก็ทำแบบเดียวกันไม่ให้เข้าคุก ให้ปล่อย หรือถ้าเข้าคุกแล้ว ก็ให้ปล่อย ถ้าไม่เข้าก็ไม่ฟ้อง เพราะเดือดร้อนผู้ที่ถูกด่า เป็นคนเดือดร้อน"

"อย่างที่คนที่ละเมิดพระมหากษัตริย์ และถูกทำโทษไม่ใช่คนนั้นเดือดร้อน พระมหากษัตริย์เดือดร้อน นี่ก็แปลก คราวนี้นักกฎหมายก็ชอบให้ฟ้อง ให้ จับเข้าคุก อันนี้นักกฎหมายก็สอน นายกฯ ว่าต้องฟ้อง ต้องลงโทษ ก็สอน นายกฯ ว่าใครบอกว่าให้ลงโทษ อย่าลงโทษเขา ลงโทษไม่ดี ลงท้ายไม่ใช่ นายกฯ เดือดร้อน แต่พระมหากษัตริย์เดือดร้อน อาจจะอยากให้พระมหากษัตริย์เดือดร้อน ไม่รู้นะ เขาทำผิด เขาด่าพระมหากษัตริย์ เพื่อให้พระมหากษัตริย์เดือดร้อน และเดือดร้อนจริงๆ เพราะใครมาด่าเราชอบไหม ไม่ชอบ"

"แต่ถ้านายกฯ เกิดให้ลงโทษ แย่เลย แล้วนักกฎหมายต้องการให้ลงโทษคนที่ด่าพระมหากษัตริย์ ทำไป ทำมา เอาวะ เขาด่านายกฯ ถ้าด่านายกฯ นายกฯ เดือดร้อนไหม ไม่ควรเดือดร้อน แต่ถ้าด่านายกฯ พระมหากษัตริย์ก็ ไม่เดือดร้อน เพราะว่าเป็นเรื่องนายกฯ แต่ถ้าเขาด่าพระมหากษัตริย์ นายกฯ เดือดร้อน เพราะต้องเป็นคนจัดการ ยุ่งอย่างนี้ กฎหมายก็สอนนายกฯ มาอย่างนั้น สอนว่าใคร ใครด่าเรา เราต้องด่าเขา นี่พูดชักจะไม่ดี ชักจะเป็นส่วนตัว เราเองก็ไม่ขอบอกว่าควรจะทำอะไร ควรรู้"

ข่าวล่าสุด

เวทีไทย–จีนเปิดเกมลงทุนใหม่ ดัน Industrial Park เชื่อมซัพพลายเชนโลก