posttoday

รวบอดีตเลขารักเกียรติปล้น7ล.

27 กันยายน 2553

ตำรวจจับยกแก๊งปล้นทรัพย์ได้ของกลาง 7 ล้านบาท มีอดีตเลขาฯรักเกียรติร่วมด้วยเผยเคยถูกจำคุกคดีทุจริตยาสธ.

ตำรวจจับยกแก๊งปล้นทรัพย์ได้ของกลาง 7 ล้านบาท มีอดีตเลขาฯรักเกียรติร่วมด้วยเผยเคยถูกจำคุกคดีทุจริตยาสธ.

ตำรวจจับกุม นายสันต์ทัศน์ จรัสเสถียร อายุ 46 ปี ที่ปรึกษา นายก อบจ.พิษณุโลก และอดีตที่ปรึกษาและเลขานุการส่วนตัวของ นายรักเกียรติ สุขธนะ อดีต รมว.สาธารณสุข หลังตำรวจสืบทราบว่าเป็นแก๊งปล้นทรัพย์รายใหญ่โดยจับกุมได้ที่ จ.พิษณุโลก

การจับกุมครั้งนี้ตำรวจยังจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้อีก 3 คน ประกอบด้วย นายคทากรณ์ คำนวณ อายุ 56 ปี จับกุมได้ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลสาขาลาดพร้าว นายสงวน คมคาย อายุ 56 ปี จับกุมได้ที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขาบางกะปิ และนายชัยชนะ สุภนามัย อายุ 34 ปี จับกุมได้ที่ จ.ชลบุรี

ตำรวจยึดของกลางประกอบด้วย พระเครื่อง 30 องค์ นาฬิกาข้อมือฝังเพชร และเครื่องประดับเพชรทอง อาทิ แหวน  ตุ้มหู สร้อยข้อมือ กำไล สร้อยคอ อาวุธปืนขนาด .38 พร้อมเครื่องกระสุน รวม 32 รายการ มูลค่าประมาณ 7 ล้านบาท

พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1) กล่าวว่า การจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา นายฉัตรชัย ฉัตรวิจิตรโชค เจ้าของกิจการร้านค้าวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ใน จ.นนทบุรี เข้าแจ้งความกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ว่า มีกลุ่มคนร้ายบุกเข้ามาปล้นทรัพย์ โดยใช้อาวุธปืนจี้ตัวแม่บ้าน ก่อนปิดตาและใช้เชือกมัดมือและเท้าขังตัวไว้ในห้องน้ำ

จากนั้นคนร้ายได้งัดตู้เซฟลักเอาทองรูปพรรณ ทองคำแท่ง น้ำหนัก 40 บาท เครื่องประดับ พระเครื่องและเงินสด ก่อนหลบหนีไป ต่อมาชุดสืบสวนสืบทราบว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุกลุ่มนี้มี นายวิชาญ พานิคม เป็นหัวหน้าแก๊ง ซึ่งยังคงหลบหนี และมีนายแป๊ะ ไม่ทราบชื่อและนามสกุล กับพวกอีก 4 คน ร่วมกันก่อเหตุ

พล.ต.ท.กฤษฎา กล่าวอีกว่า ชุดสืบสวนได้เร่งออกติดตามคนร้ายทั้งหมด กระทั่งสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 รายไว้ได้พร้อมของกลางบางส่วน แต่สำหรับทองคำแท่งคนร้ายได้นำไปหลอมที่ย่านบ้านหม้อ กทม.ก่อนขายได้เงินเป็นจำนวน 4 แสนบาท ซึ่งทั้งหมดได้นำมาแบ่งกันก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนีไป เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน

สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ให้การรับสารภาพ โดย นายสงวน มีหน้าที่เป็นคนชี้เป้าในการปล้น ส่วนนายชัยชนะ นายคทากรณ์ นายวิชาญ และนายแป๊ะ เป็นคนเข้าไปปล้นในร้านที่เกิดเหตุ ขณะที่ นายสันต์ทัศน์ เป็นผู้นำทรัพย์สินที่ได้มาไปจำหน่าย และเก็บเอาไว้เองบางส่วน ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน และขยายผลติดตามนายวิชาญ และนายแป๊ะ ผู้ต้องหาที่เหลือซึ่งยังหลบหนีการจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป

ตำรวจระบุว่า จากการตรวจสอบประวัติ นายสันต์ทัศน์ พบว่า เคยถูกศาลพิพากษาจำคุกในคดีทุจริตจัดซื้อยาของกระทรวงสาธารณสุข พร้อมกับ นายรักเกียรติ มาก่อนหน้านี้และพ้นโทษมาพร้อมกัน ก่อนจะร่วมกับพวกก่อเหตุปล้นทรัพย์ในครั้งนี้.

ข่าวล่าสุด

ผู้ว่า ธปท. ห่วงบาทแข็งเร็ว สั่งตรวจเข้มทำธุรกรรมซื้อขายดอลลาร์