เปิดปราสาทเขาโล้น รองรับทับหลังที่เรียกคืนจากสหรัฐ
ปราสาทเขาโล้น ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ที่เงียบเหงา แม้กระทั่งวัดที่อยู่ในบริเวณเดียวกันก็มีพระภิกษุจำพรรษาเพียงรูปเดียว
โดย...ส.สต
ปราสาทเขาโล้น ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ที่เงียบเหงา แม้กระทั่งวัดที่อยู่ในบริเวณเดียวกันก็มีพระภิกษุจำพรรษาเพียงรูปเดียว แต่เมื่อวันที่ 16 ส.ค. กลับคึกคักมีชีวิตชีวา เมื่อผู้คนมากหน้าหลายตาทั้งข้าราชการทหาร พลเรือน ตำรวจ ชาวนา ชาวไร่ และชาวบ้านทั่วไป พากันมาต้อนรับอธิบดีกรมศิลปากร อนันต์ ชูโชติ และคณะที่มีกำหนดการเปิดความพร้อมปราสาทเขาโล้น เพื่อรอคอยการกลับมาของทับหลังทสูญหายไป ปัจจุบันมีผู้พบว่าอยู่ในพิพิธภัณฑ์ส่วนบุคคล ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา
เตรียมรับทับหลัง
การเดินทางไป จ.สระแก้ว ของ อนันต์ชูโชติ เมื่อวันที่ 16 ส.ค. นอกจากประกาศเอาคืนทับหลังของปราสาทเขาโล้น แล้วก็มีรายการประกาศความพร้อมในการยกปราสาทสด๊กก๊อกธม อ.โคกสูง เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ด้วย แต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ความผิดปกติการบูรณะซ่อมแซมพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม ทางโซเชียลมีเดียแรงขึ้นตามลำดับ ทำให้อธิบดีอนันต์ ต้องจัดโปรแกรมใหม่ เอาเพียงเปิดปราสาทเขาโล้นแห่งเดียว ที่เหลือยกให้ ประทีป เพ็งตะโก รองอธิบดีกรมศิลป์ ดำเนินการ เพราะตัวอธิบดีต้องมาแถลงข่าวด่วนเรื่องการบูรณปฏิสังขรณ์พระปรางค์วัดอรุณฯ ที่กรุงเทพฯ ในช่วงบ่าย
อย่างไรก็ตาม ในการประกาศเรียกคืนทับหลังปราสาทเขาโล้นนั้น อนันต์ บอกว่า เรื่องนี้เปิดประเด็นโดย ทนงศักดิ์ หาญวงษ์ นักวิชาการอิสระ คนหนึ่ง กรมศิลปากร จึงสานต่อหลังจากมั่นใจในหลักฐานที่พบ ซึ่งเป็นภาพถ่ายเก่าที่ ม.จ.สุภัทรดิศ ดิศกุล ทรงถ่ายเมื่อ พ.ศ. 2510 เป็นภาพยืนยันว่าเหมือนกันทุกอย่าง แม้กระทั่งรูร้อยเดือย ลวดลายรวมถึงเทพที่แลบลิ้น 3 เหลี่ยม
อนันต์ เล่าว่า ขั้นตอนการขอคืนทับหลังจากพิพิธภัณฑ์ในซานฟรานซิสโกนั้นได้รับความร่วมมือจากผู้ที่เกี่ยวข้องดี จึงบอกพี่น้องชาวสระแก้วว่าน่าจะได้รับข่าวดี เพราะมีสัญญาณที่ดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงความมั่นคงภายในของสหรัฐอเมริกา และกระทรวงการต่างประเทศของไทย
เมื่อได้ทับหลังมาแล้ว คงต้องนำมาประดิษฐานไว้ที่เดิม เหมือนทับหลังนารายณ์บรรทมสินธ์ุ ที่นำมาประดิษฐานที่ปราสาทเขาพนมรุ้ง หลังจากได้คืนจากสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2531
เมื่อได้มาแล้ว จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวย่านปราสาทเขาโล้นได้เป็นอย่างดี ส่วนประชาชนใกล้เคียงก็จะมีอาชีพเสริมเพิ่มขึ้น
แต่จะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะได้คืนทับหลัง ยังบอกไม่ได้ แต่ได้เตรียมคนเพื่อการเจรจากับพิพิธภัณฑ์เอกชนที่เก็บทับหลังไว้แล้ว ซึ่งทางไทยพร้อมจะยืนยันด้วยภาพถ่าย และบอกเขาว่า ทับหลังนั้นออกจากไทยไปโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
ธรรมศักดิ์ รัตนธัญญา รอง ผวจ.สระแก้ว ซึ่งไปร่วมงานด้วย กล่าวว่า จะทำแผนพัฒนาปราสาทเขาโล้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป โดยจะบูรณาการกับกรมศิลป์ พร้อมกับบอกว่าที่นี่เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง โดยมีการจัดตักบาตรเทโวโรหณะ ติดต่อกันมานานหลายปีแล้ว ประชาชนทั่วไปมาร่วมพิธีใส่บาตรกันเนืองแน่น ส่วนงานพัฒนานั้น นายอำเภอตาพระยา อารยันต์ ท่าใหญ่ จะเป็นผู้ประสานงาน เพื่อทำถนนจึงอำนวยความสะดวกต่างๆ ตลอดถึงการสร้างห้องสุขาให้เพียงพอ ซึ่งนายอำเภอว่างานนี้ประชาชนฝากความหวังไว้กับกรมศิลป์
อ.ตาพระยา จัดพิธีเปิดปราสาทเขาโล้นอย่างสมเกียรติ โดยจัดหานักเรียนจากโรงเรียนทัพราช มาแสดงการฟ้อนรำแบบโบราณต้อนรับคณะอธิบดีอนันต์ ที่ด้านหน้าปราสาท ซึ่งบริเวณโดยรอบกำลังขุดค้นหาร่องรอยโบราณคดีเพิ่มเติม ในขณะที่ประชาชนทั่วไปก็มานั่งเรียงรายต้อนรับกันเต็มบริเวณปราสาทนั้น
ปราสาทสร้าง พ.ศ. 1700-1750
ปราสาทเขาโล้นตั้งอยู่บนภูเขาขนาดเล็กลูกหนึ่งกลางป่าโปร่ง สูงประมาณ 30 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 600 เมตร ภูเขานี้เป็นส่วนหนึ่งของเขาสะแกกรอง ทางด้านทิศตะวันออกมีทางขึ้นสู่ปราสาท โดยมีลักษณะการเรียงหินทรายให้เป็นขั้นบันได
จากหนังสือ ศิลปะสมัยลพบุรี ของม.จ.สุภัทรดิศ ดิศกุล ตีพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2510 ได้กล่าวถึงปราสาทเขาโล้น ว่า...เป็นปราสาทหลังเดียวก่อด้วยอิฐ ทับหลังเป็นรูปเกียรติมุขอยู่ตรงกลาง มีริมฝีปากล่างและแลบลิ้นออกมาเป็นแผ่นสามเหลี่ยม มีเทวดาประทับนั่งชันเขาอยู่ข้างบน อย่างไรก็ดี ท่อนพวงมาลัยนั้นมิได้ออกจากปากเกียรติมุขแต่อยู่ใต้ลิ้นและท่อนปลายของพวงมาลัยก็ขมวดเป็นวงโค้งสลับกันเพียงข้างละ 2 วงเท่านั้น เหตุนั้นจึงอาจอยู่ในระหว่าง พ.ศ. 1700-1750
วัดปราสาทเขาโล้น
ที่ปราสาทเขาโล้นนี้มีตั้งอยู่ในแหล่งโบราณคดีมานาน ชื่อว่าวัดเขาโล้น แต่เดิมนั้นพระสงฆ์และชาวบ้านสร้างศาลา ตั้งพระพุทธรูปไว้หนึ่งองค์ที่หน้าปราสาทเขาโล้น บัดนี้ศาลาถูกรื้อออกไป พระพุทธรูปก็ย้ายไปที่อื่น แต่ยังมีพระภิกษุยังมีเฝ้ากุฏิ ที่ตั้งอยู่เชิงเขา 1 รูป ชื่อพระภิกษุสำเภา พุทธจาโร อายุ 53 ปีท่านบอกว่า ทั้งวัดมีพระภิกษุเพียงรูปเดียว และไม่มีใครอยากมาอยู่เพราะเป็นที่กันดาร อยู่ยากลำบาก น้ำไม่มี ไฟฟ้าไม่มี แต่ที่อยู่ได้เพราะรักป่าไม้ ชอบปลูกป่า
ส่วนน้ำที่ใช้ทุกวัน เป็นน้ำฝนที่เก็บไว้ในโอ่ง ในแท็งก์ ถ้ามีพระมากก็ไม่พอใช้ ส่วนไฟฟ้านั้นก็ติดตั้งโซลาร์เซลล์พอใช้ได้ และต่อสายมาใช้เปิดเครื่องเสียงในพิธีที่ปราสาทเขาโล้นในวันนี้ด้วย
ท่านเล่าว่าเป็นคนบุรีรัมย์บวชมา 5-6 พรรษา ธุดงค์ไปเรื่อยแวะมาเจอวัดเขาโล้นจึงเข้ามาอยู่ ส่วนพระที่เคยอยู่ก่อน 1 รูป พอเห็นท่านมาก็หาโอกาสออกไป เพราะมีพระมาเฝ้าวัด บัดนี้เป็นหน้าที่ที่ท่านต้องเฝ้าวัดไม่ให้ร้าง กำลังรอคอยคนมีบารมีมาอยู่ต่อ จึงบอกว่าพระรูปใดพร้อมจะมาอยู่มาได้เลย ส่วนท่านก็จะธุดงค์ตามที่ชอบต่อไป
ท่านบอกอีกว่าท่านฉันอาหารมื้อเดียว ถือสันโดษ ปลูกป่า ปฏิบัติกรรมฐาน และไปญัตติเป็นพระธรรมยุตเมื่อ พ.ศ. 2555 เพราะชอบอยู่ป่าก็เท่านั้นเอง แต่วัดปราสาทเขาโล้น เป็นวัดของมหานิกาย อยู่ได้ไม่มีใครว่า เพราะอยู่องค์เดียว ไม่มีนิกายอื่นมาปะปน


