ยูเอ็นชี้ไทยมีบุคคลถูกบังคับสูญหาย-ซ้อมทรมาน82ราย

รมว.ยธ.เผยยูเอ็นระบุไทยมีบุคคลถูกบังคับสูญหาย-ซ้อมทรมาน 82 ราย อธิบดีคุ้มครองสิทธิฯ ชี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ กรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้สูญหายครั้งที่ 1/2560 โดยระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งสำนักนายกฯเมื่อวันที่23 พ.ค.ที่ผ่านมาให้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กรณีถูกกระทำทรมานและบังคับให้สูญหาย ตนจึงเรียกประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยประเด็นสำคัญ คือการกำหนดกระบวนการและแนวทางการทำงานของคณะกรรมการฯชุดดังกล่าวรวมทั้งการแต่งตั้งคณะ อนุกรรมการขึ้นทั้งหมด 3 ชุดประกอบด้วยคณะอนุกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริง คณะอนุกรรมการป้องกันและให้การศึกษา และคณะอนุกรรมการเยียวยา ซึ่งประชาชนสามารถเข้าร้องทุกข์ในกรณีที่ตกเป็นเหยื่อถูกกระทำทรมานและบังคับให้สูญหายได้ที่หน่วยงานรัฐทุกแห่งทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงยุติธรรมและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.)

นายสุวพันธ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตัวเลขขององค์การสหประชาติได้ระบุว่าประเทศไทยมีบุคคลถูกบังคับให้สูญหายและถูกซ้อมทรมานจำนวน 82 ราย โดยคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ฯจะพิจารณาเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งในอดีตและปัจจุบันทั้งกรณีของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ และนายสมชาย นีละไพจิตร และการซ้อมทรมานในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งหลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องจัดทำบัญชีรายชื่อใหม่อีกครั้งเพื่อไม่ให้ตัวเลขผู้ถูกกระทำทรมานและบังคับให้สูญหายซ้ำกันโดยจะมีการประชุมเพื่อบูรณาการทำงานร่วมกันอีกครั้งในเดือนส.ค.นี้

"สำหรับพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคลให้สูญหายขณะนี้ยังอยู่ระหว่างปรับปรุงและแก้ไขเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา 77ตามรัฐธรรมนูญ ให้สอดคล้องกับมาตร ฐานสากล และบริบทระหว่างประเทศรวมทั้งรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อนที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง”รัฐมนตรีว่าการกระทวงยุติธรรมกล่าว

ขณะที่ น.ส.ปิติกาญจน์ สิทธิเดช อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานรัฐมีการจ่ายเงินเยียวยาผู้เสียหายตาม พ.ร.บ.ตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา และมีกองทุนยุติธรรมให้ความช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิส่วนในพื้นที่ภาคใต้ก็มีศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.)ให้ความดูและเรื่องการถูกซ้อมทรมานและสูญหาย ซึ่งปัจจุบันการถูกซ้อมทรมานและการบังคับสูญหายเป็นอาชญากรรมรุนแรงและยังไม่มีการกำหนดเกณฑ์ค่าตอบแทน 

อย่างไรก็ตามสำหรับตัวเลขการถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญของกรมคุ้มครองสิทธิฯมี 37 ราย ทั่วประเทศ ขณะนี้คดียุติแล้ว 12 ราย ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร

“การเยียวยาหลังจากนี้จะมีการบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันไม่มีการเยียวยาซ้ำซ้อนสำหรับเงื่อนไขสำคัญของคดีการถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญ คือเป็นคดีที่ไม่มีอายุความและต้องถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลข่าวสารการซ้อมโดยบุคคลทั่วไปไม่ถือเป็นการทรมานแต่เป็นคดีอาญาทั่วไป”อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกล่าว