posttoday

อิตาเลียนไทยเดินหน้า สร้างเขตเศรษฐกิจทวาย

19 มิถุนายน 2560

โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้องโครงการ ซึ่งเป็นเมกะโปรเจ็กต์ ที่บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ยักษ์รับเหมาก่อสร้างของไทยได้สัมปทานพัฒนา 75 ปี แต่โครงการไม่มีความคืบหน้ามานานกว่า 2 ปี เนื่องจากเมียนมามีการเลือกตั้งผู้นำคนใหม่ หลังจากมีความชัดเจนทางการเมือง โครงการนี้เริ่มกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้งเปรมชัย กรรณสูต กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) เปิดเผยว่า บริษัท อิตาเลียนไทยฯ และบริษัท โรจนะ ซึ่งเป็นผู้ชนะในสัญญาสัมปทานโครงการทวายในระยะเฟส 1 มูลค่าโครงการ 3.7 หมื่นล้านบาท ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลเมียนมาในช่วงเดือน ก.พ. 2560 ที่ผ่านมา ให้เริ่มดำเนินโครงการได้ โดยจะมีการเซ็นสัญญาจัดซื้อจัดจ้างในเดือนนี้ พร้อมกับลงทุนวางระบบ ซึ่งจะทำให้เริ่มโครงการเฟสแรกได้ทันทีเปรมชัย ระบุว่า ขณะนี้มีนักลงทุนไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น หลายร้อยรายสนใจลงทุนตั้งโรงงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายจำนวนมาก ธุรกิจที่ให้ความสนใจมาลงทุนก็มีทั้งธุรกิจสิ่งทอ อาหาร ซึ่งถ้ามาลงทุนก็จะทำให้เกิดการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 6 หมื่น-1 แสนคน“หากดำเนินการได้จริงจะทำให้เกิดการลงทุนจ้างงานร่วม 1 แสนล้าน

โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่โครงการที่เกี่ยวข้องโครงการ ซึ่งเป็นเมกะโปรเจ็กต์ ที่บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ยักษ์รับเหมาก่อสร้างของไทยได้สัมปทานพัฒนา 75 ปี แต่โครงการไม่มีความคืบหน้ามานานกว่า 2 ปี เนื่องจากเมียนมามีการเลือกตั้งผู้นำคนใหม่ หลังจากมีความชัดเจนทางการเมือง โครงการนี้เริ่มกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง

เปรมชัย กรรณสูต กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) เปิดเผยว่า บริษัท อิตาเลียนไทยฯ และบริษัท โรจนะ ซึ่งเป็นผู้ชนะในสัญญาสัมปทานโครงการทวายในระยะเฟส 1 มูลค่าโครงการ 3.7 หมื่นล้านบาท ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลเมียนมาในช่วงเดือน ก.พ. 2560 ที่ผ่านมา ให้เริ่มดำเนินโครงการได้ โดยจะมีการเซ็นสัญญาจัดซื้อจัดจ้างในเดือนนี้ พร้อมกับลงทุนวางระบบ ซึ่งจะทำให้เริ่มโครงการเฟสแรกได้ทันที

เปรมชัย ระบุว่า ขณะนี้มีนักลงทุนไต้หวัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น หลายร้อยรายสนใจลงทุนตั้งโรงงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายจำนวนมาก ธุรกิจที่ให้ความสนใจมาลงทุนก็มีทั้งธุรกิจสิ่งทอ อาหาร ซึ่งถ้ามาลงทุนก็จะทำให้เกิดการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 6 หมื่น-1 แสนคน

“หากดำเนินการได้จริงจะทำให้เกิดการลงทุนจ้างงานร่วม 1 แสนล้านบาท ส่วนเงินลงทุนเฟสแรก จำนวน 3.7 หมื่นล้านบาท บริษัทจะขอการสนับสนุนจากธนาคารกรุงเทพและธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เป็นหลัก ซึ่งคงจะเป็นในรูปของการร่วมปล่อยกู้ (ซินดิเคทโลน)” เปรมชัย กล่าว

สำหรับโครงการทวายเฟสแรกนั้น จะลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภค จะพัฒนาบนพื้นที่ 2 หมื่นไร่ จากจำนวนพื้นที่ในโครงการ 1.2 แสนไร่ ตามสัญญาโครงการมีระยะเวลาสัมปทาน 50 ปี และสามารถต่ออายุสัมปทานเพิ่มได้อีก 20 ปี ซึ่งถ้าเริ่มลงทุนได้ก็จะทำให้เริ่มขายพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมเพื่อให้นักลงทุนมาลงทุนได้ โดยคาดว่าอุตสาหกรรมต่างๆ จะมาลงทุนได้ในปี 2562

พิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ เอ็กซิมแบงก์ กล่าวว่า บริษัท อิตาเลียนไทยฯ ยังไม่ได้ยื่นขอสนับสนุนสินเชื่อในโครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือทวายมา หากยื่นขอกู้มาธนาคารก็จะพิจารณาจากความเป็นไปได้ของโครงการ ซึ่งเท่าที่พิจารณาเบื้องต้นเห็นว่าโครงการนี้เริ่มมีความเป็นไปได้สูงขึ้นมาก เพราะโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมโยงชายแดนไทยที่ด่านบ้านพุน้ำร้อนกับเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ระยะทาง 132 กม. กว่า 4,500 ล้านบาท ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของไทยอนุมัติแล้วให้ความช่วยเหลือเป็นเงินกู้กับรัฐบาลเมียนมาจากสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (NEDA)

“ส่วนท่าเรือและโรงไฟฟ้าขนาดเล็กอยู่ในระหว่างการพิจารณาแบบก่อสร้างรายละเอียดเรื่องรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากเมียนมา ถ้าโครงการทวายเดินหน้าได้ เราก็พร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าจะสามารถดึงนักลงทุนเข้าไปลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมที่จะสร้างขึ้นได้มากแค่ไหน” พิศิษฐ์ กล่าว 

ข่าวล่าสุด

การปรับบุคลิกของ ChatGPT สู่รูปแบบคำตอบที่ตรงใจยิ่งขึ้น