กางกฎหมายดูโทษ 3 ข้อหา"แก๊งฆ่าหั่นศพ"
พลิกประมวลกฎหมายอาญาดูอัตราโทษ 3 ข้อกล่าวหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งแก๊งฆ่าหั่นศพ
พลิกประมวลกฎหมายอาญาดูอัตราโทษ 3 ข้อกล่าวหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งแก๊งฆ่าหั่นศพ
คดีสะเทือนขวัญสังคมไทยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เดินมาถึงจุดที่เจ้าหน้าที่สามารถติดตามผู้ต้องหาได้ครบทุกคนแล้ว หลังจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงว่าขณะนี้จับกุมผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ น.ส.วริสรา กลิ่นจุ้ย หรือ แอ๋ม ได้ครบแล้ว คือ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว อายุ 24 ปี, น.ส.กวิตา ราชดา หรือ เอิร์น อายุ 25 ปี และ น.ส.อภิวันทน์ สัตยบัณฑิต หรือ แจ้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้จับกุม น.ส.จิดารัตน์ พรหมคุณ หรือ เบ๊นซ์ และนายวศิน นามพรหม อายุ 25 ปี ซึ่งตอนนี้ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ หลังศาลจังหวัดขอนแก่น ไม่อนุญาตให้ประกันตัว
ทั้งหมดถูกแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา ประกอบด้วย ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันใดลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทําลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และ ลักทรัพย์ แต่วันนี้เปรี้ยวสารภาพว่า เบ๊นซ์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้อาจมีผู้ต้องหาในขบวนการจริงเพียง 4 คน แต่รูปการทางคดีจะเป็นอย่างไร อยู่ที่ดุลพินิจของศาลจังหวัดขอนแก่นพิจารณา
สำหรับสาเหตุปมสังหารโหดครั้งนี้ ผบ.ตร. ชี้ว่า ผู้ต้องหาสารภาพว่ามาจากความแค้นส่วนตัว ที่ผู้ตายเคยซัดทอดเรื่องยาเสพติดมาถึงเปรี้ยว และเรื่องหนี้สินอีกประมาณ 3-4 หมื่นบาท จึงเป็นชนวนการก่อเหตุ
หากพลิกพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา เกี่ยว 3 ข้อหาดังกล่าว ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ระบุว่า ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุก ตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี แต่ทางกฎหมายแม้บทบัญญัติโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต แต่ก็เปิดโอกาสให้ศาลสามารถใช้ดุลพินิจกำหนดโทษกับผู้กระทำความผิดได้ตามแต่จะพิจารณา
หากถูกตั้งข้อกล่าวหามาตรา 289 (4) ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ทางกฎหมายจะไม่เปิดช่องให้ศาลใช้ดุลยพินิจกำหนดโทษได้ เพราะแสดงให้เห็นว่ามีการไตร่ตรองก่อนที่จะลงมือกระทำความผิด ซึ่งกฎหมายบัญญัติโทษไว้เพียงสถานเดียวคือ ประหารชีวิต
แต่ก่อนหน้านี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยว่า แม้โทษประหารชีวิตยังคงมีอยู่ในกฎหมาย แต่ประเทศไทย 8-9 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีการบังคับใช้โทษประหารชีวิตจริงเลย
ขณะที่มาตรา 199 ผู้ใดลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทําลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
มาตรา 334 ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกหมื่นบาท
โทษของผู้ต้องหาคดีนี้ จะเป็นอย่างไร อยู่ที่กระบวนการยุติธรรมจะพิจารณา


