ลุ้นอุโมงค์คลองบางซื่อ เสร็จ 12 ส.ค.บรรเทาน้ำท่วม
เข้าสู่ฤดูฝนไม่นาน น้ำก็ท่วม กทม.หนัก กว่าจะสิ้นสุดฤดูฝนยังมีพายุฝนรอถล่ม ต้องลุ้นอุโมงค์คลองบางซื่อสร้างเสร็จวันที่ 12 ส.ค. แก้น้ำท่วม กทม.ได้แค่ไหน
โดย...นิติพันธุ์ สุขอรุณ
2 สัปดาห์ที่เพิ่งเริ่มเข้าฤดูฝน แต่สำหรับ กทม.แค่แรกเริ่มก็ผวาทั้งเมือง เพราะไม่รู้จากนี้อีก 3-4 เดือนจนจบ ฤดูฝน จะมีพายุเข้า กทม.กี่ลูก แล้วบ้านใครจะมิดน้ำบ้าง
โดยเฉพาะถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นจุดเปราะบางที่น้ำท่วมซ้ำซากทุกปี เช่น บริเวณหน้าศาลอาญา หากฝนเทหนักๆ เพียงแค่ 1-2 ชั่วโมง ก็จะกลายเป็นคลองในบัดดล
สืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม เล่าว่า เหตุการณ์น้ำท่วมหน้าศาลทำให้ข้าราชการศาลล้วนได้รับผล กระทบเหมือนประชาชนในเมือง แต่ก็ถือว่าเป็นเหตุการณ์สุดวิสัย เข้าใจกันได้
"คดีความต่างๆ ก็ต้องดูเหตุการณ์เฉพาะหน้า เช่น หากฝนตกน้ำท่วม คู่ความไม่สะดวกเดินทางมา ก็โทรติดต่อศาล หรือแฟกซ์ส่งหนังสือชี้แจงมายังศาล ซึ่งศาลก็จะพิจารณาโดยดูจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้นว่าสมควรเลื่อนการพิจารณาคดีหรือไม่" โฆษกศาลยุติธรรม กล่าว
สมพงษ์ เวียงแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กล่าวว่า ถนน รัชดาฯ เป็นที่ลุ่ม เมื่อฝนตกลงหนัก ก็ต้องใช้เวลาระบาย การแก้ปัญหา น้ำท่วมขณะนี้คือ ลดระดับน้ำในคลองน้ำแก้วลงไป 60-70 ซม. เพื่อรองรับ น้ำฝนที่จะตกลงมาอีก อีกด้านเร่งระบายน้ำลงคลองบางซื่อ ที่บริเวณอาคารรับน้ำข้างโรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค
นอกจากนี้ ได้เดินเครื่องสูบน้ำตลอด 24 ชั่วโมง และจากเดิมที่มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ กว่า 700 เครื่อง จนถึงขณะนี้ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำกว่า 1,400 เครื่อง ผลักดัน ตามคลองต่างๆ เพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่กว่า 30 ตัว คาดว่าจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ฝนที่จะตกลงมาได้
สมพงษ์ กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วม กทม.ส่วนหนึ่งเกิดจากเมืองมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พื้นที่บนถนนหลายแห่งถูกถมที่ดินให้สูงขึ้น สร้างเป็นที่พักอาศัย สำนักงานขนาดใหญ่ ทำให้เส้นทางน้ำไหลทางริมถนนในอดีตถูกลบหายไปกลายเป็นคอนกรีต ผนวกกับไม่มีพื้นที่แก้มลิงกักเก็บน้ำ ดังนั้นเมื่อ ท่อระบายน้ำรับภาระเต็มที่แล้ว เมื่อมีฝนตกลงมาอีกจึงรับไม่ไหว เพราะขนาดท่อระบายน้ำยังเท่าเดิม
เขาบอกว่า การวางมาตรการป้องกันน้ำท่วมอย่างยั่งยืนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคหลายอย่าง เช่น ถ้าจะวางท่อระบายน้ำใหม่การขุดดินลงไปอาจเจอเข้ากับท่อสาธารณูปโภค ท่อน้ำประปา สายไฟ สายโทรศัพท์ของอาคารในพื้นที่ ซึ่งท่อเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในแผนผังของเมือง และถ้าเป็นถนนสายเก่าของพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ไม่สามารถเพิ่มขนาดท่อระบายให้กว้างมากกว่า 1.2 เมตร ได้อีก เพราะถูกจำกัดความกว้างของฟุตปาทมีขนาดเล็ก ถูกขัดขวางด้วยตอม่อสะพานลอย ต้นไม้ สวนหย่อม
"ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไปมาก ส่วนหนึ่งการใช้ประสิทธิภาพของคลองยังไม่เต็ม รูปแบบ เนื่องจากมีชุมชนบ้านเรือนรุกล้ำกีดขวาง แม้ความพยายามของ กทม. จะใช้เครื่องสูบน้ำดึงน้ำออกจากท่อใต้ถนนไปสู่คลองให้เร็วที่สุดแล้ว แต่ว่าดึงอย่างไรก็ต้องใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง" สมพงษ์ กล่าว
สมพงษ์ กล่าวว่า ความสามารถของอุโมงค์ยักษ์คือ การรับน้ำจากคลองโดยตรง ไม่ใช่รับจากท่อระบายน้ำใต้ถนน ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากคลองได้เร็วขึ้น ทว่าโครงการ อุโมงค์ยักษ์ยังสร้างไม่เสร็จครบ ทุกแห่ง ซึ่งทุกวันนี้ใช้อุโมงค์ 2 แห่ง คือ 1.อุโมงค์ระบายน้ำ พระราม 9-รามคำแหง สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ถนนพระราม 9 ถนนรามคำแหง และคลองตันได้ 2.อุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบ หรืออุโมงค์บึงมักกะสัน
เหลืออุโมงค์อยู่ระหว่างการก่อสร้างและรออนุมัติงบประมาณอีก 5 แห่ง ประกอบด้วย อุโมงค์ใต้คลองบางซื่อ อุโมงค์ระบายน้ำจากบึงหนองบอน อุโมงค์ระบายน้ำคลองเปรมประชากรหรืออุโมงค์ยักษ์ดอนเมือง อุโมงค์ระบายน้ำทวีวัฒนา และอุโมงค์ระบายน้ำ คลองพระราชมนตรี หากสร้างเสร็จจะถือว่าวางระบบระบายน้ำอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
กระนั้น อุโมงค์ที่จะแก้ปัญหา น้ำท่วมถนนรัชดาฯ คือ อุโมงค์ระบายน้ำคลองบางซื่อ โดยจะเริ่มเปิดทดสอบระบบในวันที่ 12 ส.ค.นี้ มีความสามารถระบายน้ำใน 6 พื้นที่ ประกอบด้วย 1.ถนนพหลโยธิน บริเวณแยกสะพานควายถึงห้าแยกลาดพร้าว 2.ถนนวิภาวดีรังสิต บริเวณแยกสุทธิสารถึงห้าแยกลาดพร้าว 3.ถนนรัชดาภิเษก แยกรัชโยธินถึงคลองบางซื่อ 4.ถนนลาดพร้าว แยกรัชดาลาดพร้าวถึงคลองบางซื่อ 5.ถนนกำแพงเพชร และ 6.ถนนสามเสน ช่วงคลองบางกระบือถึงสี่แยกเกียกกาย


